"วิษณุ" ชี้เข้าชื่อถอดถอน กกต.มีกระบวนการยาวไกล "รองเลขาฯ กกต." ยันทำงานตามระเบียบกฎหมายกำหนด ปัดข่าวแจกใบแดง 45 ใบเรื่องเท็จ เตรียมเอาผิดมือโพสต์ "อนค." จี้เปิดผลนับคะแนนแบบออนไลน์ให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบได้ "3 ผู้สมัคร ส.ส.เพื่อไทย" ร้องสอบพฤติกรรม จนท.ส่อโกงเลือกตั้ง
    เมื่อวันที่ 28 มี.ค. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมีประชาชนเข้าชื่อเสนอถอดถอนคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะเป็นปัญหาให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะได้หรือไม่ว่า ไม่ขอตอบเรื่องดังกล่าว เพราะไม่ทราบ ตอบไม่ถูก แต่รัฐธรรมนูญเปิดทางให้มีการเข้าชื่อเสนอถอดถอน กกต.ได้ แต่มีกระบวนการยาวไกล เริ่มจากรวบรวมรายชื่อประชาชน 2 หมื่นคน เสนอต่อประธานรัฐสภา ก่อนที่ประธานรัฐสภาจะส่งให้ประธานศาลฎีกา แล้วตั้งผู้ไต่สวนอิสระพิจารณาว่าจะถอดถอนหรือไม่
    ถามว่า ข้อผิดพลาดของ กกต. เช่น บัตรเลือกตั้งจากนิวซีแลนด์ ที่ไม่ถูกนำมานับเป็นคะแนน จะต้องมีคนรับผิดชอบหรือไม่ นายวิษณุระบุว่า ไม่ตอบ ไม่ทราบ 
    ขณะที่นายกฤช เอื้อวงศ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงตอนหนึ่งถึงกรณีมีกระแสกดดันและลงชื่อถอดถอน กกต.ว่า เรื่องการเข้าชื่อถอดถอนต้องว่าตามกระบวนการ แต่ขอชี้แจงยืนยัน กกต.ทุกคนทำงานตามระเบียบและกฎหมายที่กำหนด ทุกอย่างเปิดเผยได้ตามเวลาที่กฎหมายกำหนด 
    นายกฤชกล่าวว่า ในประเด็นการสั่งไม่นับคะแนนบัตรเลือกตั้งจากประเทศนิวซีแลนด์ ก็อยากให้ไปย้อนดู พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 114  ซึ่งมีรายละเอียดระบุไว้ถึง 4 ประเด็น หากเข้าประเด็นใด กกต.สามารถใช้อำนาจสั่งไม่นับคะแนนได้ ในทางกลับกัน หากนำบัตรดังกล่าวมานับ อาจมีผู้นำไปร้องคัดค้าน ซึ่งจะเป็นปัญหาต่อการเลือกตั้งในภาพรวม
    "กระแสข่าวที่บอก กกต.จะแจกใบแดงมากถึง 45 ใบ เป็นข่าวเท็จ การพิจารณาเรื่องร้องเรียนและคัดค้านต่างๆ ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของ กกต. ซึ่งมีขั้นตอนของการดำเนินการ แต่ยังไม่ได้ตั้งธงว่าจะให้ใบเหลืองใบแดงจำนวนเท่าไร และพรรคไหน ข่าวที่ปรากฏเรื่องใบเหลืองใบแดงนั้นไม่เป็นความจริง สำหรับผู้ที่ปล่อยข่าวเท็จทำให้เกิดความเสียหายและสร้างความสับสนนั้น กกต.จะดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายต่อไป" รองเลขาธิการ กกต.กล่าว
    ร.ต.อ.มนูญ วิเชียรนิตย์ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนงานสืบสวนสอบสวน สำนักงาน กกต. กล่าวว่า ในกระบวนการไต่สวน สืบสวน สอบสวน หากมีมูลก็จะแจ้งข้อกล่าวหาไปยังฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาทราบ โดยเป็นกรณีร้องเรียนกล่าวหา 71 เรื่อง และมีความปรากฏต่อสำนักงาน กกต. 40 เรื่อง ซึ่งจะได้ตรวจมูลคดีและตั้งกรรมการไต่สวน ท้ายที่สุดจะต้องส่งเรื่องทั้งหมดให้คณะกรรมการ กกต.ลงมติ
กกต.ยังไม่แจกใบแดง
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่เฟซบุ๊กชื่อ “นิติภูมิธณัฐ มุ่งรุจิราลัย” และทวิตเตอร์ @nitipoom 1959 โพสต์ข้อความระบุว่า กกต.เตรียมแถลงแจกใบแดงว่าที่ ส.ส. 45 เขต พรรคเพื่อไทย 28 เขต อนาคตใหม่ 15 พลังประชารัฐ 2 เลือกตั้งซ่อม 21 เม.ย.2562 ทำให้ตอนนี้พลังประชารัฐมี ส.ส.เป็นอันดับ 1 จำนวน 115 เสียง พรรคเพื่อไทยมี ส.ส.ราว 111 เสียงนั้น ล่าสุดสำนักงานประชาสัมพันธ์ สำนักงาน กกต. ได้โพสต์ข้อความชี้แจงผ่านหน้าเพจและทุกช่องทางประชาสัมพันธ์ของ กกต. 
    ข้อความชี้แจงระบุว่า ข่าวดังกล่าวเป็นเท็จ ไม่มีข้อเท็จจริงแต่ประการใด โดยในการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งนี้มีผู้ร้องคัดค้านการเลือกตั้ง และมีกรณีที่ กกต.พบเหตุที่อาจมีการกระทำฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้ง จำนวน 186 เรื่อง ซึ่งยังอยู่ระหว่างการสืบสวนไต่สวนเพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณาต่อไป อย่างไรก็ตาม สำนักงาน กกต.ขอความร่วมมือจากประชาชนในการงดส่งต่อข่าวดังกล่าว เพราะจะเป็นความผิด และอาจได้รับโทษตามกฎหมาย
    ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีต่างประเทศเรียกร้องให้ประเทศไทยตรวจสอบและเปิดเผยเรื่องการเลือกตั้งที่มีความไม่โปร่งใสว่า เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ต้องชี้แจง ตนคิดว่าทุกประเทศให้ความสนใจเรื่องนี้ แต่ที่ผ่านมา กกต.ก็ชี้แจงทุกเรื่อง ดังนั้นต้องให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย รวมถึง กกต. เรื่องบางเรื่องถูกวนซ้ำหลายครั้ง ทำให้ กกต.ถูกโจมตีซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งตนเห็นว่า กกต.ได้ทำงานอย่างเต็มที่และพยายามชี้แจงในข้อที่ทำให้เกิดความสงสัย เราต้องมองทุกฝ่ายและต้องเห็นใจ กกต.ด้วย  
    "เป็นหน้าที่ของ กกต. ซึ่งขณะนี้เขากำลังทำอยู่ ต้องให้โอกาสและความเข้าใจแก่การทำงานของเขาด้วย ผมคิดว่าประชาชนต้องอยู่บนพื้นฐานข้อมูลที่ถูกต้อง ฟัง กกต.ชี้แจงข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร ข้อมูลที่มาจากโซเชียลฯ บางครั้งมันก็จริงบ้างเท็จบ้าง ซึ่งมีเยอะ ซึ่งวันนี้เห็น กกต.ตั้งคณะทำงานขึ้นมาต่อต้านเรื่องนี้อยู่ ทั้งหมดนี้คิดว่าต้องให้โอกาส กกต.ชี้แจงว่ามีเหตุผลหรือมีความชัดเจนมากน้อยขนาดไหน" พล.อ.ฉัตรชัยกล่าว
