แม้สังคมต่างจับตาพรรคพระแม่ธรณีบีบมวยผม "ประชาธิปัตย์" ในการเลือก "หัวหน้าคนใหม่" แทน "มาร์ค" อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ประกาศลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อการนำทัพสู่ความพ่ายแพ้ในสนามเลือกตั้ง
ทว่าบอกได้เลยว่าบรรยากาศในพรรคไม่ได้กดดันมากนักว่าจะเลือกใครเป็นผู้กุมบังเหียนคนต่อไปเหมือนที่สังคมมอง
ถึงภายนอกจะบีบให้พรรคเปิดปากแสดงจุดยืนทางการเมือง จะเป็นพรรคร่วมรัฐบาล หรือฝ่ายค้านก็ตามที เพราะเกมนี้ยังอีกยาวไกลและมีปัจจัยมากมายที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงการเลือกตั้ง 24 ม.ค.ที่ผ่านมา
ฉะนั้น "ประชาธิปัตย์" ยังจะเล่นบทนั่งบนภูดูเสือกัดกันจะดีกว่า ไม่มีความจำเป็นต้องผลีผลามหรือออกอาการใดๆ ในการแย่งกันจัดตั้งรัฐบาล ระหว่างขั้วพรรค "เพื่อไทย" กับขั้วพรรค "พลังประชารัฐ"
เพราะหลังจากวันที่ 9 พ.ค. อาจเกิดการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะจำนวน ส.ส.ที่ไม่ได้มีความแน่นอนแม้แต่น้อย!!!!
อย่างที่ “มาร์ค” อดีตหัวหน้าพรรค บอกไว้...
"ขณะนี้ไม่มีความจำเป็นที่จะรีบกำหนด เนื่องจากยังไม่รู้ว่า ส.ส.จะมีจำนวนเท่าไหร่ เพราะยังมีเรื่องใบเหลือง ใบแดง จาก กกต.อีก"
เราจึงได้เห็นกุนซือของพรรคแตะเบรกองคาพยพให้ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้ เพราะมีการประเมินว่าลึกๆ แล้วอาจเกิดอุบัติเหตุ จนนำสู่การเลือกตั้งครั้งใหม่ หรืออย่างน้อยที่สุดขอให้รอดู กกต.ประกาศผลจำนวน ส.ส.ให้สะเด็ดน้ำเสียก่อน
เนื่องจากจนถึงขณะนี้ ว่าที่ ส.ส.จากพรรคต่างๆ ยังคงเดินหน้าร้องเรียนให้นับคะแนนใหม่ บางรายยื่นหลักฐานให้ กกต.ตรวจสอบการทุจริตซื้อเสียงในพื้นที่ของตัวเอง ซึ่งหากมีการแจกใบแดงจริง ก็นำไปสู่การเลือกตั้งซ่อมในเขตเลือกตั้งนั้นๆ และต้องนำคะแนนที่ได้มาคำนวณใหม่ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด
แถมสูตรการคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ก็ยังไม่นิ่ง
โดยตอนนี้มีปัญหาพรรคเล็กที่ได้คะแนนไม่ถึงจำนวน ส.ส.พึงมี ได้ ส.ส.ไปด้วย ซึ่งหาก กกต.ยึดหลักนี้จริง พอยต์สำคัญที่ต้องตอบให้ได้คือ ทำไมคะแนนจำนวน ส.ส.พึงมีของพรรคใหญ่และพรรคเล็กจึงไม่เท่ากัน
ที่สำคัญต้องยอมรับว่าสังคมคาใจในความสุจริตเที่ยงธรรม!!!
โดยเฉพาะประเด็นจำนวนบัตรเลือกตั้งไม่ตรงจำนวนกับคนที่มาใช้สิทธิ์ หรือ "บัตรเขย่ง" นั่นเอง ซึ่งยังเป็นอีกหนึ่งปมที่ไร้คำตอบอย่างชัดเจนจาก กกต. หรือแม้แต่มติไม่นับบัตรเลือกตั้งของคนไทยในประเทศนิวซีแลนด์ จำนวน 1,542 ใบ
ด้วยประการฉะนี้ การเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ยังรอได้ ยังพอมีเวลาในการเก็บกวาดบ้านหลังใหญ่หลังนี้ และบอกตามตรงหลังจาก “อภิสิทธิ์” ลาออก ยังไม่เห็นมีใครครบเครื่อง
ตามแคนดิเดตที่ปรากฏเป็นข่าวทั้ง “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์” และ “กรณ์ จาติกวณิช” รักษาการรองหัวหน้าพรรค สมาชิกพรรคยังชั่งใจ เพราะแต่ละคนมีข้อดี ข้อเสีย ต่างกัน
"จุรินทร์" ลูกพรรคมองว่าเป็นคนมีความสุขุม ลุ่มลึก แต่ติดตรงภาพลักษณ์เป็นประชาธิปัตย์ยุคเก่าแก่ “กรณ์” มีภาพเป็นนักบริหารรุ่นใหม่มืออาชีพที่เก่งและทันสมัย ในทางตรงกันข้ามสายสัมพันธ์เพื่อนพี่น้องภายในพรรคยังไม่ค่อยใกล้ชิดแนบแน่นเท่าที่ควร
สถานการณ์แบบนี้ไม่มีคำพูดใดเหมาะสมกว่า “อยู่ให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้”.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |