ประชาชนเข้าคิวซื้อเสื้อเหลือง พร้อมเข็มที่ระลึกตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก รอบปฐมฤกษ์เนืองแน่น ปลัดสำนักนายกฯ เผยเข็มแรกในโลกที่รัชกาลที่ 10 ทรงออกแบบ พร้อมผลิต-วางจำหน่ายจนครอบคลุมความต้องการของประชาชน ขณะที่กรมธนารักษ์ขยายเวลาจองเหรียญกษาปณ์จนถึงหลังงานพระราชพิธีฯ ด้านเพจไทยคู่ฟ้าโพสต์เตือนข่าวลือวันหยุดยาว แจงแค่วันที่ 6 พ.ค.เท่านั้น 
    เมื่อวันอาทิตย์ ที่กรมประชาสัมพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการจำหน่ายเข็มที่ระลึกตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นปฐมฤกษ์รอบเดียว จำนวน 10,000 เข็ม โดยจำหน่ายในราคาเข็มละ 300 บาท พร้อมทั้งจำหน่ายเสื้อโปโลสีเหลืองประดับตราสัญลักษณ์ฯ จำนวน 20,000 ตัว จำหน่ายในราคาตัวละ 290 บาท ที่หอประชุมกรมประชาสัมพันธ์ โดยเปิดให้รับบัตรคิวบริเวณลานจอดรถหน้าหอประชุม ตั้งแต่เวลา 06.00 น.ที่ผ่านมา ประชาชนที่มารอคิวได้เป็นอันดับที่ 1 คือ นางบังอร หีบแก้ว โดยเธอมานอนรอข้ามคืน ตั้งแต่เวลา 14.00 น. ของวันที่ 30 มี.ค. จนถึงเวลา 08.30 น. ซึ่งมีคนรับบัตรคิว 4,400 คน
    อย่างไรก็ตาม ในส่วนขั้นตอนการซื้อ เจ้าหน้าที่จะจัดคิวให้เดินเข้าแถวเรียงลำดับตามหมายเลขครั้งละ 50 คน ขึ้นอาคารไปที่จุดซื้อเข็มบริเวณชั้น 1 คนละ 1 เข็ม ราคา 300 บาท ส่วนเสื้อ ราคาตัวละ 290 บาท ซื้อได้คนละ 2 ตัว เมื่อชำระเงินแล้วรับคูปองขึ้นไปรับเสื้อตามไซส์ที่ต้องการบนชั้น 3 ขณะที่จุดพิเศษบริเวณสโมสรกรมประชาสัมพันธ์ ซึ่งเปิดให้คนชรา อายุ 70 ปีขึ้นไป คนพิการ และผู้ทุพพลภาพ ซื้อเสื้อและเข็มโดยไม่ต้องเข้าคิว มีคนเข้าใช้บริการในช่วงเช้ากว่า 100 คน
    ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า จนถึงเวลา 10.00 น. มีประชาชนที่รอคิวทยอยขึ้นอาคารรับเสื้อและเข็มแล้ว 3,300 คน เจ้าหน้าที่ได้ประกาศแจ้งให้คนที่รอคิวทราบเป็นระยะว่า ตั้งแต่คิวที่ 6,001 จะสามารถซื้อเสื้อเหลืองซึ่งเป็นเสื้อต้นแบบได้คนละ 2 ตัว จากจำนวนเสื้อทั้งหมด 20,000 ตัว ส่วนเข็มที่ระลึกที่เคยประกาศว่าจะมีจำหน่าย 20,000 เข็ม ในวันนี้สามารถจำหน่ายได้เพียง 6,000 เข็มเท่านั้น โดยคนที่ต้องการซื้อเข็ม ขอให้จองที่ไปรษณีย์ไทยทุกสาขาทั่วประเทศ ส่วนเสื้อเหลืองได้มีการอนุญาตให้บริษัทต่างๆ ผลิต จะมีการทยอยออกมาจำหน่าย
     ด้านนางพัชราภรณ์ อินทรียงค์ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลังตรวจดูการจำหน่ายเสื้อและเข็มว่า หลังเปิดให้รับบัตรคิวตั้งแต่ 06.00 น. มีประชาชนทยอยเข้ามารอคิวจำนวนมาก บางคนมานอนรอข้ามวันข้ามคืน เพราะอยากให้มั่นใจว่าจะได้ซื้ออย่างแน่นอน เนื่องจากมีคนต้องการมาก 
      เธอระบุด้วยว่า ในส่วนของเสื้อนั้น รัฐบาลมอบให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีผลิตเป็นต้นแบบ มีจำนวนไม่มาก เมื่อคนต้องการมาก ล็อตเสื้อนี้จึงผลิตมาจำหน่าย 20,000 ตัว ตามที่แจ้งไว้ หลังจากนี้ประชาชนยังสามารถหาซื้อได้ทั่วไป เพราะมีการอนุญาตให้ห้างร้านและหน่วยงานต่างๆ ผลิตกว่า 4 ล้านตัว ส่วนเข็มที่ระลึกที่เปิดจำหน่ายรอบนี้เป็นปฐมฤกษ์ เดิมกำหนดไว้ 20,000 เข็ม แต่พบว่าเข็มที่จัดส่งมา สียังไม่มีเรียบร้อยประมาณ 9,000 เข็ม
     "เนื่องจากเข็มที่จัดทำในครั้งนี้ เป็นการลงยาสีด้วยมือและมีหลายสี มีความละเอียด 1 ชิ้นต้องใช้เวลาทำประมาณ 13 ชั่วโมง เพราะต้องรอให้สีแห้ง หากรีบเกินไปสีจะเลอะไม่สวยงาม จึงต้องส่งกลับไปแก้ไข เพราะเข็มนี้จะมีเพียงเข็มเดียวในโลก เป็นเข็มแรกในรัชกาลที่ 10 และเป็นตราสัญลักษณ์ที่พระเจ้าอยู่หัวทรงออกแบบ ผลิตโดยสำนักนายกรัฐมนตรีเท่านั้น ไม่มีการอนุญาตให้หน่วยงานอื่นผลิต ยอดที่จะให้ประชาชนซื้อในวันนี้จึงไม่ครบตามที่กำหนดไว้ อาจจะต้องมีการเปิดจำหน่ายอีกครั้ง และประชาชนยังสามารถจองผ่านไปรษณีย์ได้ทั่วประเทศด้วย" นางพัชราภรณ์กล่าว
    ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีระบุด้วยว่า จากนี้ไปกำลังการผลิตเข็มที่ระลึกจะสามารถผลิตได้ถึง 100,000 เข็มต่อเดือนแน่นอน เพื่อเปิดจองทางไปรษณีย์ทุกสาขาทั่วประเทศให้เพียงพอกับความต้องการประชาชน โดยไม่จำกัดจำนวน ในเบื้องต้นได้หารือกับผู้บริหารบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ในวันที่ 2 เมษายนนี้ เพื่อวางจำหน่ายเข็มที่ระลึกได้ครอบคลุมทั่วประเทศ ตามความต้องการของประชาชน ซึ่งต้องหารือในรายละเอียดต่อไปในการกำหนดจุดจำหน่ายที่ชัดเจน
    ด้านนายสมพาส นิลพันธ์ รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับประชาชนที่ไม่สามารถเดินทางมาในวันนี้ สามารถซื้อที่ไปรษณีย์ไทยทั่วประเทศ ซึ่งมีอยู่กว่า 1,400 แห่ง หรือจะเข้าไปจองผ่านเว็บไซต์ไปรษณีย์ไทยก็ได้ ซึ่งในเดือนเมษายนได้อนุญาตให้หน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ มูลนิธิ สมาคม ห้างร้านต่างๆ จำนวนกว่า 315 หน่วยงาน นำตราสัญลักษณ์ไปผลิตเสื้อสำหรับจำหน่ายหรือแจกจ่ายให้กับพนักงาน ส่วนเข็มที่ระลึกนั้น สำนักนายกฯ เป็นหน่วยที่จัดทำเพียงหน่วยเดียว ตอนนี้ได้จัดทำไว้ จำนวน 3 แสนชิ้น ถ้ามียอดจองมากก็จะทยอยผลิตให้เพียงพอต่อความต้องการ
