กลายเป็นประเด็นขึ้นมาทันที เมื่ออดีตนางเอกคนดัง ต่าย ชุติมา ได้โพสต์ข้อความตามหาลูกสาว น้องพิพิม ผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัว เพราะก่อนหน้านี้ได้นัดกับทางอดีตสามีนักการเมืองหนุ่มหล่อจากพรรคอนาคตใหม่ ทิม-พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ว่าจะนำลูกสาวมาส่งให้แต่กลับรอเก้อไร้เงาของทั้งคู่ สุดท้ายทาง ทิม พิธา ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความตอบกลับผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว โดยแจ้งว่าลูกสาวปลอดภัยดี และอยากให้อีกฝ่ายปฏิบัติตามคำสั่งศาลน่าจะดีที่สุด
งานนี้ทำเอาหลายคนเริ่มสับสนถึงสถานะระหว่าง ต่าย ชุติมา กับทิม พิธา ว่าตอนนี้ยังรักกันดีหรือแยกทางกันไปแล้ว โดยล่าสุดทางด้านของหนุ่มทิมก็ได้ถือโอกาสตั้งโต๊ะแถลงข่าว เพื่อชี้แจงถึงประเด็นดราม่าที่หลายคนยังคงคาใจ โดยยอมรับที่ผ่านมาได้พยายามประคับประคองชีวิตแต่งงานมาอย่างเต็มที่แล้ว แต่เมื่อมาถึงทางตันก็ต้องยอมปล่อยมือ ตอนนี้ขอโฟกัสทุกอย่างที่ลูกสาวเท่านั้น
“ผมก็ไม่เคยนึกเลยว่า จะมาถึงวันนี้ที่จะต้องมาพูดกับพี่ๆ สื่อมวลชน ด้วยรอยยิ้มที่ฝืน แล้วก็ใจที่หนักอึ้ง ผมเองที่ผ่านมาก็ไม่ได้เป็นคนสาธารณะแต่อย่างใด ครั้งสุดท้ายที่มีบรรยากาศแบบนี้ ก็เมื่อมีงานแต่งงาน แต่ตอนนี้ต้องยอมรับว่าความรักของผมนั้นมันถึงทางตันมาเป็นระยะเวลานาน น่าจะ 13-14 เดือนแล้ว ผมก็พยายามเต็มที่แล้ว ตลอดเวลา 12-13 เดือนที่ผ่านมาที่จะประคับประคอง ไม่ว่าจะด้วยการพูดคุยกันเอง หรือพูดคุยโดยมีผู้ใหญ่ที่เคารพมาช่วยด้วย แล้วก็ไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้านการสมรสมาตลอด แต่ในที่สุดแล้วก็ไม่สำเร็จ ก็ทำไม่ได้ บทบาทของการเป็นสามีภรรยาก็คงต้องยุติลง แต่ก็ยังเป็นสามีภรรยากันตามกฎหมายอยู่ เพราะว่ายังไม่ได้ไปจดทะเบียนหย่าที่เขตแต่อย่างใด
ถึงแม้ว่าบทบาทของการเป็นสามีภรรยาอาจจะไม่ได้ไปต่อ แต่ในความเป็นพ่อเป็นแม่มันยังมีอยู่ แล้วก็ยังมีความหวังว่าอยากจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน แล้วก็ช่วยกันเลี้ยงลูกต่อไปให้ได้ แน่นอนว่าในปัจจุบันคงเห็นว่ามันมีความขัดแย้งอยู่ชัดเจน ก็คงปฏิเสธตรงนี้ไม่ได้ แต่ต้องเข้าใจว่าชีวิตคนเรามันมีบางเรื่อง ที่เหตุผลมันแก้ไขไม่ได้ แล้วบางเรื่องที่เหตุผลมันแก้ไขไม่ได้ สิ่งที่จะแก้ได้คือเวลา มันจะนานเท่าไหร่เราก็คงต้องอดทนแล้วก็พยายามมี่จะแก้ไขมันต่อไป
