รวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน ปปง.อายัดเงิน1.5ล้านคืนเหยื่อ


เพิ่มเพื่อน    

ตำรวจแถลงรวบ 23 แก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนสวมรอยเป็นนักท่องเที่ยวใช้ฐานข้อมูลคนไทยลวงผ่านระบบวีแชท ปปง.อายัดเงิน1.5ล้านคืนผู้เสียหาย

15 ธ.ค.60 - ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พล.ต.อ.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (ผบช.ทท.) พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (รอง ผบช.ทท.) พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล ประธานคณะกรรมการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และ พล.ต.ต.รมสิทธิ์ วีริยาสรร รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงน ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ครั้งที่ 5 เป็นผู้ต้องหาชาวจีน จำนวน 23 คน ถูกจับได้ที่พื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา

พล.ต.อ.ธนิตศักดิ์ เปิดเผยว่า ในการจับกุมครั้งนี้ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนกลุ่มนี้มีประมาณ 30-40คน ทยอยเดินทางเข้ามาในฐานะนักท่องเที่ยว ก่อนจะไปรวมตัวกันเช่าบ้านและอพาร์ทเม้นต์ จำนวน 11 หลัง เจ้าหน้าที่พบผิดสังเกต จึงเข้าทำการสืบสวนกระทั่งพบชาวจีนดังกล่าวเป็นแก็งคอลเซ็นเตอร์รูปแบบใหม่ โดยใช้ไทยเป็นฐานในการหลอกลวงชาวจีนด้วยกันผ่านระบบวีแชท ที่ชาวจีนใช้กันต่างจากบ้านเราที่ใช้โทรศัพท์ เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเข้าทำการจับกุมไว้ได้ 23 คนส่วนที่เหลือหลบหนีไปได้ จากการตรวจค้นพบเครื่องคอมพิวเตอร์ จำนวน 41 เครื่องและอุปกรณ์อินเตอร์เน็ตจำนวนมาก โดยการหลอกลวงจะเอาข้อมูลคนจีนมา ก่อนจะใช้อินเทอร์เน็ตระบบวีแชทสนทนาออกอุบายให้มาร่วมลงทุน เล่นเกม โดยจ่ายผ่านระบบบัญชีธนาคาร เมื่อกลุ่มคนร้ายได้เงินมาก็จะโอนต่อไปยังหัวหน้าแก๊งซึ่งเป็นชาวมาเลเซีย

ด้าน พล.ต.ต.รมสิทธิ์ เลขาธิการ ปปง.เปิดเผยว่า ปปง.ร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการปราบปรามกลุ่มมิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่มีพฤติกรรมหลอกลวงประชาชน ปปง.ได้จัดตั้งศู่นย์ปฏิบัติการสำนักงานป้องกันและปราบปราการฟอกเงิน มีสายด่วน 1710 รับแจ้งเหตุจากประชาชน ส่วนสายด่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1155 เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน จากการดำเนินการดังกล่าวทำให้ประชาชนผู้เสียหายจากการถูกหลอกแก๊งมิจฉาชีพดังกล่าวไหวตัวทันและโทรศัพท์ติดต่อขอความช่วยเหลือ ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถประสานงานกับธนาคารเจ้าของบัญชีอายัดเงินของผู้เสียหายที่ถูกหลอกไปยังกลุ่มบัญชีกลุ่มคนร้ายแล้วระงับไม่ให้มีการถอนออกไปได้หลายหลาย โดยร่วมมือกับธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) และในวันนี้ได้ส่งมอบเงินของผู้เสียหายบางส่วนที่สามารถยับยั้งการถอนจากมิจฉาชีพได้จำนวน 1,494,329 บาท ให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อคืนให้กับผู้เสียหาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังการแถลงข่าวสำนักงานตำรวจแห่งชาติและ ปปง.ได้ทำการคืนเงินให้ผู้เสียหายจำนวน 3 ราย ที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้โอนเงิน แต่ผู้เสียหายไหวตัวทันแจ้งสายด่วน 1710 และสายด่วน 1155 ประสานธนาคารระงับการโอนเงินในบัญชีผู้เสียหายไปยังกลุ่มบัญชีของคนร้าย ผู้เสียหายคนที่ 1 ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกโอนเงินจำนวน 2,938,000 บาท เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสบอสวน สน.ปทุมวัน เจ้าหน้าที่สามารถอายัดเงินของผู้เสียหายรายนี้ไว้ได้ 1,250,329 บาท ผู้เสียหายรายที่ 2 ถูกคนร้ายหลอกโอนเงินจำนวน 587,000 บาท ผู้เสียหายแจ้งความท้องที่ สภ.จอหอ จ.นครราชสีมา เจ้าหน้าที่สามารถอายัดได้ทัน 202,300 บาท ผู้เสียหายรายที่ 3 ถูกหลอกโอนเงิน จำนวน 440,000 บาท เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.นาหม่อม จ.สงขลา เจ้าหน้าที่สามารถช่วยอายัดเงินของผู้เสียหายไว้ได้ทั้งหมด 44,000 บาท และจากการปฏิบัติการทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 4 ครั้งที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการได้ 146 หมาย สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 98 ราย อยู่ระหว่างติดตามจับกุม 48 ราย ยึดอายัดทรัพย์สินได้รวมมูลค่ากว่า 120 ล้านบาท.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"