โบ้ยคลิปวิจารณ์สถาบันตัดต่อ ปชช.ตอก'ปิยบุตร'ยื่นยุบอนค.


เพิ่มเพื่อน    

    "ปิยบุตร" พลิกลิ้น! อ้างคลิปวิจารณ์เบื้องสูงถูกตัดต่อ ไม่ได้พูดถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย มีขบวนการใส่ร้ายป้ายสี ใช้ข้อหาล้มเจ้าสร้างความแตกแยกให้เผด็จการทหารยึดอำนาจ ลั่นพูดตอนเป็นนักวิชาการ ไม่เกี่ยวกับตำแหน่งเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ สุดท้ายเจอดีกลุ่มการเมืองภาคประชาชนร้อง กกต.ให้ยุบพรรคอีก "บิ๊กตู่" ออกสารนายกฯ ชี้คนบางกลุ่มใช้โซเชียลมีเดียบ่อนทำลายชาติ ศาสน์ กษัตริย์
    หลังมีคลิปการวิพากษ์วิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์ของนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ออกเผยแพร่ในโลกโซเชียลมีเดียอย่างกว้างขวาง และผู้คนส่วนใหญ่พากันตำหนินายปิยบุตรไปในทำนองจาบจ้วงเบื้องสูงนั้น ล่าสุดเขาชี้แจงผ่านเฟซบุ๊ก Piyabutr Saengkanokkul ระบุว่าเป็นการชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีการนำคลิปและภาพไปบิดเบือน
    นายปิยบุตรเขียนข้อความว่า "ตามที่มีการเผยแพร่คลิปการบรรยายของผมและรูปของผม พร้อมคัดบางประโยคมาประกอบจนทำให้ประชาชนเข้าใจผิด และนำมาซึ่งความเกลียดชังต่อกันนั้น ผมขอชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้
    1.คลิปที่ถูกตัดมาบางตอนนั้น เป็นส่วนหนึ่งของการบรรยายของผม โดยผมได้รับเชิญเป็นวิทยากรบรรยายในหัวข้อ 'การเมือง ความยุติธรรม สถาบันกษัตริย์' เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2556 จัดขึ้นที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ในขณะนั้นผมยังคงดำรงตำแหน่งเป็นอาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทำงานวิชาการ บรรยาย ศึกษาค้นคว้า เรื่องกฎหมายรัฐธรรมนูญ สถาบันการเมือง ประวัติศาสตร์การเมืองของประเทศไทยและประเทศต่างๆ หัวข้อหนึ่งที่ผมสนใจคือ สถาบันกษัตริย์กับประชาธิปไตย การปรับตัวของสถาบันกษัตริย์ในประเทศไทย และประเทศต่างๆ เพื่อให้สอดคล้องกับประชาธิปไตย
    2.ข้อความในท่อนที่ตัดมานั้น ผมไม่ได้พูดถึงสถาบันกษัตริย์ในราชอาณาจักรไทย แต่ผมบรรยายถึงหลักการตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ โดยผมอธิบายว่า หากพิจารณาจากระบอบประชาธิปไตยตามสากลแล้ว พระมหากษัตริย์ต้องอยู่เหนือการเมือง ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง และโดยธรรมชาติของตำแหน่งพระมหากษัตริย์ที่มาจากการสืบทอดทางสายโลหิต ไม่ได้มาจากการเลือก จึงจำเป็นต้องจัดวางตำแหน่งแห่งที่ให้สอดคล้องกับประชาธิปไตย ซึ่งประเทศต่างๆ ที่ปกครองในระบอบประชาธิปไตย และยังคงรักษาสถาบันกษัตริย์ไว้ได้อยู่สามารถทำเรื่องนี้ได้สำเร็จ
