'แก้วสรร'ชง 2 ประเด็นแก้วิกฤติ'กกต.'รายงานผลคะแนนเลือกตั้ง


เพิ่มเพื่อน    

30 มี.ค.62 – อาจารย์แก้วสรร อติโพธิ เผยแพร่บทความเรื่อง ความผิดพลาดที่แท้จริง และแก้ไขได้ของ กกต.”ผ่านเวบไซต์thaipost โดยมีเนื้อหาดังนี้

        ความไม่ชื่อมั่นในผลการเลือกตั้งจาก กกต. กำลังลุกลามและจะกัดเซาะเสถียรภาพการเมืองไทยหลังเลือกตั้งแรงขึ้นเรื่อยๆ   ได้ฟังท่านประธาน กกต.ยอมรับว่ามีความผิดพลาดในการทำงานอยู่จริง ก็ขอมีส่วนชี้แนะแนวทางแก้ไขตามควรดังนี้

๑.ปัญหาการรายงานคะแนนที่ปรากฏในคืนวันที่ ๒๔ มีนาคม

        ผมเชื่อมั่นว่าความตะกุกตะกักทั้งปวง เกิดจากแนวทางใหม่ที่ต้องทำ ตามระเบียบ กกต.ที่เขียนขึ้นใหม่ในข้อนี้

        “ข้อ ๑๖๙ เมื่อสำนักงานได้รับรายงานผลการเลือกตั้งตามข้อ  ๑๕๙  แล้ว  ให้จัดให้มีการแสดงผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการต่อสาธารณะ  โดยให้แสดงผลไม่เกินร้อยละเก้าสิบห้า ของจำนวนหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด”

        ข้อกำหนดให้กั๊กคะแนนไว้ ๙๕% นี้  นอกจากจะไม่สมเหตุผลและ กกต.ยอมโยนทิ้งยอมประกาศคะแนนไป ๑๐๐ % แล้วก็ตาม  แต่ก็ทิ้งความเสียหายไว้แล้วดังนี้

 ปัญหาหน้างานในคืนวันที่ ๔ นั้น  ขณะที่คะแนนเทเข้ามาที่ กกต.ทุกทิศทุกทาง  หน้างานก็สับสนกันหนักว่าจะ หัก ๕ %  กันอย่างไรดี ขณะที่คะแนนดิบเต็มจำนวนของแต่ละหน่วยก็ไหลสดออกสื่อทีวีไปทุกเวลา  แล้วอย่างนี้จะหักลดกันอย่างไร

ทั้งหมดนี้นี่เองที่ทำให้เกิดการหยุดรายงานเป็นระยะ  แล้วโผล่มาเย็นวันรุ่งขึ้น เมื่อได้คะแนนรวมแล้วจึงได้หักลด ๙๕%ตรงคะแนนรวม ประกาศเสร็จเรียบร้อยออกมาในที่สุด นั่นเอง

๒. ปัญหาความไม่เชื่อถือในคะแนนที่รายงาน

ความตะกุกตะกักข้างต้น ได้ขยายผลเป็นความไม่เชื่อถือในหลายจุด จะใช้วาจาชี้แจงอย่างไรก็แก้ไขไม่ได้จนปัจจุบัน  แต่ก็มีแนวทางแก้ไข ที่ กกต. น่าจะใช้ได้โดยพลันดังนี้

๒.๑.ให้สื่อมวลชนและพรรคการเมือง แต่ละสายประชุมร่วมกันเสนอผู้แทนที่พวกตนเชื่อถือมาร่วมเป็นกรรมการตรวจสอบ ไม่เกิน ๕ คน โดย ๕ คนนี้ไม่จำต้องเป็นสื่อหรือนักการเมือง

๒.๒ ให้สร้างกระบวนการตรวจสอบที่เปิดเผยติดตามได้ตลอด  ดังนี้

        ๒.๒.๑) ทำบัญชีคะแนน นับให้เห็นชัดเจนทั้งคะแนนตามหน่วย และตามเขต ทั้ง ๓๕๐ เขตจนครบถ้วน แล้วตรวจทานตัวเลขให้ชัดแจ้ง  จากนั้นก็แจกจ่ายให้สื่อและพรรคการเมืองนำไปตรวจสอบ ทั่วประเทศ   แล้วผู้สมัครหรือสื่อรายใด ก็รายงานหน่วยที่เห็นว่าไม่น่าเชื่อถือ ขอให้นับใหม่ พร้อมเหตุผลที่สงสัยที่มีน้ำหนักเพียงพอ ต่อกรรมการใน ๗ วัน

        ๒.๒.๒) คณะกรรมการพิจารณาแล้วเสนอ คำร้องให้นับใหม่ เฉพาะที่เห็นว่าสมเหตุผล ต่อ กกต.เพื่อพิจารณา ใน ๕ วัน   แล้ว กกต.ก็สั่งการนับใหม่ใน หน่วยที่เห็นควร ใน ๕ วัน

แนวทางนี้มุ่งเฉพาะความถูกต้องของคะแนนจากหีบเท่านั้น  หากทำได้ ใน ๑ เดือน  ปัญหาเรื่องคะแนนไม่น่าเชื่อก็จะหมดไป เหลือแต่เรื่องการตรวจสอบความประพฤติไม่สุจริตผิดกฎหมายทั้งปวงของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง ที่ กกต.ต้องรับผิดชอบสะสาง ให้ใบเหลืองใบแดงเองต่อไป ตามปรกติเท่านั้น 

 ทั้งสองเรื่องนี้หากทำได้ดี  ปัญหาความไม่น่าเชื่อถือในผลการเลือกตั้งทั้งปวงก็จะหมดไปได้ในที่สุด. 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"