    วันเดียวกัน นายอำนวย ปรีมนวงศ์ อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า หลังจากกรมธนารักษ์เปิดจองเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก เหรียญที่ระลึก และเหรียญเฉลิมพระเกียรติ ในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 4 พฤษภาคม 2562 จำนวน 3 ประเภท ประกอบด้วย เหรียญกษาปณ์ที่ระลึก 3 ชนิดราคา ได้แก่ เหรียญกษาปณ์ที่ระลึกทองคำ ชนิดราคา 19,000 บาท ประเภทขัดเงา ราคาจำหน่ายเหรียญละ 40,000 บาท,  เหรียญกษาปณ์ที่ระลึกเงิน ชนิดราคา 1,000 บาท ประเภทขัดเงา ราคาจำหน่ายเหรียญละ 3,000 บาท,  เหรียญกษาปณ์ที่ระลึกโลหะสีขาว (ทองแดงผสมนิกเกิล) ชนิดราคา 20  บาท ประเภทธรรมดา จ่ายแลกเหรียญละ 20 บาท
    นายอำนวยระบุว่า สำหรับเหรียญที่ระลึก 3 ประเภท ได้แก่ เหรียญที่ระลึกแพลทินัม (Platinum) จำหน่ายราคาเหรียญละ 1,000,000 บาท, เหรียญที่ระลึกเงินรมดำพ่นทรายพิเศษ จำหน่ายราคาเหรียญละ 5,000 บาท, เหรียญระลึกทองแดงรมดำพ่นทรายพิเศษ จำหน่ายราคาเหรียญละ 3,000 บาท และเหรียญที่ระลึกประดับแพรแถบ ชนิดบุรุษ และสตรี จำหน่ายราคาเหรียญละ 1,600 บาท
    อธิบดีกรมธนารักษ์กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมธนารักษ์ได้ร่วมมือกับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน), บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด และบริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด ทุกแห่งทั่วประเทศ เปิดเป็นหน่วยรับจองเหรียญกษาปณ์ที่ระลึก และเหรียญที่ระลึกดังกล่าว โดยกำหนดเปิดรับจองตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม-4 เมษายน 2562 หลังจากรูปแบบเหรียญได้รับโปรดเกล้าฯ เรียบร้อยแล้ว กรมธนารักษ์เตรียมเผยแพร่รูปแบบของเหรียญบรมราชาภิเษกให้ประชาชนทราบ และพร้อมขยายเวลาการจองเหรียญให้ล่วงเลยวันพิธีสำคัญของประเทศ เพื่อให้จองเหรียญกันได้อย่างทั่วถึง 
    “เหรียญบรมราชาภิเษกรัชกาลที่ 10 นับเป็นโอกาสสำคัญ นับตั้งแต่ปี 2493 ผ่านมาแล้ว 69 ปี ตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงครองราชย์ ซึ่งแตกต่างจากเหรียญที่ระลึกในโอกาสสำคัญต่างๆ จึงอยากให้ประชาชนจองเอาไว้เป็นที่ระลึก เพราะผลิตเพียงครั้งเดียวในรัชกาลที่ 10” นายอำนวยกล่าว
     ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก "ไทยคู่ฟ้า" โพสต์เตือนกรณีที่มีข่าวลือเรื่องวันหยุดพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม ติดต่อกันหลายวัน โดยยืนยันว่า คณะรัฐมนตรีได้ประกาศวันหยุดราชการพิเศษช่วงเทศกาลสงกรานต์ 1 วัน คือ วันศุกร์ที่ 12 เมษายน 2562 รวมวันหยุดช่วงสงกรานต์ทั้งสิ้น 5 วัน (12-16 เมษายน 2562) และวันหยุดพิเศษช่วงวันงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 1 วัน คือวันจันทร์ที่ 6 พฤษภาคม 2562 เท่านั้น.