ปลายเดือนมีนาคม ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามยอมรับที่ราบสูงโกลัน (Golan Heights) เป็นของอิสราเอล กล่าวว่า หลัง 52 ปี (เริ่ม 1967) ถึงเวลาแล้วที่สหรัฐอเมริการับรองอธิปไตยของอิสราเอลต่อที่ราบสูงโกลัน ซึ่งมีความสำคัญต่อยุทธศาสตร์และความมั่นคงต่อประเทศอิสราเอลและความมั่นคงภูมิภาค
ที่ราบสูงโกลัน :
ที่ราบสูงโกลัน (Golan Heights หรือ al Jawlan) ตั้งอยู่ตอนใต้ของเลบานอนกับซีเรีย และอยู่ทางภาคเหนือของอิสราเอล มีความสูงเฉลี่ย 1,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล กินพื้นที่ 700 ตร.ไมล์ (1,800 ตร.กม.) มีความยาวจากเหนือจรดใต้ราว 40 ไมล์ (65 กม.) และกว้างระหว่าง 7-15 ไมล์ (12-25 กม.) เป็นที่ตั้งของหลายเมืองเก่าแก่ย้อนถึงต้นคริสตศักราช
พื้นที่ดังกล่าวผ่านประวัติศาสตร์หลายอายธรรม นับจากปี ค.ศ.1516 กลายเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิออตโตมัน (Ottoman Empire) ปี 1920 ฝรั่งเศสเข้าดูแลพื้นที่และถือเป็นส่วนหนึ่งของซีเรีย
ในช่วงปี 1948-1967 เป็นพื้นที่ขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับซีเรีย จนอิสราเอลเข้ายึดในปี 1967 ใน “สงคราม 6 วัน” (Six-Day War) ฝ่ายอาหรับปราชัยยับเยิน อิสราเอลยึดที่ราบสูงโกลัน ไซนาย และฉนวนกาซาของอียิปต์ เขตเวสต์แบงก์ (West Bank) กับเยรูซาเล็มตะวันออกของจอร์แดน
นับจากนั้นเป็นต้นมา รัฐบาลอิสราเอลแสดงความเป็นเจ้าของมากขึ้น ส่งคนของตนเข้าไปอยู่อาศัย ปี 1981 ประกาศใช้กฎหมายของตนต่อที่ราบสูงโกลัน ผนวกพื้นที่ดังกล่าวเป็นของอิสราเอล
มุมมองหลายมุม :
นักวิเคราะห์บางคนเห็นว่าการรับรองอธิปไตยดังกล่าวเพิ่มความนิยมต่อนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู (Benjamin Netanyahu) ที่กำลังจะเลือกตั้งอีกครั้งในเดือนหน้า ช่วยสร้างผลงานชิ้นงามแก่เนทันยาฮู
นายกฯ เนทันยาฮู ให้เหตุผลว่าการเข้าแทรกแซงของอิหร่านในซีเรีย ยิ่งเป็นเหตุให้อิสราเอลต้องครอบครองที่ราบสูงดังกล่าว หากอิหร่านครอบครองพื้นที่นี้จะเป็นภัยต่อภูมิภาคอย่างยิ่ง
ด้านทูตซีเรียประจำสหประชาชาติวิพากษ์รัฐบาลทรัมป์ละเมิดข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงและกฎหมายระหว่างประเทศ ทำตัวเยี่ยงประเทศที่ไม่เคารพกฎหมาย
ประเทศอื่นๆ ที่ไม่เห็นด้วย เช่น นายเรเจพ แอร์โดกาน (Recep Erdogan) ประธานาธิบดีตุรกีกล่าวว่า ไม่อาจยอมให้การยึดครองที่ราบสูงโกลันกลายเป็นเรื่องถูกกฎหมาย เช่นเดียวกับประเทศอาหรับอื่นๆ
