พ่อแม่พาลูก 2 ขวบซ้อนจักรยานยนต์ เจอด่านกลับเลี้ยวหนี อาสาตำรวจคว้าไม้หวดถูกเด็กหัวแตกเลือดโกรก สังคมโซเชียลวิจารณ์ขรมหลังมีการโพสต์ลงเฟซบุ๊ก ผกก.สั่งตั้งกรรมการสอบพร้อมรับแจ้งความดำเนินคดีคนก่อเหตุ ขณะที่ตรวจพบพ่อเด็กฉี่ม่วง รับเสพยา ส่วนที่หนีด่านเพราะไม่สวมหมวกกันน็อก
    สังคมออนไลน์ก่อกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Mint Mint” ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพถ่าย ระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจอาสาได้ใช้ไม้กระบองตีหัวลูกชายวัย 2 ขวบจนได้รับบาดเจ็บ ต้องเย็บศีรษะถึง 3 เข็ม และเด็กยังอยู่ในอาการหวาดผวา เหตุการณ์เกิดขึ้นขณะตนเองกำลังเลี้ยวรถจักรยานยนต์กลับ หลังพบด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อเวลา 00.20 น. วันที่ 27 มีนาคมนี้  
    ที่โรงพยาบาลบางละมุง จ.ชลบุรี น.ส.กัลยา ตมกลาง อายุ 25 ปี ได้พาลูกชายคือ ด.ช.ศิลา หรือน้องแซม อายุ 2 ปี 1 เดือน ไปรับการรักษา พบว่ามีบาดแผลที่ศีรษะด้านขวา มีบาดแผลยาวประมาณ 10 เซนติเมตร แพทย์รับตัวไว้เพื่อดูอาการ ซึ่ง น.ส.กัลยาเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองได้นั่งรถจักรยานยนต์มากับลูกและสามี เพื่อออกไปหาอาหารรับประทานภายในซอยเขาตาโล ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และได้สังเกตเห็นว่าด้านหน้ามีการตั้งด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สามีจึงพยายามวนรถกลับ เพราะไม่อยากเสียเวลา จังหวะนั้นได้มีชายสวมชุดดำกระโดดออกมาจากมุมมืด ใช้ของแข็งลักษณะคล้ายกระบองหวดเข้าใส่อย่างแรงถูกที่ศีรษะของลูกชายจนสลบ โดยชายคนดังกล่าวยังเงื้อมือจะฟาดซ้ำ แต่ตนเองได้ตะโกนว่ามีเด็ก ก่อนที่สามีจะยกเท้าถีบเพื่อปกป้องลูกชาย 
    น.ส.กัลยากล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้อุ้มลูกวิ่งไปยังคลินิกที่ใกล้ที่สุด แต่คลินิกปิด จึงพากันนำตัวลูกส่ง รพ.บางละมุง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันชัดเจนว่าเจ้าหน้าที่คนนี้กระทำเกินกว่าเหตุ ความผิดแค่หลบด่านไม่อยากจะเสียค่าปรับมันผิดขนาดนั้นเลยหรือ จึงอยากขอความเป็นธรรมให้กับลูก ยืนยันว่าจะดำเนินคดีอย่างถึงที่สุดกับผู้ก่อเหตุ ซึ่งสามีได้ไปแจ้งความไว้แล้ว
    ทั้งนี้ นายศิวา นิลขำ อายุ 28 ปี พ่อของ ด.ช.ศิลา ได้เข้าแจ้งความพนักงานสอบสวน สภ.หนองปรือ ดำเนินคดีกับอาสาตำรวจที่ก่อเหตุ รวมทั้งให้ปากคำเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยืนยันความบริสุทธิ์ของตน พร้อมให้ตรวจปัสสาวะ ผลปรากฏว่าเป็นม่วง ซึ่งนายศิวายอมรับว่า 2-3 วันที่แล้วเสพยาบ้าและเคยต้องคดีมาแล้ว แต่การที่อาสามาทำร้ายลูกชายมันคนละเรื่อง และจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด แต่ก็หวั่นว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม
    นายศิวากล่าวว่า ระหว่างออกมาซื้อกับข้าวกับภรรยาและลูกชาย ได้พบด่านตรวจบริเวณซอยเขาตาโล ด้วยความที่ตนเองไม่ได้สวมหมวกกันน็อก และ พ.ร.บ.ขาด จึงวนรถกลับก่อนถึงด่านประมาณ 300 เมตร จากนั้นได้มีอาสาสมัครใส่เสื้อคลุมสีดำออกมาขวาง ก่อนใช้ไม้ฟาดถูกน้องแซมที่นั่งหน้าสุดจนได้รับบาดเจ็บ แม้ตนและภรรยาจะตะโกนบอกแล้วว่ามีเด็ก อย่าตี แต่อีกฝ่ายก็ไม่สนใจ 
    ขณะที่ พ.ต.อ.ชิดเดชา สองห้อง ผกก.สภ.หนองปรือ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งด่านบริเวณซอยเขาตาโล จากนั้น น.ส.กัลยา ผู้เสียหายได้นั่งรถจักรยานยนต์มา โดยพ่อเด็กเป็นผู้ขับขี่ เจ้าหน้าที่จึงเรียกรถหยุด แต่พ่อเด็กกลับขี่หลบหนี เจ้าหน้าที่อาสาที่อยู่ริมทางจึงใช้ไม้ข้างทางสกัด จากนั้นผ่านไปไม่นาน น.ส.กัลยาได้กลับมาพร้อมเด็กชายโดยให้บุคคลอื่นพามา แล้วบอกเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่านว่า ถูกอาสาตีได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพาไปส่ง รพ.บางละมุง เพื่อรักษาบาดแผลในเบื้องต้น ทั้งนี้ รู้ตัวเจ้าหน้าที่อาสาสมัครคนดังกล่าวแล้ว เบื้องต้นจะเรียกตัวมาสอบสวนถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ขณะที่เรื่องของคดีคงต้องแยกส่วนกัน คือรับแจ้งจากพ่อเด็กคดีทำร้ายร่างกาย การเรียกสอบอาสาที่ก่อเหตุ และการเยียวยาเด็กที่ได้รับบาดเจ็บ ยืนยันว่าจะทำคดีให้เกิดความเป็นธรรมสูงสุด
    ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวว่า ได้รับรายงานเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว โดยช่วงที่นายศิวากลับรถหลบหนี เพื่อไม่ผ่านเข้ามายังบริเวณจุดตรวจจุดสกัด มีเจ้าหน้าที่ตำรวจอาสา สภ.หนองปรือ อายุ 23 ปี ยืนอยู่บริเวณดังกล่าว จึงเรียกให้หยุด แต่นายศิวาไม่ยอมหยุด และเร่งความเร็วเพื่อหลบหนี ตร.อาสาจึงหยิบไม้ที่วางอยู่บริเวณข้างทางออกมาเพื่อกันไว้ แต่นายศิวาผู้ขับขี่ก้มตัวหลบ เป็นเหตุให้ไม้ตวัดไปโดนศีรษะ ด.ช.เอ ซึ่งนั่งอยู่ตรงกลางระหว่างผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้าย ได้รับบาดเจ็บเป็นแผลแตกบริเวณหางคิ้วขวา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รีบพาตัว ด.ช.เอ ซึ่งได้รับบาดเจ็บ พร้อมด้วย น.ส.กัลยา นำส่งโรงพยาบาลบางละมุง
    พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวว่า ขณะนี้ พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง ผกก.สภ.หนองปรือ สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่เกิดขึ้นแล้ว โดยให้คณะกรรมการดำเนินการด้วยความรวดเร็ว และเกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย หากพบว่ามีความผิดก็จะดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญาตามกฎหมายต่อไป ส่วนของคดีที่ลูกชาย 2 ขวบได้รับบาดเจ็บ พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน รอผลตรวจจากแพทย์และที่เกี่ยวข้องมาประกอบคดี โดยจะดำเนินการสืบสวนสอบด้วยความรวดเร็ว โปร่งใส และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย.