นักศึกษา "เชียงใหม่-ขอนแก่น" ตั้งโต๊ะลงชื่อถอดถอน "กกต." นิสิตเกษตรฯ โดนมหาวิทยาลัยเบรกห้ามทำกิจกรรมโดยไม่ได้ขออนุญาต "ศรีสุวรรณ" ไปตลาดยิ่งเจริญ 31 มี.ค.ให้ ปชช.ร่วมเข้าชื่อด้วย "วิษณุ" ย้ำกฎหมายการชุมนุมยังบังคับใช้อยู่ "โฆษกวิป สนช." บอกล่าชื่อเท่าไหร่ก็ไร้ผลทาง กม. เหตุ รธน.ไม่ได้ให้อำนาจถอดถอน ระบุศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ ชี้เท่านั้น

    เมื่อวันที่ 29 มี.ค. บริเวณโรงอาหารมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) กลุ่มสมัชชาเสรีแห่งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เพื่อประชาธิปไตย นำโดยนายอภิบาล สมหวัง พร้อมด้วยสมาชิก ได้ร่วมกันออกมาแสดงเชิงสัญลักษณ์ ในการเชิญชวนให้ประชาชนร่วมกันลงชื่อในระบบออนไลน์ เพื่อถอดถอน กกต. หลังพบว่ามีความผิดปกติในหลายกรณีด้วยกัน ทั้งความผิดปกติของผลคะแนนที่เกิดขึ้นในหลายเขตเลือกตั้ง ความผิดปกติในการนับคะแนนที่ล่าช้ากว่าที่ควรเป็น รวมไปถึงความหละหลวมในการปฏิบัติหน้าที่อันทำให้เกิดความสงสัยขึ้นในสังคม
    นอกจากนี้ได้มีการตั้งโต๊ะที่บริเวณคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อให้ประชาชนและผู้ที่สนใจสามารถร่วมกันลงชื่อเพื่อถอดถอน กกต. ซึ่งการลงชื่อถอดถอนในครั้งนี้ ได้รับความสนใจจากนักศึกษาเป็นจำนวนมาก ต่างพากันลงชื่อถอดถอนดังกล่าว
    นายอภิบาลกล่าวว่า เรามีความคิดเห็นว่า กกต.ชุดนี้มีการทำงานที่ไม่เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม เท่าที่ควร รวมไปถึงความหละหลวมในการปฏิบัติหน้าที่อันทำให้เกิดความสงสัยขึ้นในสังคม จึงได้จัดกิจกรรมขึ้นเพื่อเชิญชวนผู้ที่เห็นด้วยมาลงชื่อเพื่อถอดถอน กกต.
    ที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) ได้มีนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่นทยอยกันมาร่วมลงลายชื่อเพื่อถอดถอน กกต. โดยเฉพาะนักศึกษาที่เป็นสมาชิกของกลุ่มดาวดิน ได้มาร่วมลงชื่อกันตลอดทั้งวัน
    นายธีระวัฒน์ รูปใหญ่ นศ.ปี 4 คณะนิติศาสตร์ มข. กล่าวว่า เรียนกฎหมายมายังไม่เคยได้ยินเลยคำว่าบัตรเขย่ง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นการแก้ตัวของ กกต.แบบน้ำขุ่นๆ อีกทั้งในการเลือกตั้งล่วงหน้าที่ประเทศนิวซีแลนด์ ที่มีบัตรเลือกตั้งจำนวน 1,542 ใบ ที่ก่อให้เกิดความสงสัยต่อเหตุการณ์ขึ้นในขณะนี้ แทนที่ กกต.จะออกมารับผิดชอบ กลับบอกว่าเป็นบัตรที่ไม่สามารถนำมานับได้ ซึ่งก็ไม่แตกต่างอะไรกับบัตรเสีย ผมมองว่าเป็นการไม่เคารพสิทธิ์ของประชาชน แต่ถ้าจะรอให้ กกต.รับผิดชอบด้วยการลาออกเองคงไม่มีความหวัง
    ขณะที่มีรายงานข่าวว่า ทางมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ห้ามนิสิตทำกิจกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางมหาวิทยาลัย เนื่องจากเป็นพื้นที่การเรียนการสอน 