สิ่งเดียวที่ห่วงมากที่สุดก็คือลูก ก็เป็นห่วงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ผมคงไม่ลงรายละเอียด เพราะอยู่ในชั้นศาลหมดแล้ว ต้องยอมรับว่าพิพิม(ลูกสาว)ก็ได้รับผลกระทบ อาจมีเรื่องความเครียดหรือความสับสน จากความผิดของพ่อและแม่เอง ผมจะปล่อยให้ลูกมารับกรรมจากความไม่เข้าใจของผู้ใหญ่ไม่ได้ การที่เขาต้องเก็บกระเป๋าย้ายบ้านใหม่ทุกๆ 5 วันโดยไม่มีเหตุผลอธิบาย จะสร้างความสับสนให้กับลูกขนาดไหน ผมก็พยายามพูดคุยกับทางคุณแม่ว่า ช่วยกำหนดวิธีเลี้ยงลูกให้มีเสถียรภาพกันเถอะ ผมเองไม่เห็นด้วยที่ลูกจะต้องย้ายไปอยู่ที่บ้านนั้น 5 วัน แล้วย้ายไปบ้านนี้ 5 วัน เลยพยายามคุยกันแต่ก็ยังไม่สำเร็จ แล้วเมื่อถึงจุดที่ต้องเลือกระหว่าง การพูดคุยต่อไปกับการปกป้องลูก ผมเลยตัดสินใจที่จะต้องฟ้องหย่าเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
ฟ้องหย่าเพื่อขอสิทธิ์ในการเลี้ยงดูบุตรและเพื่อที่จะสามารถคุยกันได้รู้เรื่อง ถึงจะมีศึกก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะใช้สิทธิ์ในการบังคับอะไร แต่ว่ามันถึงจุดที่เราจะต้องปกป้องสิทธิ์ของพิพิม พอมีการฟ้องหย่ากันก็มีการไต่สวนไปเมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งคุณต่ายไม่ได้มาตามนัดศาล เลยเป็นการไต่สวนและดูหลักฐานของผมฝ่ายเดียว ศาลได้พิพากษาให้หย่าขาด แต่ว่ายังไม่ได้ไปจดทะเบียนที่เขต และพิพากษาให้สิทธิ์ปกครองบุตรกับผมแต่เพียงผู้เดียว แต่คุณต่ายไม่มาตามนัดศาล และคุณต่ายจะขออุทธรณ์รื้อคดีใหม่อีกรอบ ซึ่งไม่เป็นไรให้เป็นไปตามกระบวนการศาล
ถ้าถามว่า ณ วันนี้ยังรักกันอยู่ไหมมันคงเป็นความหวังดีที่มีต่อกันและกัน บทบาทของสามีภรรยาก็คงต้องยุติไปอย่างนั้นจริงๆ ความรักมีหลายแบบไม่จำเป็นต้องในเชิงโรแมนติก ตอนนี้ต้องเข้าใจว่าครอบครัวผมก็ไม่ต่างจากคนอื่น เวลาที่มีปัญหาตอนแรกมันไม่สามารถพูดคุยกันได้ เป็นเรื่องธรรมดาของคนที่มาถึงทางตัน ไปต่อไม่ไป ต้องถอยคนละก้าว ยังยินดีที่จะเป็นเพื่อนกันคอยดูแลช่วยเหลือซึ่งกันและกันในลักษณะนั้นเสียมากกว่า ตอนนี้มีอะไรที่อยากจะฝากถึงเขาไหม ก็ไม่ได้ต่างจากข้อความที่ส่งไปหาเขา ก็คิดว่ามานั่งคุยกันเถอะ สองคน นึกถึงตอนที่เริ่มรักกันใหม่ๆ ก็ได้ เราก็ไม่มีใครสมบูรณ์แบบไปซะทุกอย่างแต่ก็คิดว่ายังมีข้อดีอยู่บ้าง ก็พยายามมองในมุมนั้น ลองพยายามพูดคุยกันอีกสักรอบหนึ่ง อยากให้มีสติเยอะๆ แล้วเรามาพูดคุยกันว่ามันจะกำหนดได้ไหม วิธีที่จะอยู่กันอย่างมีเสถียรภาพต่อไป”
ขอบคุณภาพจากอินสตาแกรม @tye_chutima @tim_pita
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |