'สุวัจน์'ต้องการรัฐบาลที่มีเสถียรภาพเฉียด​300เสียง!


เพิ่มเพื่อน    

1 เม.ย. 62 - ที่บ้านนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา(ชพน.) ได้มีการนัดพูดคุยกับแกนนำพรรคบางส่วน เช่น นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรค นายดล เหตระกูล เลขาธิการพรรค นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ที่ปรึกษาพรรค นายประเสริฐ บุญชัยสุข รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา และคณะที่ปรึกษาพรรค คณะกรรมการบริหารพรรค พล.อ.ฐิติวัจน์ กำลังเอก อดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และนายวัชรพล โตมรศักดิ์ ว่าที่ส.ส.หนึ่งเดียวของพรรคชาติพัฒนาที่ได้เข้ามาในเขต 2 จ.นครราชสีมา 

นายสุวัจน์ ให้สัมภาษณ์ว่า เป็นการพูดคุยกันกับผู้ที่รับผิดชอบการเลือกตั้งที่ผ่านมา ว่าพรรคมีจุดอ่อนจุดแข็งอะไรที่ต้องปรับปรุง การเลือกตั้งครั้งนี้ที่คาดว่าจะได้ 3 ที่นั่ง ซึ่งต้องรอการประกาศอย่างเป็นทางการของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)อีกครั้ง เราประเมินกันว่าเป็นเรื่องของการเมืองที่วิเคราะห์ยาก มีลักษณะเป็นการเมืองใหม่ ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์กันมาก โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ กติกาใหม่ และกกต.ซึ่งเป็นผู้ที่ดูแลการเลือกตั้งก็ชุดใหม่  ดังนั้นจึงไม่กล้าฟันธงว่าพรรคชาติพัฒนาจะได้จำนวนเท่าไหร่

“ครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งที่ดูเหมือนว่ามีขั้วทางการเมืองที่ชัดเจน ทำให้ผลการเลือกตั้งออกมาในลักษณะนี้ แต่ถึงอย่างไรก็ตามคะแนนจากบัญชีรายชื่อก็ยังถือว่าดีอยู่ ทั้งที่มีการเปลี่ยนเขตเลือกตั้งใหม่จึงทำให้มีจำนวนส.ส. ในเขตเลือกตั้งน้อยลงไป โดยภาพรวมถือว่าน้อยกว่าเดิมแต่ก็พอใจ ซึ่งต้องขอขอบคุณพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา เรายอมรับผลการเลือกตั้งทุกประการ ไม่มีข้อสงสัยการทำงานของกกต.แต่อย่างใด ตอนนี้รอคำตอบจากกกต.ที่จะให้ความชัดเจนว่าพรรคการเมืองไหนได้กี่ที่นั่ง สำหรับพรรคชาติพัฒนาไม่ได้มีประเด็นข้อสงสัยใด ทุกอย่างว่ากันไปตามกฎเกณท์กติกา”

นายสุวัจน์ กล่าวว่า ส่วนความไม่เข้าใจต่างๆที่มีการวิพากษ์วิจารณ์นั้นก็เป็นหน้าที่ของกกต. ที่จะเป็นผู้ชี้แจง ส่วนกรณี ที่มีการล่ารายชื่อขับไล่กกต. จนถูกวิจารณ์ว่าอาจนำไปสู่การฟ้องร้องเลือกตั้งเป็นโมฆะนั้น คิดว่า สถานการณ์การเลือกตั้งครั้งนี้แตกต่างไปจากเดิมอย่างมาก มีผู้ออกมาใช้สิทธิ์จำนวนมาก มีความตื่นตัวทางการเมืองสูง มีความคาดหวังต่อการเลือกตั้งในครั้งนี้สูง ขณะที่กติกาใหม่จะเห็นได้ว่าบัตรเสียเยอะมากถึง 2 ล้านใบ กกต.เองก็ใหม่ ดังนั้นเป็นเรื่องที่กกต.ต้องชี้แจงให้ชัดเจน เพื่อให้ทุกฝ่ายได้เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าการดำเนินการควบคุมการเลือกตั้งและบริหารจัดการครั้งนี้ทำมาได้เรียบร้อยอย่างไร รวมทั้งอธิบายถึงความที่เกิดความไม่เข้าใจที่มาของคะแนน กกต.ต้องชี้แจงให้เคลียร์ทุกคำถาม

”ตอนนี้เกมส์ของผู้เล่นได้จบไปแล้ว ตอนนี้เป็นเกมส์ของกรรมการที่จะบอกว่าใครแพ้ใครชนะ ใครได้คะแนนกี่คะแนน ผู้เล่นหรือประชาชนสงสัยอะไร กกต.ก็จะต้องชี้แจงทำความเข้าใจ ให้ชัดเจน ว่าเป็นอย่างนี้เพราะอะไรเป็นอย่างนั้นเพราะอะไร”

เมื่อถามว่า 3 เสียงของพรรคชาติพัฒนามีความสำคัญ ขณะนี้มีใครทาบทามให้ร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า ยังไม่มีการพูดคุยกันอย่างเป็นกิจลักษณะ ขณะนี้ผลการเลือกตั้งยังไม่ชัดเจน คะแนนของการจับขั้วทางการเมืองก็ยังสูสีกันมาก ดังนั้นคงต้องดูผลคะแนนอย่างเป็นทางการจากทางกกต. พรรคชาติพัฒนาไม่ห่วงว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือเป็นรัฐบาล แต่ที่ห่วงตอนนี้คือการเมืองหลังจากนี้ เพราะทุกคนคาดหวังว่าเมื่อเลือกตั้งแล้วบ้านเมืองจะเรียบร้อย มีรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ เข้ามาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ แต่เมื่อดูโครงสร้างของตัวเลขที่เกิดขึ้นจากผลการเลือกตั้งแล้ววันนี้เห็นได้ว่ายังไม่มีความชัดเจนในเรื่องของเสถียรภาพรัฐบาล ว่าใครจะได้เสียงข้างมาก ซึ่งตรงนี้มีความน่าเป็นห่วงมากกว่า 

“น่าเป็นห่วงเรื่องเสถียรภาพการจัดรัฐบาล ยิ่งถ้าเสียงใกล้เคียงกันมาก ตัวเลขใกล้เคียงกันมากก็มีนัยยะสำคัญอย่างมากต่อเสถียรภาพรัฐบาลใหม่ ถ้ารัฐบาลขาดเสถียรภาพในเรื่องของตัวเลข ก็อาจกระทบต่อแผนงาน กระทบต่อความเชื่อมั่นโดยเฉพาะเศรษฐกิจของประเทศ การลงทุน การค้าขายจากต่างประเทศ ถ้าเสถียรภาพของรัฐบาลไม่เข้มแข็งย่อมกระทบต่อเศรษฐกิจที่เราต้องพึ่งพาการลงทุนจากต่างประเทศ รวมไปถึงเศรษฐกิจโลก อียู หรือจีน ดังนั้นผลกระทบที่รอพวกเราอยู่จึงต้องอาศัยแรงเศรษฐกิจจากภายนอก จึงอยากเห็นรัฐบาลมีตัวเลขและมีเสถียรภาพของการจัดตั้งรัฐบาลที่มากเพียงพอที่จะสร้างความเข้มแข็ง เพื่อให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลใหม่ ดังนั้นเราต้องมีรัฐบาลใหม่ที่มีเสถียรภาพ ซึ่งผมเคยให้ความเห็นไว้ว่าเสถียรภาพที่เหมาะสมที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับระบบเศรษฐกิจ สามารถแก้ไขปัญหาให้กับประเทศได้ควร มีตัวเลขเกือบ 300 เสียงด้วยซ้ำไป เพราะที่พูดกันถึง 250 เสียงทุกวันนี้เป็นตัวเลขที่บอบบางมาก ย้ำว่าเราไม่ได้เป็นห่วงว่าเราจะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน แต่ห่วงว่าอยากให้หลังการเลือกตั้งเราหรือรัฐบาลจะมีเสถียรภาพ”

ผู้สื่อข่าวถามถึงเสียงวิจารณ์ว่ารัฐบาลใหม่อาจมีอายุสั้น นายสุวัจน์ กล่าวว่า อย่าใช้คำว่าอายุรัฐบาลเลย เอาเป็นว่าอายุรัฐสภาก็แล้วกัน หากมีเสียงน้อยมากๆ การจะประชุมสภาแต่ละครั้ง จะต้องผ่านกฎหมาย ผ่านพรบ.ใดๆ ตัวเลขที่เหมาะสมก็ต้องเกือบ 300 เสียง เป็นเรื่องที่พรรคการเมืองต้องช่วยกันคิดว่าจะมีแนวทางอย่างไรเพื่อทำให้เกิดรัฐบาลที่มีเสถียรภาพและคิดถึงบ้านเมือง 

