กัญชาเสรี ใครมีก็ติดคุก จับอีกกัญชาอัดแท่ง 868 กก. พร้อม 3 ผู้ต้องหา อ้างเอาไว้รักษาโรค ผบช.น.ชี้จำนวนมากขนาดนี้ไม่มีใครเชื่อ
    ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) วันที่ 28 มีนาคมนี้ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ดาวลอย เหมือนเดช รอง ผบช.น., พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผบก.น.8, พ.ต.อ.ประสงค์ อานมณี รอง ผบก.สปพ., นายพงษ์ธร พัฒนภักดี ผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ บก.สปพ. และ กก.สส.บก.น.8 ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายสมพร หรือออย กิมยา อายุ 33 ปี, นายศุภชัย หรือโอ นีสูงเนิน อายุ 33 ปี และนายธวัชชัย หรือเอส กิมยา อายุ 18 ปี ทั้ง 3 คนเป็นชาว จ.สมุทรปราการ พร้อมของกลาง กัญชาแห้งอัดแท่ง 868 กิโลกรัม รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ฟรีด สีดำ หมายเลขทะเบียน ฎอ 2756 กรุงเทพมหานคร ที่ใช้ขนยาเสพติด และยึดทรัพย์สินเป็นรถยนต์ฮอนด้า แจ๊ซ สีดำ หมายเลขทะเบียน 3 กฌ 8117 กรุงเทพมหานคร รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า บริโอ้ สีขาว หมายเลขทะเบียน 4 กถ 3067 กรุงเทพมหานคร และรถจักรยานยนต์ 5 คัน
    จับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางได้ที่บ้านเลขที่ 1614/1112 หมู่ 6 หมู่บ้านการเคหะสมุทรปราการ ซอย 41 ถนนสุขุมวิท ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ก่อนขยายผลตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 118/8 หมู่ 5 ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ และบ้านเลขที่ 989 หมู่ 7 บางปูวิลล่า 2 ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
    พล.ต.ท.สุทธิพงษ์กล่าวว่า สืบเนื่องจากวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.8 ขยายผลจากการจับกุมยาเสพติดเมื่อช่วงปลายปี 2561 พบว่ามีเครือข่ายค้ายาเสพติดเก็บกัญชาไว้ที่บ้านพักเลขที่ 1614/1112 ในหมู่บ้านเคหะสมุทรปราการ ถนนสุขุมวิท จึงร่วมกับ บก.สปพ.สนธิกำลังกันเข้าตรวจค้น พบกัญชาแห้งอัดแท่ง จำนวน 640 กิโลกรัม มีนายสมพรและนายศุภชัยเป็นคนเฝ้า ก่อนขยายผลเข้าตรวจค้นบ้านพักเลขที่ 989/26 พบนายธวัชชัย จึงจับกุมตัวไว้
    จากการสอบสวน นายธวัชชัยให้การว่ามีกัญชาซุกซ่อนอยู่ที่บ้านเลขที่ 118/8 อีกจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงไปตรวจค้น พบกัญชาแห้งเพิ่มเติมอีก 228 กิโลกรัม จึงยึดไว้ พร้อมดำเนินการยึดทรัพย์สินตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด
    ทั้งนี้ ผู้ต้องหาทั้ง 3 รับสารภาพว่าร่วมกันรับกัญชาจากประเทศเพื่อนบ้านทางภาคอีสาน ก่อนนำมาเก็บไว้ที่บ้านพักใน ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เพื่อรอจำหน่ายให้กับลูกค้าในพื้นที่ปริมณฑล มูลค่ากิโลกรัมละ 10,000 บาท โดยแบ่งหน้าที่กัน นายสมพรทำหน้าที่สั่งการและขับรถรับส่งกัญชา นายธวัชชัยขับรถนำทาง ส่วนนายศุภชัยคอยเฝ้ากัญชาที่ซุกซ่อนไว้ โดยหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจะขยายผลเพิ่มเติม
    พล.ต.ท.สุทธิพงษ์กล่าวว่า ฝากถึงประชาชนว่าตอนนี้กัญชาซึ่งเป็นยาเสพติดประเภท 5 ยังผิดกฎหมายอยู่ นอกจากจะแจ้งว่ามีอยู่ในความครอบครอง เหมือนสมัยก่อนที่ต้องแจ้งครอบครองอาวุธปืนจึงจะถือว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง กรณีกัญชาก็เช่นเดียวกัน โดยทาง ป.ป.ส.ยืนยันว่าต้องใช้กัญชาในการรักษาหรือการบำบัดโรคเท่านั้น และจะต้องชี้แจงเหตุผลการครอบครอง รวมถึงปริมาณจริงๆ ไม่ใช่ครอบครองอย่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมกว่า 868 กิโลกรัม แล้วมาแจ้งว่าไว้ใช้รักษา แต่กลับแพ็คอย่างดีมีจำนวนมาก แบบนี้ตนว่าคงเกินคำพูดที่ว่าเอาไว้ใช้รักษา
    ด้านนายพงศ์ธรกล่าวว่า ในกรณีผู้ใดที่ครอบครองกัญชา แต่อ้างไม่อยากไปพบแพทย์นั้น ทำไม่ได้ เพราะอย่างน้อยต้องรับรองหรือใบสั่งแพทย์ หรือรักษาโดยแพทย์แผนปัจจุบันหรือแผนโบราณ ไม่ใช่กระทำได้โดยลำพัง ต้องมีการรับรองปริมาณที่แพทย์สั่ง ซึ่งนอกจากรักษาตัวเองแล้ว มีอีกกรณีคือเพื่อประโยชน์ในการวิจัยทางการแพทย์ โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่เปิดโอกาสให้ประชาชนแจ้งการครอบครองกัญชาภายใน 90 วัน เพื่อใช้รักษาตัวเอง และจะครบกำหนดในวันที่ 19 พ.ค.นี้.