5 ชาติยุโรป เบลเยียม สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมนี และโปแลนด์ ยืนยันจุดยืนว่าที่ราบสูงโกลันเป็นดินแดนที่อิสราเอลยึดจากซีเรีย ดังที่สหประชาชาติเคยมีมติไว้ ไม่ใช่ของอิสราเอลแต่อย่างไร
ผลดีต่อสันติภาพตะวันออกกลางจริงหรือ :
รัฐบาลสหรัฐทุกชุด รวมทั้งทรัมป์ ล้วนประกาศว่าต้องการสร้างสันติภาพในตะวันออกกลาง การประกาศที่ราบสูงโกลันเป็นของอิสราเอล ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากนานาชาติ รวมทั้งนักวิชาการ
Robert Satloff จาก The Washington Institute for Near-East Policy เห็นว่าเป็นการสร้างปัญหามากกว่าแก้ปัญหา
Ilan Goldenberg จาก Center for a New American Security กล่าวว่า แต่เดิมไม่มีใครสนใจว่าใครจะครอบครองที่ราบสูงโกลัน ตอนนี้รัฐบาลทรัมป์ทำให้เป็นเรื่องใหญ่ สร้างปัญหาให้กับตัวเอง การรับรองจากรัฐบาลทรัมป์ไม่เป็นประโยชน์อันใดต่ออิสราเอลเลย
อันที่จริงแล้วรัฐบาลอิสราเอลผนวกที่ราบสูงโกลันเป็นส่วนหนึ่งของประเทศตั้งแต่ปี 1981 นานาชาติรวมทั้งโลกอาหรับได้แต่ประณาม ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ เหตุการณ์ครั้งนี้ก็เช่นกัน และเหมือนกับที่อิสราเอลประกาศเยรูซาเล็มเป็นนครหลวงของตนเมื่อกรกฎาคม 2017 เหมือนกับที่อิสราเอลรุกคืบตั้งถิ่นฐานในเขตเวสต์แบงก์มากขึ้นทุกที
นานาชาติได้แต่ประณาม อิสราเอลยังคงรุกคืบยึดดินแดนมากขึ้นๆ เป็นเรื่องที่ไม่อาจปฏิเสธ
แต่การกระทำของรัฐบาลทรัมป์เพิ่มความจงเกลียดจงชังในโลกอาหรับและอีกหลายประเทศ รวมทั้งกลุ่มประเทศอียู
หลายประเทศในอียูซึ่งเป็นประชาธิปไตยเหมือนกัน รู้สึกแปลกแยกต่อรัฐบาลสหรัฐ ไม่แปลกใจที่คนยุโรปตะวันตกจำนวนมากเกลียดชังรัฐบาลอเมริกัน
นักวิชาการบางคนเห็นว่าที่รัฐบาลอาหรับแสดงท่าทีต่อต้านเป็นการเล่นละครมากกว่า แต่ต้องไม่ลืมว่าคนมุสลิมจำนวนไม่น้อยไม่เป็นอย่างรัฐบาลของพวกเขา
ยอมรับการทำสงครามเพื่อยึดดินแดนอีกครั้ง :
เรื่องที่พึงเข้าใจคือ ไม่ใช่ทุกประเทศที่สามารถทำอย่างรัฐบาลสหรัฐ มีเพียงประเทศอภิมหาอำนาจ หรือมหาอำนาจเท่านั้นที่กระทำได้ เพราะไม่ต้องกลัวว่าประเทศใดจะกล้าทำสงครามกับตน ดังเช่นที่ซีเรียในขณะนี้ไม่กล้า ได้เพียงแต่บ่นว่าเท่านั้น
ตราบใดที่สหรัฐยังเป็นมหาอำนาจก็จะทำเรื่องทำนองนี้อีก ดังเช่นที่ได้ทำมาหลายครั้งแล้ว