“เรายังมีเวลาอีกเดือนกว่า จนกว่ากกต.จะรับรองผลอย่างเป็นทางการ ตอนนี้ตัวเลขยังไม่นิ่ง และยังไม่รู้ว่าจะมีการเลือกตั้งซ่อมหรือไม่ ต้องยอมรับว่ายังไม่นิ่ง ยังมีเวลา  กกต.จะรับรองภายในวันที่ 9 พฤษภาคม ตอนนี้จึงต้องช่วยกันรักษาบรรยากาศต่างๆ ก่อนที่จะประกาศผลอย่างเป็นทางการ ก่อนที่จะจัดตั้งรัฐบาล ขอให้ช่วยกันก็แล้วกัน ให้ออกมาดี ออกมาเรียบร้อย สิ่งที่เราเป็นห่วงคือหากเสียงของฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาลต่างกันน้อยแค่ 5-10 เสียง ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะต่างชาติอาจมองว่าเราค่อนข้างที่จะบอบบางต่อเสถียรภาพ ภูมิคุ้มกันในสภาจะน้อย ดังนั้นจึงต้องร่วมมือกันจัดตั้งรัฐบาลให้เรียบร้อย”

เมื่อถามว่า​ มองอย่างไรกับกรณีที่มีข่าวเรื่องงูเห่า นายสุวัจน์ กล่าวว่า เรื่องงูเห่าเป็นเรื่องการคาดการณ์ว่าถ้ารัฐบาลมีเสถียรภาพอย่างนี้ จึงมีการไปนึกถึงในอดีต ซึ่งถ้าไม่มีงูเห่าได้เป็นดี เหมือนกับเราเล่นการเมืองตามกฎและกติกา ที่มีการพูดถึงเรื่องงูเห่า คงมาจากเรื่องจำนวนเสียงและเสถียรภาพ ซึ่งถ้าเสถียรภาพนิ่งแล้วก็เป็นไปตามกลไกของสภาโดยปกติ เมื่อถามว่ามองว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะเกิดรัฐบาลแห่งชาติขึ้น นายสุวัจน์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ตอนนี้ทุกฝ่ายพยายามที่จะหาความชอบธรรมด้วยการหาเสียงข้างมากจาก 500 เสียงเสียก่อน 

ผู้สื่อข่าวถามถึงการพบปะกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะจับมือกันเพื่อให้มีศักยภาพมากขึ้น นายสุวัจน์ กล่าวว่า ไม่ได้คุยกับใครเลย ส่วนที่มีข่าวว่าตนไปพูดคุยกับนายสุเทพ นั้นขอปฏิเสธว่าไม่ได้พูดคุยการเมืองเลย เป็นเพียงการไปทานอาหาร แล้วเจอกัน ทักทายกันปกติ 

เมื่อถามถึงกรณีที่มีบางพรรคการเมืองที่เสนอตัวเป็นแกนจัดตั้งรัฐบาลมีการเสนอประโยชน์ต่างตอบแทนให้กับพรรคการเมืองต่างๆเพื่อรวบรวมเสียง มองว่าจะทำให้การเมืองย้อนกลับสู่วังวนเดิมหรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า ไม่ทราบ สำหรับพรรคชาติพัฒนาไม่มีใครมาพูดคุยในลักษณะนั้น 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังการแถลงข่าว นายสุวัจน์พูดคุย อย่างเป็นกันเองกับบรรดาผู้สื่อข่าว ถึงประเด็นการเลือกตั้งซ่อม กับการเลือกตั้งใหม่ โดยได้กล่าวติดตลกว่า “เลือกตั้งซ่อมต้องมาก่อนสิ แหม แค่นึกถึงเลือกตั้งซ่อมก็หนาวแล้ว แล้วอย่าเพิ่งพูดถึงเลือกตั้งใหม่เลย อย่าเพิ่ง” นายสุวัจน์ กล่าวปนหัวเราะ


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"