    ถามว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ของไทยถูกวิพากษ์วิจารณ์มาก โดยเฉพาะจากต่างประเทศ เกรงว่าจะกระทบกับภาพพจน์ของประเทศหรือไม่ พล.อ.ฉัตรชัยกล่าวว่า ทุกประเทศอยากเสนอข่าวการเลือกตั้งของไทย อาจจะเป็นเทรนด์ในช่วงนี้ ซึ่งก็แล้วแต่ แต่สิ่งที่ตนย้ำอยู่เสมอคือต้องฟัง กกต. ขณะเดียวกัน กกต.ต้องชี้แจงและตอบโต้ข้อมูลในโซเชียลฯ ให้ชัดเจน
    ด้าน น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) กล่าวเรียกร้องให้ กกต.เปิดคะแนนรายหน่วยเลือกตั้งและข้อมูลทั้งหมดว่า เรายังคงเรียกร้องต่อไป แม้ทาง กกต.จะแจ้งว่าให้เราเดินไปเอาที่ กกต.จังหวัด แต่ประเทศไทยมี 77 จังหวัด หากจะให้ผู้ตรวจสอบเดินทางไปที่ กกต.จังหวัดด้วยตัวเอง กว่าจะครบ คงใช้เวลานานเกินไป ขณะที่ประชาชนเฝ้ารออยู่ กกต.มีข้อมูลทั้งหมดอยู่ในมืออยู่แล้ว เป็นหน้าที่ของท่านในการเปิดข้อมูลเหล่านี้แบบออนไลน์ เพื่อให้ประชาชนสามารถตรวจสอบได้อย่างสะดวกและรวดเร็วที่สุด อย่าผลักภาระให้ประชาชนผู้ต้องการตรวจสอบเป็นคนขวนขวายด้วยตัวเอง เพื่อพิสูจน์ความโปร่งใสและประสิทธิภาพของ กกต.เอง
    น.ส.พรรณิการ์กล่าวว่า ความผิดปกติในการประกาศผลการเลือกตั้งของ กกต. เชื่อว่าไม่ใช่แค่พรรคอนาคตใหม่ที่ตั้งข้อสังเกต แต่ประชาชนก็สงสัยเช่นกันว่าเกิดอะไรขึ้นกับการนับคะแนนและการประกาศผลการเลือกตั้งทำไมถึงล่าช้า มีตัวเลขหลายชุด ดังนั้นจึงเรียกร้องให้ กกต.เปิดเผยข้อมูลผลการนับคะแนนแบบออนไลน์เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าไปตรวจสอบได้ ป้องกันการทุจริต ไม่เช่นนั้นผลการเลือกตั้งจะไม่เป็นที่ยอมรับ
จี้สอบส่อโกงเลือกตั้ง
    "ย้ำอีกครั้งนี่ไม่ใช่การจับผิด กกต. ไม่ใช่การกดดัน หรือโกรธแค้นชิงชัง กกต. ความน่าเชื่อถือของตัวเลขมีผลต่อการเดินหน้าประเทศ และเดินหน้าทางการเมือง เพราะหากผลการเลือกตั้งไม่เป็นที่เคารพ ก็อาจส่งผลให้เกิดความขัดแย้งขึ้นได้" โฆษกพรรค อนค.กล่าว
    วันเดียวกัน นายสหรัฐ กุลศรี ผู้สมัคร ส.ส.สุพรรณบุรี เขต 4, นายสุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 9 และ ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ สุรนาทยุทธ์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 7 จากพรรคเพื่อไทย เดินทางมาร้อง กกต. กรณีพบพฤติกรรมต้องสงสัยเจ้าหน้าที่ทุจริตการเลือกตั้งในเขตพื้นที่ของตนเอง
    นายสหรัฐกล่าวว่า ในพื้นที่เขต 4 สุพรรณบุรี พบว่ามีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ไม่โปร่งใส เข้าไปในคูหา เพื่อบอกวิธีกาบัตรเลือกตั้ง และมีพฤติกรรมชะโงกดูการใช้สิทธิ์ประชาชน จึงขอให้ กกต.ตรวจสอบ นอกจากนี้ ยังปรากฏภาพที่มีลักษณะกำลังซื้อเสียง แต่ยังไม่ชัดเจนด้วย
    ส่วนนายสุรชาติกล่าวว่า พบความไม่ชอบมาพากลในการนับคะแนนของเขต 9 ที่ผลคะแนนไม่ขึ้น และบัตรเลือกตั้งเกินจำนวนผู้ใช้สิทธิ์ แต่ผู้อำนายการเขตหลักสี่กลับชี้แจงในเช้าวันที่ 25 มี.ค.ว่าเป็นการเข้าใจผิด การที่เวลาล่วงเลยไปนาน ทำให้เกิดความสงสัย และยังมีกรณีพบว่ามีการนำบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าของเขต 9 ไปนับที่เขต 1 ผู้อำนวยการเลือกตั้งเขต 1 ได้ทักท้วง แต่กรรมการที่นับคะแนนให้พิจารณาเป็นบัตรเสีย ซึ่งเมื่อผลการเลือกตั้งออกมา กรรมการการเลือกตั้งประจำเขต 9 ก็ไม่ชี้แจง รวมทั้งสำนักงานพรรคเพื่อไทยได้รับแจ้งจากประชาชนในพื้นที่เขต 9 ว่ามีชื่อผู้มีสิทธิ์อยู่ในบ้านเลขที่ 33/3 ถ.ลาดยาว ซึ่งพบว่าเป็นที่ตั้งของทัณฑสถานหญิงกลาง ซึ่งเป็นสถานที่ราชการ จึงไม่น่าจะมีชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ แต่กลับมีชื่อโผล่มาถึง 252 คน ไม่รู้ว่ามีการยกเลิกรายชื่อดังกล่าวหรือไม่
    ร.ต.อ.วัฒนรักษ์กล่าวว่า พบการวินิจฉัยบัตรไม่ถูกต้อง สะท้อนมาตรฐานของกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง โดยเฉพาะการนับคะแนนของหน่วยเลือกตั้งที่ 44 ที่มีการกาทับบนตัวเลขบางพรรค แต่กลับวินิจฉัยว่าเป็นบัตรดี ส่วนบางพรรคกาในช่องถูกต้อง แค่มีการกาเน้นกลับถูกวินิจฉัยว่าเป็นบัตรเสีย ขณะเดียวกันเมื่อมีการร้องขอให้นับคะแนนใหม่ กรรมการประจำหน่วยก็มีการหันหลังนับคะแนน นอกจากนี้ยังพบว่าการนับคะแนนที่หน่วยเลือกตั้งหน่วยที่ 73-74 เขตบางซื่อ บริเวณหน้า สน.เตาปูน พบประธานหน่วยเลือกตั้งหยิบกระดาษคล้ายบัตรเลือกตั้งจำนวนมากออกมากาบัตรนอกหน่วย จึงอยากให้มีการสืบสวนไต่สวนว่าเกิดอะไรขึ้น
    นายชุมสาย ศรียาภัย รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีความผิดปกติอย่างมากในหลายๆ เขตพื้นที่ มีความเคลือบแคลงสงสัยในผลการนับคะแนน จำนวนผู้มาใช้สิทธิ และมีบัตรเกิน บัตรผี บัตรเสียมากผิดปกติ ประชาชนชาวไทย สื่อมวลชนไทยและสื่อต่างชาติ รวมทั้งองค์กรระหว่างประเทศต่างรับรู้กันทั่วไป และมีผู้ลงชื่อถอดถอน กกต.เกือบล้านคนในโซเชียลฯ จึงเป็นเครื่องยืนยันถึงความไม่โปร่งใสในการเลือกตั้งครั้งนี้ ดังนั้น หากประชาชนจะรวมตัวกันกระทำการใดๆ ตามสิทธิและอำนาจของเขา ย่อมเป็นสิทธิโดยชอบธรรม ถ้าคนเชื่อถือผลการเลือกตั้งจะออกมาเข้าชื่อถอดถอน กกต.เกือบล้านคนทำไม.