    3.การนำข้อความที่ผมบรรยายเมื่อ 6 ปีก่อน เมื่อครั้งผมยังเป็นนักวิชาการ มาตัดใช้บางตอน โดยไม่ระบุว่าบรรยายในโอกาสใด เมื่อไร และยังใส่ตำแหน่งใต้ชื่อผมว่า 'เลขาฯ พรรคอนาคตใหม่' พร้อมกับนำสัญลักษณ์พรรคอนาคตใหม่ไปติดในรูปภาพด้วย เป็นการแสดงเจตนาอันไม่สุจริตของผู้กระทำ ต้องการทำให้ผมเสียหาย ถูกเกลียดชัง นอกจากนั้นคลิปและรูปภาพชุดนี้ถูกนำมาเผยแพร่ในช่วงรณรงค์หาเสียง เพื่อทำให้คนเข้าใจผิดและไม่ลงคะแนนให้พรรคอนาคตใหม่ เมื่อพรรคอนาคตใหม่ได้รับเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย ก็รีบนำกลับมาเผยแพร่กันอีก เพื่อต้องการสร้างความเกลียดชังกันในหมู่ประชาชน  วิญญูชนผู้มีจิตใจเป็นธรรมย่อมพิจารณาได้เองว่าการกระทำของคนกลุ่มนี้ยุติธรรมต่อผมและพรรคอนาคตใหม่หรือไม่
    4.ตลอดระยะเวลา 14 ปีที่ผ่านมา มีขบวนการใส่ร้ายป้ายสี กล่าวหาโจมตีโดยใช้ข้อหา 'ไม่จงรักภักดี' หรือ 'ล้มเจ้า' จนนำมาซึ่งความเกลียดชังกันเองในหมู่ประชาชน ทำให้สังคมแตกแยก จนเผด็จการทหารฉวยโอกาสเข้ายึดและครองอำนาจมาอย่างยาวนาน การเมืองไทยติดขัดอยู่ในความขัดแย้ง สังคมไทยถูกแบ่งขั้วอย่างร้าวลึกจนประชาชนไม่อาจหาฉันทามติในการอยู่ร่วมกันได้ การนำสถาบันกษัตริย์มาใช้โจมตีกันทางการเมืองของคนเหล่านี้ ไม่เพียงแต่สร้างความแตกแยกในสังคมแล้ว ยังไม่เป็นคุณต่อสถาบันกษัตริย์ด้วย
    5.ในสังคมประชาธิปไตย เราชอบพรรคการเมือง นักการเมือง แตกต่างกันได้ เราสามารถแข่งขันทางการเมืองตามกติกาได้ โดยไม่จำเป็นต้องอ้างสถาบันกษัตริย์มาใช้โจมตี ทำลายล้าง หรือสร้างความเกลียดชังต่อกัน 
    6.ผมตัดสินใจก่อตั้งพรรคการเมืองและลงสมัครรับเลือกตั้ง เพราะต้องการฟื้นความเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตยกลับมาอีกครั้ง ต้องการยุติวงจรรัฐประหาร นำกองทัพออกไปจากการเมือง สถาปนาหลักการรัฐบาลพลเรือนอยู่เหนือกองทัพ นำประเทศไทยออกจากวิกฤตความขัดแย้ง และเดินหน้าไปสู่อนาคตแบบใหม่ร่วมกัน มีแต่การปกครองในระบอบประชาธิปไตยเท่านั้นที่สามารถช่วยธำรงรักษาสถาบันกษัตริย์ให้ดำรงอยู่ต่อไปด้วยพระเกียรติยศ พระบารมี และสง่างามทัดเทียมกับนานาอารยะประเทศ"
    นอกจากนี้ นายปิยบุตรยังให้สัมภาษณ์ด้วยว่า มีขบวนการนำภาพตนไปแปะและคัดลอกข้อความมาบางคำ โดยไปเขียนว่าเลขาฯ พรรคอนาคตใหม่ โดยไม่บอกว่าตนพูดเมื่อไหร่ การทำแบบนี้ต้องการทำอะไรกันแน่ ซึ่งตนเห็นว่าปล่อยกันมาก่อนวันที่ 24 มี.ค.แล้ว
    "ถ้าลองดูเนื้อความในคลิปเต็มจะพบได้ว่า ผมไม่ได้พูดถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ในประเทศไทย  แต่พูดถึงหลักสากลของสถาบันพระมหากษัตริย์ ในการอยู่กับระบอบประชาธิปไตย จึงขอเรียนเชิญให้ฟังคลิปกันให้หมด ผมอยากขอความเป็นธรรม ตลอด 13 ปีที่ผ่านมามีการใส่ร้ายป้ายสีเรื่องนี้ตลอดเวลา  ซึ่งนอกจากการสร้างความเกลียดชัง แตกแยกแล้ว ยิ่งไม่เป็นคุณต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วย" นายปิยบุตรกล่าว 