    นอกจากนี้ ทางเฟซบุ๊ก "เครือข่ายคนรุ่นใหม่เพื่อการเปลี่ยนแปลงสังคม" ได้มีการจัดกิจกรรมรวบรวมรายชื่อประชาชน 1 ล้านรายชื่อ เพื่อถอดถอน กกต. โดยมีการตั้งโต๊ะลงชื่อตามจุดในพื้นที่มหาวิทยาลัยต่างๆ อาทิ มอ.ปัตตานี, มหาวิทยาลัยนเรศวร, มหาวิทยาลัยรังสิต, มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตสงขลา ล่าสุด เวลา 13.11 น. มีผู้ลงชื่อสนับสนุนการรณรงค์ถอดถอน กกต. ผ่าน w ww.change.org จำนวน 813,147 คน
    เช่นเดียวกับเครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง (คนส.) ออกแถลงการณ์แสดงท่าทีและข้อเสนอ 5 ข้อในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค. ซึ่งมีข้อพิรุธหลายประการที่ส่อว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่เป็นไปอย่างอิสระ สุจริต และยุติธรรม โดยเชิญชวนประชาชนแสดงออกเชิงสัญลักษณ์อย่างสันติ เรียกร้องให้มีการเปิดเผยผลการนับคะแนนที่โปร่งใสในรูปแบบต่างๆ 
    เพจเฟซบุ๊ก "กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย Democracy Restoration Group - DRG" สื่อประชาสัมพันธ์ของกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง โพสต์ว่า ขอเชิญชวนประชาชนที่เห็นถึงการโกงเลือกตั้งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มาร่วมแสดงพลังต่อต้านการโกงเลือกตั้งด้วยกันกับเรา ในวันอาทิตย์ที่ 31 มี.ค. เวลา 17.00 น. ที่ Skywalk อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
    นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวว่า ขอประกาศตั้งโต๊ะเพื่อให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งทุกคนทั่วประเทศและทั่วโลก ได้ร่วมกันเข้าชื่อ 2 หมื่นรายชื่อ เพื่อดำเนินการถอดถอน กกต.ทั้ง 7 คนให้ออกจากตำแหน่ง เพราะถือได้ว่าจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและกฎหมาย โดยจะเปิดทำการตั้งโต๊ะให้เข้าชื่อกันในวันอาทิตย์ที่ 31 มี.ค.2562 เวลา 10.00 น.เป็นต้นไป ณ หน้าร้าน Cha Srisuwan ข้างๆ ประตู 3 ตลาดยิ่งเจริญ สะพานใหม่ 
    ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีกลุ่มนักศึกษาออกมาเรียกร้องให้ กกต.รับผิดชอบกับการจัดการเลือกตั้งที่มีปัญหาว่า ไม่ขอตอบ เพราะถ้าตนตอบอะไรไปก็ขาดทุน ถ้าบอกว่าเป็นห่วงก็ไม่ดี หรือถ้าบอกว่าไม่เป็นห่วงมันก็ไม่ดี ไม่ได้ประโยชน์อะไร ส่วนนักศึกษาจะชุมนุมได้หรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ ต้องถามคนที่ดูแลด้านความมั่นคง
    ถามว่ากฎหมายชุมนุมในพื้นที่สาธารณะยังสามารถใช้ได้อยู่ใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ถ้าถามอย่างนั้นมันก็ใช่ เพราะกฎหมายยังมีอยู่ แต่ผมไม่ได้เป็นคนตอบ เพราะคุณมาถาม ผมจะตอบไม่รู้ก็ไม่ได้ หรือจะตอบว่าไม่ใช่ก็ไม่ได้ หรือจะตอบว่าไม่รู้ก็ไม่ใช่ ก็ต้องตอบอย่างที่ว่า
    ซักว่า กกต.ชุดนี้มีอะไรคุ้มครองไม่ให้ปลดได้หรือไม่ เช่น มาตรา 44 นายวิษณุกล่าวว่า ไม่มี ส่วนจะต้องมีการแนะนำ กกต.ให้ทำหน้าที่ในบทบาทที่เหลืออยู่ว่าต้องทำอย่างไรนั้น นายวิษณุกล่าวว่า ไม่เสนอ เพราะว่าตนไม่รู้จะไปเสนออะไรอย่างไร เขาเก่งกว่าตนตั้งเยอะ จะไปเสนออะไร
    ส่วน นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิป สนช.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ถึงกรณีมีการล่าชื่อถอดถอน กกต. ตอนหนึ่งระบุว่า กระแสถอดถอน กกต.กำลังมาแรงผ่าน web site ซึ่งระดมผู้สนับสนุนได้มากกว่า 7 แสนคนแล้วในขณะนี้ เข้าใจว่าเป็นปฏิบัติการทางจิตวิทยาเพื่อกดดันกกต. แต่ล่าสุดมีการล่าชื่อนิสิตนักศึกษาในหลายมหาวิทยาลัยด้วยแบบฟอร์มพร้อมบัตรประชาชน แต่ถึงจะได้จำนวนเท่าใดก็ไม่มีผลทางกฎหมายแต่อย่างใด 
    "รธน.แห่งราชอาณาจักรไทยฉบับนี้ ไม่ได้ให้อำนาจ ส.ว. (หรือ สนช.ที่ปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.และ ส.ว.)ถอดถอนกรรมการในองค์กรอิสระอีกต่อไป แต่มอบอำนาจให้ศาลฎีกาหรือศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นผู้พิจารณาพิพากษาคดีตามมาตรา 234, 235 และ 236 ของ รธน."
    โฆษกวิป สนช.ระบุว่า มาตรา 234 ป.ป.ช.มีหน้าที่และอำนาจในการไต่สวน และมีความเห็นว่ากรรมการในองค์กรอิสระ (กกต.) ทุจริตต่อหน้าที่ จงใจปฏิบัติหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่ง รธน.หรือกฎหมาย หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง แล้วดำเนินการต่อไปตาม รธน.หรือ พ.ร.ป. ป.ป.ช. ส่วนมาตรา 235 กรณีมีเหตุอันควรสงสัยหรือมีการกล่าวหาผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ (กกต.) ให้ ป.ป.ช.ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริง หากมีมติไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของ ป.ป.ช.ทั้งหมด ว่า กกต.ผู้นั้นมีพฤติการณ์หรือกระทำความผิดตามที่ไต่สวน ให้ดำเนินการ 1.ผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรงให้เสนอเรื่องต่อศาลฎีกาเพื่อวินิจฉัย 2.กรณีอื่น ให้ส่งสำนวนไปที่อัยการสูงสุด เพื่อดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อไป
    "เมื่อศาลฎีกาหรือศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯประทับรับฟ้อง ให้ กกต.นั้นหยุดปฏิบัติหน้าที่
มาตรา 236 ส.ส.หรือ ส.ว.ไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา หรือปชช.ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่น้อยกว่าสองหมื่นคน มีสิทธิเข้าชื่อกล่าวหา ป.ป.ช.ผู้ใด กระทำผิดตามมาตรา 234 ให้ยื่นต่อ ปธ.รัฐสภาพร้อมหลักฐานตามสมควรไม่ต้องล่ารายชื่อก็สามารถยื่นฟ้อง กกต.ได้อยู่แล้ว เพียงแต่ต้องยื่นฟ้องต่อ ป.ป.ช.ให้ไต่สวนก่อน ถ้า ป.ป.ช.รับฟ้อง กกต.ก็ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ต้องมีหลักฐานว่า กกต.ทำผิดอะไร ทุจริตต่อหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายใด" โฆษกวิป สนช.ระบุ.