นักวิเคราะหุ้นมองหุ้นมีสิทธิลงถึง 1,583 จุด จากปัจจัยการเมือง


เพิ่มเพื่อน    

 

2 มี.ค. 2562 นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการและกรรมการผู้อำนวยการสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน เปิดเผยว่า จากการสำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์ต่อมุมมองต่อทิศทางดัชนีราคาหุ้นไทยในปี 2562 ร้อยละ 48 มองว่าดัชนีราคาหุ้นไทยระยะสั้นในไตรมาสที่ 2 ปี 2562 มีแนวโน้มทิศทางบวก ในขณะที่ร้อยละ 40 มองไปในทิศทางไม่เปลี่ยนแปลงไปจากไตรมาสที่ 1 ปี 2562 และร้อยละ 12 มองว่าตลาดจะเปลี่ยนไปในทิศทางลบ

ทั้งนี้คาดว่าดัชนีราคาหุ้นไทย ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 จะเฉลี่ยอยู่ที่ 1,689 จุด โดยปัจจัยที่มีผลต่อดัชนีราคาหุ้นไทยในระยะสั้นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่า เรื่องการเมืองภายในประเทศรวมไปถึงการจัดตั้งรัฐบาล เป็นปัจจัยหลักต่อทิศทางตลาดหุ้นไทย รองลงมาคือเรื่องของสงครามการและเศรษฐกิจโลก

สำหรับดัชนีตลาดหลักทรัพย์ทั้งปี 2562 จะอยู่จุดต่ำสุดที่ 1,583 จุด และจุดสูงสุดที่ 1,764 จุด โดยปัจจัยหลักที่จะส่งผลให้หุ้นไทยเป็นไปในทิศทางลบและบวก มาจากเรื่องการเมือง เนื่องจากยังไม่ได้ความแน่ชัดเรื่องรัฐบาลชุดใหม่ ส่งผลให้นักลงทุนยังกังวลเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล และเรื่องสงครามการค้าสหรัฐและจีน ถึงแม้ว่าจะมีทิศทางการเจรจาเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น แต่นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงติดตามและกังวลเรื่องการยืดเยื้ออยู่

“ปัจจัยการเมืองยังเป็นได้ทั้งปัจจัยบวกและปัจจัยลบ เนื่องจากหากสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้และมีเสถียรภาพจะเป็นบวก ซึ่งคาดว่าจะมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้ภายในต้นเดือนพฤษภาคมนี้แน่นอน โดยปัจจัยที่มีผลกระทบทำให้ตลาดหุ้นผันผวนเป็นเรื่องของการเลือกตั้งและปัจจัยนอกประเทศ อาทิ สงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน ที่มีท่าทีว่าจะสามารถเจรจากันได้ แต่ปัจจุบันยังไม่มีความแน่นอนเกิดขึ้น ซึ่งเป็น 2 ปัจจัยหลักที่ทำให้ตลาดเหวี่ยงขึ้นลงได้ โดยในขณะนี้นักลงทุนให้ความสนใจเรื่องบรรยากาศและการเข้าใกล้การมีรัฐบาลที่เป็นสากลมากกว่า เพราะการเลือกตั้งในครั้งนี้ไม่เหมือนกับครั้งที่ผ่านมา โดยมีกติกาใหม่ที่แตกต่างกันค่อนข้างมาก” นายสมบัติ กล่าว

สำหรับหุ้นเด่นที่แนะนำ ได้แก่ ท่าอากาศยานไทย (AOT) โดยมีปัจจัยมาจากธีมท่องเที่ยวซึ่งเป็นนโยบายของแทบทุกพรรคการเมือง , ธนาคารกรุงเทพ (BBL) เนื่องจากภาวะการลงทุนในประเทศฟื้นตัว โดยวงจรการเงินจะหนุนสินเชื่อภาคธุรกิจ ซึ่งส่งผลดีต่อธนาคารกรุงเทพมากที่สุด , ซีพี ออลล์ (CPALL) มีปัจจัยสนันสนุนมาจากการบริโภคที่ฟื้นตัวของนโยบายผลักดันภาครัฐ , ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนจากกำไรที่กลับมาเติบโตอีกครั้งในปีนี้ หลังจากที่ปรับตัวลงช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 2561 ที่ผ่านมา และซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น (STEC)


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"