    วันเดียวกันนี้ นายสุรวัชร สังขฤกษ์ ประธานกลุ่มการเมืองภาคประชาชน ยื่นหนังสือถึง กกต.เพื่อขอให้พิจารณายุบพรรคอนาคตใหม่ เนื่องจากเห็นว่ามีพฤติกรรมเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง มาตรา 92 วรรค 1 และวรรค 2 เข้าข่ายล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยตนมีหลักฐานเป็นภาพและคลิปการปราศรัยหาเสียงของพรรค ซึ่งหาก กกต.รับรองพรรคอนาคตใหม่จะเข้าข่ายเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศไทย รวมถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ที่มีมาอย่างยาวนาน เนื่องจากพรรคได้มีการรวบรวมนักวิชาการที่มีแนวความคิดล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ รวมถึงการปราศรัยปลุกระดมให้เกลียดชังสถาบัน โดยใช้วาทกรรมว่าคือประชาธิปไตย โดยการให้ต่อต้านรัฐธรรมนูญที่มาจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
    "กรณีที่นายปิยบุตรได้ไปให้สัมภาษณ์ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งเมื่อปี 2554 เข้าข่ายหมิ่นเหม่ ซึ่งตนไม่ต้องการคนที่มีแนวคิดล้มล้างสถาบันและความมั่นคงของประเทศ หากคุณคิดว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ดีพอ และประเทศไม่ดีพอสำหรับท่าน ท่านก็ไปอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศสที่ท่านจบการศึกษามา จะมาก้าวล่วงไม่ได้" นายสุรวัชรกล่าว
    ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)  ได้ออกสารนายกรัฐมนตรีว่า "สถานการณ์ในบ้านเมืองเราขณะนี้ ประชาชนทุกหมู่เหล่าสามารถดำรงวิถีชีวิต ประกอบอาชีพ ทำมาหากินได้อย่างเป็นปกติสุข แต่ยังคงมีผู้ไม่หวังดี บางคน บางกลุ่ม ได้พยายามบิดเบือนข่าวสารข้อเท็จจริงในหลายๆ ประเด็น มีการใช้โซเชียลมีเดียและใช้บุคคลบางกลุ่มเข้ามาปลูกฝังแนวคิดที่ไม่ถูกต้องแก่ประชาชนทั่วไป เพื่อมุ่งหวังให้บ้านเมืองเกิดความไม่สงบและบ่อนทำลายสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 
    ทั้งนี้ รัฐบาลและ คสช.รับทราบสถานการณ์มาโดยต่อเนื่อง และได้บังคับใช้กฎหมายปกติอย่างเคร่งครัด โดยให้กระบวนการยุติธรรมและหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ดำเนินการไป มิได้ใช้อำนาจพิเศษมาดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องอาศัยความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนทุกคนช่วยกันสอดส่องดูแล 
    ผู้ปกครองควรต้องเอาใจใส่ลูกหลานของตนและบุคคลใกล้ชิด ครูอาจารย์ควรต้องอบรมบ่มนิสัย ดูแลลูกศิษย์อย่างเข้าถึง ข้าราชการดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาและครอบครัว สิ่งสำคัญคือการรับรู้ข่าวสารจะต้องมีการพิจารณาอย่างมีเหตุมีผล ศึกษาให้ดี หากพวกเราทุกคนร่วมมือร่วมใจ ช่วยกันปกป้องบ้านเมืองไม่ให้สั่นคลอนหรือกลับไปสู่ความวุ่นวายได้ ประเทศชาติจะไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองอย่างมั่นคงและยั่งยืน".


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"