แรงแห่งจิตวิญญาณของสังคม


เพิ่มเพื่อน    

        ต้องเรียกว่า...เป็นอะไรที่ สมหวัง โอสถสภา (ญาติห่างๆ สมเกียรติ) น่าปลาบปลื้ม น่ายินดี เป็นอย่างยิ่ง สำหรับการคว้าแชมป์แบดมินตัน รายการ อินเดีย โอเพ่น ของ น้องเมย์-รัชนก อินทนนท์ เมื่อช่วงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แม้เป็นรายการที่ไม่ถึงกับใหญ่โต โอ่โถง อะไรมากมายนัก แต่การคว้าแชมป์รายการนี้ติดมือ ติดไม้ มาได้ถึง 3 ครั้ง 3 ครา ถือเป็นการ ทำสถิติ ที่ต้องจดจารึกเอาไว้อย่างมิอาจปฏิเสธได้...

                                      -----------------------------------------

        ยิ่งไปกว่านั้น...ถ้าดูถึงคู่แข่ง คู่ต่อสู้ ของ น้องเมย์ ในรอบสุดท้าย ก็ต้องเรียกว่า ไม่ธรรมดา อีกนั่นแหละ แม้จะมีฐานะตำแหน่งอันดับโลกอยู่ที่มือวางอันดับ 7 แต่สาวจีนอย่างคุณน้อง เหอ ปิง เจียว นั้น เจอกับ น้องเมย์ เมื่อไหร่...เธอกวาดเรียบ!!! ชนะสาวไทยมาได้ถึง 4 ครั้งซ้อนๆ แถมก่อนหน้าที่จะมาเจอกับ น้องเมย์ เธอยังน็อก พี.วี.สินธุ นักแบดมินตันสูง-ยาว-เข่าดี ดาวรุ่งพุ่งแรงของอินตะระเดีย ที่มีฐานะตำแหน่งเป็นถึงมือวางอันดับ 3 ของโลก ชนิดหัวเข่าถลอก ต้องต่ำเตี้ยเรี่ยดิน เอาง่ายๆ แต่สุดท้าย...เมื่อมาเจอกับ น้องเมย์ เป็นครั้งที่ 5 สาวไทยก็เลยแกะกระดูกออกมาเคี้ยว ที่เหลือโยนใส่หม้อน้ำซุป ชนะไปแบบสบายๆ 2-0 พูนสวัสดิ์ โดยไม่ต้องไปต่อเกม 3 ให้เมื่อยเนื้อ เมื่อยตัว เกินไปนัก...

                                        -----------------------------------------

        คืองานนี้...ต้องยอมรับว่า น้องเมย์ นั้น เธอได้พัฒนาฝีไม้ ลายมือ เพิ่มขึ้นไปเป็นกองๆ ไม่ว่าลูกหยอด ลูกใช้ข้อมือตวัดตบ เธอทำได้สวย สด งดงาม และนิ่มนวลเอามากๆ เหลือแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น...นั่นก็คือ เรี่ยวแรง ที่เธอยังอาจไม่ถึงกับฟิตเปรี๊ยะหรือฟิตเกินร้อย ดังนั้นเมื่อต้องเจอกับนักแบดมินตันระดับโลกยุคใหม่ๆ ที่ล้วนแต่รับประทานดีหมี หัวใจเสือ เห็ดหลินจือ ถั่งเช่า ไปจนถึงโสมเกาหลีตังกุยจั๊บ เป็นอาหารหลัก อาหารว่าง ชนิดวันละ 3 เวลา โดยเฉพาะนักแบดมินตันสัญชาติยุ่นปี่ด้วยแล้ว แม้จะมีฝีมือเฉียบขาด เฉียบคม ขนาดไหน สุดท้าย...ก็หนีไม่พ้นต้อง เหี่ยวปลาย ลงไปอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธได้...

                                     ---------------------------------------------

        แต่ก็เคยมีงานอยู่งานหนึ่ง...ที่แม้จะต้องเจอกับตุ๊กตาหุ่นยนต์โรบอท ระดับ เดอะ เทอร์มิเนเตอร์ จากญี่ปุ่น นั่นคือ ไอ้อ้วน-อากาเนะ ยามากูชิ ที่ต่อให้เล่นเสร็จ 3 เซต แล้วให้ลงไปวิ่งในสนามฟุตบอลอีก 100 รอบ แล้วให้กลับมายกน้ำหนัก ไม่ว่าจะเป็นท่าสแนทซ์ หรือท่าคลีนแอนด์เจิร์ก...ก็ยังเป็นอะไรที่สบายๆ แต่เมื่อต้องเจอกับ แรง อีกแรงหนึ่งของ น้องเมย์ ที่แม้จะไม่ใช่ เรี่ยวแรง แบบกำลังวังชา แต่ก็มีค่าไม่น้อยไปกว่ากันมากมายซักเท่าไหร่ นั่นก็คือ แรงบันดาลใจ เมื่อครั้ง เดนมาร์ก โอเพ่น ช่วงเดือนตุลาคม ปี พ.ศ.2560 หรือช่วงใกล้ๆ กับพระราชพิธีพระบรมศพล้นเกล้ารัชกาลที่ 9 ด้วย แรง ในลักษณะที่ว่านี้นี่เอง ที่ทำให้ตุ๊กตาโรบอทจากญี่ปุ่น ถึงกับหัวทิ่ม หัวตำ ล้มคว่ำคะมำหงาย ต้องยอมให้สาวไทยคว้าตำแหน่งแชมป์มาครอง หรือมาทูลเกล้าฯ ถวายให้กับ พ่อหลวง ร.9  ด้วยการเงยหน้าขึ้นมองฟ้า แล้วก้มกราบลงแทบพื้นดิน...