เช่นเดียวกับที่สหประชาชาติไม่สามารถทำอะไร ได้แต่ประชุม สุดท้ายที่ราบสูงโกลันยังอยู่ใต้การปกครองของอิสราเอลต่อไป กล่าวได้ว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นของอิสราเอลตั้งแต่ปี 1967 แล้ว เพียงแต่ถือว่าซีเรียเป็นเจ้าของตามฐานะทางกฎหมายระหว่างประเทศเท่านั้น
ประเด็นสำคัญคือ การที่รัฐบาลทรัมป์ประกาศยอมรับที่ราบสูงโกลันเป็นของอิสราเอล ตีความได้ว่ารัฐบาลสหรัฐยอมรับหลักการที่ประเทศหนึ่งทำสงครามกับอีกประเทศเพื่อแย่งชิงดินแดน โดยอ้างว่าเพื่อความมั่นคงของประเทศหนึ่ง โดยไม่สนใจว่าผู้ถูกรุกรานเสียหายอย่างไร และจะกลายเป็นบรรทัดฐานหรือไม่
Ofer Zalzberg จาก Crisis Group คาดการณ์ว่าในอนาคตอิสราเอลอาจผนวกเขตเวสต์แบงก์เป็นดินแดนของตน และรัฐบาลสหรัฐจะเห็นชอบด้วย
รัฐบาลอิหร่านเห็นว่าเป็นอีกตัวอย่างที่ชี้ว่านโยบายของรัฐบาลสหรัฐเป็นภัยคุกคามทุกประเทศในโลก ดังที่พยายามบ่อนทำลายตะวันออกกลาง และกลายเป็นวิกฤติในขณะนี้
ถ้ายึดกรอบแนวคิดว่าการผนวกที่ราบสูงโกลันเป็นส่วนหนึ่งของการยึดครองจากชัยชนะในสงครามเมื่อปี 1967 สิ่งที่รัฐบาลอิสราเอลทำแล้วคือประกาศเยรูซาเล็มเป็นนครหลวงของอิสราเอลแต่เพียงประเทศเดียว ตอนนี้คือที่ราบสูงโกลัน ในอนาคตคือเขตเวสต์แบงก์ และเป็นไปได้ว่ารัฐบาลสหรัฐจะประกาศยอมรับว่าเขตเวสต์แบงก์จะเป็นของอิสราเอลด้วย ดังที่ได้ทำกับเยรูซาเล็มตะวันออกกับที่ราบสูงโกลันแล้ว
ต้องไม่ลืมว่าเขตเวสต์แบงก์มีพื้นที่ใหญ่กว่าที่ราบสูงโกลันหลายเท่า และเป็นที่ต้องการของอิสราเอลตามยุทธศาสตร์ขยายดินแดน
การทำสงครามแย่งชิงดินแดนมีอยู่ในทุกยุคสมัย หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 มีความพยายามป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก คำประกาศของรัฐบาลทรัมป์เป็นการตอกย้ำว่าเรื่องนี้ได้เกิดขึ้นอีกแล้วในศตวรรษที่ 21 นี้ รัฐบาลสหรัฐเห็นชอบกับการทำสงครามแย่งชิงดินแดน
และอาจต้องสรุปว่าประเทศเสรีประชาธิปไตยอย่างสหรัฐสนับสนุนการทำสงครามแย่งชิงดินแดน
เป็นคำถามว่าประเทศใดจะเป็นเหยื่อรายต่อไป
อนึ่ง คำประกาศยอมรับที่ราบสูงโกลันเป็นของอิสราเอลยังไม่ถือว่าประเทศสหรัฐอเมริกายอมรับที่ราบสูงโกลันเป็นของอิสราเอล ยังต้องผ่านการรับรองจากรัฐสภาเสียก่อน เป็นประเด็นที่น่าติดตาม.
--------------------------
ภาพ : แผนที่ของที่ราบสูงโกลัน
ที่มา : World Conflicts: Asia and the Middle East
-------------------
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |