“กสม.-พระปกเกล้า” ร่วมมือทางวิชาการด้านสิทธิมนุษยชนศึกษา เปิดหลักสูตรประกาศนียบัตรสิทธิมนุษยชนสำหรับนักบริหารระดับสูง (ปสม.) รุ่นที่ ๑


เพิ่มเพื่อน    

 

วันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๖๒ นายวัส ติงสมิตร ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวว่า
สิทธิมนุษยชนเป็นหลักการสำคัญและเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่รัฐธรรมนูญปี ๒๕๔๐ จนถึงรัฐธรรมนูญปี ๒๕๖๐ ได้ให้การรับรองไว้ตลอดทั้งกฎหมายไทย กฎหมายระหว่างประเทศ และปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนขององค์การสหประชาชาติซึ่งประเทศไทยได้ร่วมลงนามเป็นภาคีมากว่าครึ่งศตวรรษ ทั้งหมดนี้ล้วนมุ่งให้เกิดการเคารพสิทธิมนุษยชนในมิติต่าง ๆ อย่างแท้จริง

“ปัจจุบันการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนในต่างประเทศจะเน้นให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษยชนศึกษา
เพื่อจัดการศึกษาด้านสิทธิมนุษยชนให้กับทุกคนและทุกภาคส่วนอย่างจริงจัง คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) และสถาบันพระปกเกล้า เล็งเห็นความสำคัญของการสร้างเสริมความตระหนักและการให้ความรู้ด้านสิทธิมนุษยชนแก่กลุ่มนักบริหารระดับสูงในทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นสถาบันการศึกษา ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน และสื่อมวลชน ดังนั้นทั้งสองหน่วยงานจึงได้ร่วมกันจัดทำหลักสูตรประกาศนียบัตรสิทธิมนุษยชนสำหรับนักบริหารระดับสูง หรือ ปสม. รุ่นที่ ๑ เพื่อมุ่งสร้างเสริมความรู้แก่กลุ่มบุคคลผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในสังคมและมีศักยภาพในการกำหนดทิศทางขององค์กรในสังคม ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางนโยบายและยุทธศาสตร์ ซึ่งจะส่งให้การปฏิบัติและการสร้างความตระหนักเพื่อการเคารพสิทธิมนุษยชนเกิดผลสัมฤทธิ์ขึ้นในสังคมไทย อันจะเป็นผลดีต่อการสร้างวัฒนธรรมการเคารพสิทธิมนุษยชนให้เกิดขึ้นในสังคมไทยได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ที่สำคัญจะเป็นการพัฒนาประชาธิปไตยให้มีความยั่งยืนอีกด้วย” นายวัส กล่าว

ศาสตราจารย์วุฒิสาร ตันไชย เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า กล่าวว่า สถาบันพระปกเกล้ามีพันธกิจสำคัญคือการให้บริการทางวิชาการทั้งในรูปของการศึกษาอบรมทางวิชาการ ให้คำปรึกษา ให้ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย และบริการข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับความรู้ทางการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ธรรมาภิบาล และสันติวิธี ซึ่งประเด็นสิทธิมนุษยชนศึกษาได้รับการบรรจุไว้ในหลักสูตรการอบรมที่จัดโดยสถาบันพระปกเกล้าด้วยเพราะสิทธิมนุษยชนคือพื้นฐานของประชาธิปไตยที่ประชาชนชาวไทยทุกคนควรรู้และเข้าใจโดยเฉพาะผู้นำองค์กรที่มีบทบาทที่จะสามารถขับเคลื่อนงานภายใต้หลักสิทธิมนุษยชน จึงเป็นที่มาของความร่วมมือระหว่าง กสม.และสถาบันพระปกเกล้า ในการจัดทำหลักสูตรประกาศนียบัตรสิทธิมนุษยชนสำหรับนักบริหารระดับสูง (ปสม.) รุ่นที่ ๑ นี้ขึ้นเป็นการเฉพาะ

เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า กล่าวอีกว่า โครงสร้างหลักสูตร ปสม. นี้ ประกอบด้วย
๗ กลุ่มวิชา ได้แก่ ๑.ฐานคิดและหลักการด้านสิทธิมนุษยชน ๒.มาตรฐานและกลไกสิทธิมนุษยชน
๓.สถานการณ์สิทธิมนุษยชนในสถานการณ์สากล ๔.สิทธิมนุษยชนบนกระแสความท้าทาย ๕.บทบาทผู้บริหารกับงานสิทธิมนุษยชน ๖.การเสริมสร้างประสบการณ์เชิงประจักษ์ และ ๗.สังเคราะห์ประเด็นเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน สำหรับรูปแบบการศึกษาประกอบด้วย การบรรยาย อภิปราย วิเคราะห์แลกเปลี่ยนกรณีศึกษา การศึกษาดูงาน การจัดทำเอกสารวิชาการกลุ่มและเอกสารเชิงนโยบายส่วนบุคคล ทั้งนี้ผู้ที่สำเร็จการศึกษาจะได้รับประกาศนียบัตรและเข็มวิทยฐานะโดยต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขและเกณฑ์ต่าง ๆ ของสถาบันพระปกเกล้าอย่างครบถ้วน  

ด้านนางประกายรัตน์ ต้นธีรวงศ์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ในฐานะประธานคณะทำงานด้านส่งเสริมการเคารพสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่า กสม. และสถาบันพระปกเกล้า ได้ร่วมกันคัดเลือกผู้บริหารระดับสูงจากภาคส่วนต่าง ๆ จำนวน ๗๐ คน เพื่อเข้ารับการอบรมหลักสูตร ปสม. ในรุ่นแรก ตั้งแต่เดือนมีนาคม – เดือน กรกฎาคม ๒๕๖๒ รวมระยะเวลา ๔ เดือน และมีพิธีเปิดหลักสูตรในวันพุธที่ 27  มีนาคม 2562  โดย กสม. มุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าองค์ความรู้ด้านสิทธิมนุษยชนที่จะนำมาถ่ายทอดให้ผู้เข้ารับการอบรม เช่น หลักการความรู้พื้นฐานด้านสิทธิมนุษยชน พันธกรณีระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชน กฎหมายภายในประเทศ แนวทางฐานสิทธิมนุษยชน ตลอดจนการวิเคราะห์แลกเปลี่ยนกรณีศึกษา จะทำให้ผู้เข้ารับการอบรมทุกคนได้รับความรู้และทักษะด้านสิทธิมนุษยชนในมิติต่าง ๆ อย่างหลากหลาย สามารถปฏิบัติเป็นตัวอย่างในองค์กร มีสมรรถนะด้านสิทธิมนุษยชนที่เหมาะสมกับบริบทของสังคมไทยและเท่าทันการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลก ซึ่งยังผลให้เกิดการปรับเปลี่ยนนโยบายในทุกภาคส่วนอย่างเหมาะสม รวมทั้งสร้างและขยายเครือข่ายด้านสิทธิมนุษยชนสำหรับนักบริหารระดับสูงในทุกภาคส่วนต่อไป


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"