                                --------------------------------------------------

        แม้ว่า แรง ที่ว่านี้...มันอาจไม่ได้เกี่ยวกับ วิทยาศาสตร์การกีฬา มากมายซักเท่าไหร่นัก แต่ก็คงต้องยอมรับว่า...ถือเป็นแรงแรงหนึ่งที่มีอยู่จริง มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถให้คำตอบและคำอธิบายได้ อีกทั้งยังมีคุณค่า ราคา มีประโยชน์มิใช่น้อย ไม่ว่าจะมีที่มา-ที่ไปอย่างไรก็แล้วแต่ โดยเฉพาะสำหรับ สังคมไทย ของหมู่เฮาชาวไทยแลนด์ แดนสยามแล้ว มักอาศัยแรงชนิดนี้ มาใช้เป็นตัวส่งเสริม เพิ่มเติม ศักยภาพและคุณภาพ ตั้งแต่ระดับปัจเจกบุคคล ส่วนตัวหรือสาธารณะได้ไม่น้อย จนแทบเรียกได้ว่าเป็น จิตวิญญาณทางสังคม เอาเลยก็ว่าได้ เพราะบางครั้ง บางครา หรือหลายครั้ง หลายครา แรงที่ว่านี้ยังสามารถนำมาใช้คลี่คลาย สร้างทางออก-ทางไป หรือแม้แต่ ทางรอด ในระหว่างเผชิญกับ ปัญหา นานาชนิด ไม่ว่าในโลกยุคอดีต ปัจจุบัน หรือแม้แต่อนาคต ก็ตามที...

                                   --------------------------------------------------

        เอาง่ายๆ ว่า...แม้แต่ น้องเมย์-รัชนก เธอยังต้องอาศัย แรง ที่ว่านี้ มาช่วยในการรับมือกับผู้ที่แรดเรียกเฮีย หุ่นยนต์เรียกพี่ อย่าง ไอ้อ้วน-อากาเนะ ยามากูชิ อย่างชนิดได้ผลชะงัดมาแล้ว รวมทั้งบรรดาผู้ที่เรียกขานตัวเองว่า ปวงชนชาวไทย อีกไม่รู้กี่ต่อกี่สิบล้านคน ที่ได้สร้างสม สั่งสม แรงที่ว่านี้เอาไว้ในตัว มาเป็นเวลาต่อเนื่อง ยาวนาน ชนิดอาจถือเป็น พื้นฐาน หรือเป็น โครงสร้าง ของสังคมไทยเอาเลยก็ว่าได้ จนก่อให้เกิด ลักษณะพิเศษทางสังคม ที่ต้องถือเป็น ข้อเท็จจริง เป็นสิ่งที่มีอยู่จริง อย่างชนิดมิอาจปฏิเสธได้ อันเป็นสิ่งที่เป็นไปในทางที่เป็นประโยชน์ มากกว่าโทษ และสมควรที่จะปกป้อง ควรทนุถนอมเข้าไว้ หรือแทบไม่มีเหตุผลใดๆ เลย ที่จะต้องไปบั่นทอน ทำลาย ไม่ว่าโดยวิธีเปิดเผย กึ่งลับ-กึ่งเปิดเผย หรือปิดลับก็แล้วแต่...

                                --------------------------------------------------------

        เหตุที่ต้องไปหยิบเอาเรื่องราวเหล่านี้ มาพูดจาว่ากล่าวกันในที่นี้...ก็คงไม่มีอะไรมากมายหรอกทั่น คือนอกจากด้วยความรู้สึกปลาบปลื้ม ยินดี เกิดความสมหวัง โอสถสภา ต่อชัยชนะของ น้องเมย์-รัชนก ในรายการแบดมินตัน อินเดีย โอเพ่น แล้ว เผอิญ...เหลือบไปเห็นข่าว นายใหญ่ จากต่างแดน ที่เพิ่งถูกกองทัพทั้งกองทัพถอดชื่อออกจากทำเนียบเกียรติยศ ตามด้วยการริบเครื่องราชฯ นานาชนิด ยังเพียรพยายามออกมา จุดพลุ ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ฝรั่งเศสคราวล่าสุด แบบชนิดแทบไม่ได้ตระหนัก สำนึก ถึงคุณค่า ราคา คุณประโยชน์ของแรงที่เป็นเสมือน จิตวิญญาณแห่งสังคม เอาเลยแม้แต่นิด ยังคงแสดงออกถึงความยึดมั่น ศรัทธา ต่อแรงเงินแรงทอง แรงที่สามารถบันดาลให้ ผีโม่แป้ง มาโดยตลอด อันนี้นี่แหละ...ที่มีแต่จะนำมาซึ่งโทษกับโทษ มีแต่นำมาซึ่งความพินาศฉิบหาย ให้กับประเทศไทย สังคมไทย ไม่ว่าอดีต ปัจจุบัน หรือแม้แต่ในอนาคตข้างหน้าอีกไม่ช้า-ไม่นาน นับจากนี้ ได้เสมอๆ...

                               -------------------------------------------------------

        ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Dutch saying... “Money lost, nothing lost; courage lost, much lost ; honor lost, most lost; soul lost, all lost.- เงินสูญ-ไม่มีอะไรสูญ, ความกล้าหาญสูญ-สูญมาก, เกียรติยศสูญ-สูญมากที่สุด, วิญญาณสูญ...สูญสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง...”

                                -------------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"