แห่ฟ้องโกง‘เลือกตั้ง’ กทม.-ปากน้ำ-พัทลุง


เพิ่มเพื่อน    

  ผู้สมัคร ส.ส.หลายพรรคบุก "กกต." ร้องโกงเลือกตั้งในพื้นที่อื้อ "เด็กอนาคตใหม่" โวยเขต 6 กทม.ทหารชะโงกดูการลงคะแนนกันในคูหา จี้จัดเลือกตั้งใหม่ "เพื่อไทย" ตั้งกรรมการตรวจสอบทุจริต "นิพิฏฐ์" หอบคลิป-แชตไลน์แฉซื้อเสียงชัดเจน ซัดมี กก.บห.บางพรรคบงการเองพร้อมวางแผนโดนจับได้โยนประชาธิปัตย์ทำ

    ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตลอดทั้งวันที่ 29 มี.ค. ผู้สมัคร ส.ส.จากพรรคการเมืองต่างๆ เดินทางมายื่นคำร้องต่อ กกต. เรื่องการทุจริตการเลือกตั้งในแต่ละพื้นที่ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงให้เกิดความเป็นธรรมและโปร่งใส
    โดย 3 ผู้สมัคร ส.ส.กทม. ประกอบด้วย นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส ผู้สมัคร ส.ส.เขต 13 บางกะปิ พรรคเพื่อไทย, น.ส.ณิชชา บุญลือ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 13 บางกะปิ พรรคอนาคตใหม่ และนายคริส โปตระนันทน์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 6 พญาไท พรรคอนาคตใหม่  เข้ายื่นร้องต่อ กกต. กรณีมีหลักฐานข้อสงสัยส่อว่าจะมีการทุจริตการเลือกตั้ง เพื่อขอให้พิจารณาเลือกตั้งใหม่ในเขต 6 และ 13
    นายตรีรัตน์กล่าวว่า ในเขตเลือกตั้งที่ 13 บางกะปิ พบการทุจริตซื้อขายเสียง ซึ่งกรณีนี้ตนได้หารือร่วมกับผู้สมัครพรรคอนาคตใหม่และเลขาฯ ของนายพริษฐ์ วัชรสินธุ หรือไอติม ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ด้วย แต่นายพริษฐ์ขอเข้ายื่นร้องในนามพรรคเอง โดยพบความผิดปกติหลายประเด็น เช่น ผู้มาใช้สิทธิ์จำนวนน้อยกว่าบัตรเลือกตั้ง การขานคะแนนนับบัตรไม่มีแสงสว่างเพียงพอ รวมทั้งมีการซื้อเสียงหัวละ 500 บาท ซึ่งมีพยานบุคคลยืนยัน
    ส่วน น.ส.ณิชชากล่าวว่า ผลคะแนนของตนมีความคลาดเคลื่อน โดยตรวจสอบพบว่าคะแนนหายไป ในการนับตนมีคะแนนนำมาโดยตลอด ประมาณ 2,700 คะแนน แต่ช่วงเวลาต่อมากลับเหลือประมาณ 2,300 คะแนน ซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้ ตนได้ยื่นขอดูผลคะแนนที่สำนักงานเขตแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้รับผลคะแนนที่ชัดเจน จึงขอให้ กกต.กลางเปิดเผยผลคะแนนทุกหน่วยของ กทม.
    นายคริสกล่าวว่า ในส่วนเขตเลือกตั้งที่ 6 มีปัญหามาก ทั้งเรื่องการจัดการเลือกตั้งและนับคะแนน มีการลงคะแนนที่ไม่ลับ เนื่องจากปรากฏภาพทหารชะโงกดูการลงคะแนนกันในคูหา ตามคลิปวิดีโอที่ไทยรัฐทีวีนำเสนอ ทั้งยังมีคนไปคอยเช็กอยู่ตลอดว่าผู้มีสิทธิ์ไปลงคะแนนที่ไหนอย่างไร และยังพบความผิดปกติที่ผู้มีมาใช้สิทธิ์ครบทุกคนจำนวน 5 หน่วย บางหน่วยมีการขานนับคะแนน 2 ครั้งของบางพรรค แต่บางครั้งคะแนนของพรรคอนาคตใหม่กลับเป็นบัตรเสีย จึงขอให้ กกต.จัดการเลือกตั้งใหม่ในเขต 6
    จากนั้นนายประเสริฐ ชัยกิจเด่นนภาลัย เขต 3 และนางสลิลทิพย์ สุขวัฒน์ เขต 5 ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย เข้ายื่นคำร้องขอให้ กกต.จัดการเลือกตั้งใหม่ใน จ.สมุทรปราการ ทั้ง 7 เขตเลือกตั้ง 
    นายประเสริฐกล่าวว่า การเลือกตั้งใน จ.สมุทรปราการ มีการทุจริตอย่างเป็นระบบ ทำให้วาทกรรมสมุทรปราการเมืองโคตรโกงกลับมาหลอกหลอน  กกต. ซึ่งเป็นองค์การอิสระ ใช้งบมากกว่า 5,800 ล้านบาท การทุจริตเลือกตั้ง โดยเฉพาะการใช้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น อบจ. อบต. ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ไปเป็นกลไกในการหาเสียง 
    "นอกจากนี้ยังปรากฏภาพถ่ายนายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ประธานหอการค้าสมุทรปราการ ขึ้นเวทีปราศรัยของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งทุกเขตเลือกตั้งของสมุทรปราการก็มีการกระทำเช่นเดียวกันทั้งจังหวัด จึงขอคัดค้านเลือกตั้ง และขอให้จัดการเลือกตั้งขึ้นใหม่ เพื่อกอบกู้ศักดิ์ศรีของคนสมุทรปราการ" ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าว
    ส่วนนางลลิลทิพย์ระบุว่า ใน ต.คลองด่าน มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เมื่อเห็นผู้สูงอายุไปแสดงตนใช้สิทธิและต้องการกาเลือกพรรคเพื่อไทย เจ้าหน้าที่ก็แกล้งแนะนำให้กาทับโลโก้พรรค ทำให้ในหน่วยเลือกตั้งดังกล่าวมีบัตรเสีย 50 ใบ
    ที่พรรคเพื่อไทย นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 27 มี.ค. พรรคเพื่อไทยตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบทุจริตเลือกตั้ง มีนายชูศักดิ์ ศิรินิล เป็นประธานคณะทำงาน มีกรรมการรวม 9 คน ประกอบด้วย นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา, นายนพดล ปัทมะ, นายสามารถ แก้วมีชัย, นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์, นายชวลิต วิชยสุทธิ์,  นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย, พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร และตนเป็นเลขานุการ โดยกรอบการทำงานของคณะทำงานชุดดังกล่าว จะรับประเด็นข้อเท็จจริงที่อาจเข้าข่ายการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง จากผู้สมัคร ส.ส.แต่ละเขตในแต่ละภาค เพื่อมาพิจารณาข้อกฎหมายแล้วเขียนคำร้องให้ผู้สมัครนำไปร้องต่อ กกต. และไม่ใช่เพียงแค่เดินทางไปร้องเรียนเท่านั้น 
    "เราจะมีการติดตามผลการทำงานของ กกต.หลังจากนี้ด้วยว่าเป็นอย่างไร เพราะการเลือกตั้งในครั้งนี้ เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความผิดปกติเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ คณะกรรมการชุดดังกล่าวจะหารือกันอีกครั้งในวันที่ 2 เม.ย.นี้" โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าว
    ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รักษาการรองหัวหน้าพรรค และอดีตผู้สมัคร ส.ส. พัทลุง เขต 2 แถลงข่าวเรียกร้องให้ประชาชนเป็นลูกขุนให้กับคดีการทุจริตซื้อเสียงเลือกตั้งในภาคใต้ หลังจากที่ได้มอบหมายให้ทีมกฎหมายของพรรคไปยื่นต่อ กกต.ให้สอบสวนเมื่อวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา
    นายนิพิฏฐ์กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ตนไม่ได้รังเกียจการซื้อเสียง แต่รู้สึกขยะแขยง ไม่ขอระบุว่าเกิดขึ้นในพื้นที่ไหน แต่ยืนยันว่ามีจริงตามข้อมูลที่มีในขณะนี้ ที่มาขอร้องให้ประชาชนเป็นลูกขุนตรวจสอบการวินิจฉัยของ กกต.ว่าจะขัดกับคำวินิจฉัยของประชาชนหรือไม่ ซึ่งจากที่ตนได้ยื่นหลักฐานไปยัง กกต. ประกอบด้วย บันทึกสนทนาของกลุ่มไลน์กลุ่มหนึ่งซึ่งมีสมาชิกจำนวน 388 คน โดยเป็นเนื้อหาการสนทนาเกี่ยวกับการรวบรวมบัตรประชาชนในพื้นที่ เพื่อเตรียมการทุจริตการเลือกตั้ง มีการย้ำว่าทุกขั้นตอนอย่าประมาท เพราะเรากำลังสู้กับกฎหมาย 
    "ผมยังมีหลักฐานบันทึกสนทนาของกลุ่มไลน์อีกหนึ่งกลุ่ม เป็นเรื่องเกี่ยวกับการแจ้งเตือนจากกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) พรรคการเมืองหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มด้วย โดยบอกกับสมาชิกในกลุ่มให้ระวัง เนื่องจากผมกำลังจับตาตรวจสอบอยู่ โดยประกาศให้รางวัลกับคนที่เก็บบัตรประชาชนหัวละ 10 บาท แสดงว่า กก.บห.คนนี้รู้ถึงขบวนการโดยไม่ได้ห้ามปราม" นายนิพิฏฐ์กล่าว
    รักษาการรองหัวหน้าพรรค ปชป.กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีบันทึกข้อความจากไลน์อีกหนึ่งกลุ่ม มีใจความว่า “หากใครถูกจับช่วงแจกเงินให้บอกว่าเป็นเงินของพรรคประชาธิปัตย์ ผมถูกตำรวจจับผมก็พูดว่าพรรคประชาธิปัตย์ให้ทำ” ถือเป็นการใส่ร้ายตามกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. และผู้สมัครในกลุ่มไลน์นี้ก็ไม่ได้โต้แย้งหรือคัดค้านว่าการใส่ร้ายเช่นนี้ไม่ถูกต้อง เท่ากับยอมรับวิธีการใส่ร้ายพรรคประชาธิปัตย์และผู้สมัคร 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนิพิฏฐ์ยังได้เปิดคลิปวิดีโอตอนหนึ่งขณะที่หัวคะแนนกำลังจ่ายเงินให้กับชาวบ้าน ซึ่งในคลิปดังกล่าวเป็นการพูดคุยภาษาใต้ ใจความสรุปว่า ให้เลือกผู้สมัคร ส.ส.เบอร์ 9 พร้อมจ่ายเงิน 500 บาท และยังบอกด้วยว่าหากพรรคไหนจ่ายก็รับไปเลย แต่ขอให้เลือกเบอร์ 9
    ถามว่า นอกจากพื้นที่ที่ปรากฏหลักฐานในวันนี้ยังมีเขตเลือกตั้งอื่นที่มีการกระทำดังกล่าวเช่นเดียวกันอีกหรือไม่ นายนิพิฏฐ์กล่าวว่า ทราบว่ามีในพื้นที่ จ.สตูล เขต 2 และ จ.สงขลา เขต 7 ซึ่งเป็นการกระทำทุจริตจากพรรคเดียวกันกับกรณีที่ตนนำมาเปิดเผย โดยทำเป็นขบวนการ เพื่อให้ชนะการเลือกตั้งในพื้นที่ภาคใต้ และพรรคดังกล่าวก็รู้ว่า กก.บห.ของเขารับทราบเรื่องนี้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคในพื้นที่จะเป็นผู้นำหลักฐานยื่น กกต.ต่อไป และหากสิ่งที่ตนนำมาร้องเรียนสุดท้ายแล้วพบว่ามีความผิดจริง ก็ต้องมีจัดการจัดเลือกตั้งใหม่ในเขตนั้น แต่กรณีนี้เกี่ยวข้องกับ กก.บห.ดังกล่าวก็ต้องมีการยุบพรรคนั้น
    รักษาการรองหัวหน้าพรรค ปชป.กล่าวว่า ตนยังมีหลักฐานที่เป็นคลิปวิดีโอบันทึกภาพการกระทำการทุจริตอีกหลายชิ้น ซึ่งคลิปที่นำมาเปิดเผยในวันนี้ (29 มี.ค.) เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"