จนถึงช่วงเย็นวันอังคารที่ 26 มีนาคม หลังพรรคเพื่อไทย ที่ได้เสียง ส.ส.มามากที่สุดในการเลือกตั้ง ออกแถลงการณ์พรรค โดยมีเนื้อหาบางส่วน ระบุถึงการเดินหน้ารวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลของเพื่อไทยไว้ตอนหนึ่ง
“ผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการขณะนับคะแนนได้ประมาณ 95 เปอร์เซ็นต์ ปรากฏว่าพรรคเพื่อไทย ได้จำนวน ส.ส.มากที่สุดประมาณ 137 คน ส่วนพรรคพลังประชารัฐ ได้ ส.ส.ประมาณ 118 คน จึงต้องถือว่าพรรคเพื่อไทยได้รับฉันทามติจากประชาชน เพื่อให้เข้ามาบริหารประเทศ”
ซึ่งในช่วงการนั่งอ่านแถลงการณ์ของแกนนำพรรคเพื่อไทย นำโดย พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรค ทาง เสี่ยอ้วน-ภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค ที่มีบทบาทในการประสานพรรคการเมืองต่างๆ เพื่อจัดตั้งรัฐบาล ก็ยังแสดงความเชื่อมั่นว่าเพื่อไทยจะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
“เร็วๆ นี้จะได้ฟังข่าวดี ขณะนี้มีความคืบหน้าอยู่เรื่อยๆ”
โดย ภูมิธรรม อ้างว่า การเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลไม่จำเป็นต้องเร่งดำเนินการ เพราะต้องรอกระบวนการรับรองผลการเลือกตั้งจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จ รับรอง ส.ส.ได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 95 ภายในไม่เกิน 9 พ.ค. ตามที่เคยประกาศไว้
อย่างไรก็ตาม ในทางการเมือง ทั้งขั้ว เพื่อไทย-พลังประชารัฐ ต่างก็ไม่มีใครรอ กกต.รับรองการเลือกตั้ง ส.ส.แล้วเสร็จ ถึงค่อยมาเดินหน้าเปิดดีลการเมืองตั้งรัฐบาล เพราะทุกวันต่อจากนี้ ทั้ง 2 ขั้วต่างก็เดินหน้า เปิดดีล-เจรจากับพรรคการเมืองต่างๆ เพื่อจัดตั้งรัฐบาล ภายใต้การยื่นเงื่อนไขที่ดีที่สุดเท่าที่จะให้ได้ เพื่อเป็นทั้งสัญญาใจและข้อตกลงร่วมกันในการตั้งรัฐบาลร่วมกัน อันทำให้พรรคการเมืองขนาดกลาง-เล็กทั้งหลาย ต่างอยู่ในสภาพเนื้อหอม-หุ้นการเมืองขึ้นกันหมด ในสภาพที่ทุกเสียงของทุกพรรคการเมือง มีราคาการเมืองหมด สามารถเจรจาต่อรองได้จนถึงที่สุด
โดยเฉพาะพรรคตัวแปรอย่าง “ภูมิใจไทย” ที่อยู่ในสภาพสามารถเข้าได้ทั้งขั้วเพื่อไทยและพลังประชารัฐ เพราะตัว อนุทิน หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พรรคสีน้ำเงิน ก็เป็น นักการเมือง-อดีตคนไทยรักไทย-พลังประชาชน ที่สามารถต่อสายพูดคุยกับ ทักษิณ ชินวัตร ได้ตลอดเวลา จึงไม่แปลกที่หากสุดท้าย เพื่อไทย จะปิดสวิตช์ไม่ให้พลังประชารัฐเคลื่อนไหวตั้งรัฐบาลหลังโหวตนายกฯ วิธีการหนึ่งที่ทำแล้วได้ผลมากก็คือ ดึง ภูมิใจไทย มาอยู่ด้วย แค่นี้ พลังประชารัฐ ก็ขยับลำบากแล้ว หลังที่ผ่านมา แกนนำเพื่อไทย มีการเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลทันที ตั้งแต่ช่วงค่ำวันอาทิตย์ที่ 24 มี.ค. หลังเริ่มเห็นผลคะแนนเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ
เห็นได้จากคำเปิดเผยของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่ยอมรับเองว่า ได้มีการติดต่อพูดคุยกับแกนนำเพื่อไทยทันทีในช่วงค่ำวันอาทิตย์ที่ 24 มี.ค. ถึงความเป็นไปได้ในการจับมือร่วมกันระหว่าง เพื่อไทย-อนาคตใหม่ ภายใต้ข้อตกลง “สกัด คสช.สืบทอดอำนาจ” จนเป็นที่มาของคำแถลงท่าทีของอนาคตใหม่ ผ่านธนาธร ที่ประกาศพร้อมหนุน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่ไม่ได้เป็น ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ เพื่อไทย เพราะพรรคไม่ได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์แม้แต่คนเดียวมาเป็นนายกฯ พร้อมกับทิ้งหลักการเดิมที่เคยประกาศ “นายกฯ ต้องมาจาก ส.ส.”!!!
ขณะเดียวกันก็มีข่าวว่า แกนนำเพื่อไทย รวมถึงเจ้าของพรรคตัวจริง “ทักษิณ ชินวัตร” ก็ลงมาประสาน ต่อสาย โทร.คุยกับแกนนำพรรคต่างๆ เพื่อให้รวมกันตั้งรัฐบาล สู้กับพลังประชารัฐ แม้จะมีด่านสำคัญ “ส.ว. 250 เสียง” ในการโหวตนายกฯ
ท่ามกลางกระแสข่าว ความพยายามของ ทักษิณ-เพื่อไทย ที่พร้อมยอมทุกอย่าง แม้คนของตัวเองจะไม่ได้เป็นนายกฯ แต่ขอให้เป็นรัฐบาลก็พอแล้ว เช่น กระแสข่าวมีการเปิดดีลกับพรรคภูมิใจไทย โดยพร้อมหนุน “อนุทิน ชาญวีรกูล" หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกฯ เพื่อให้ภูมิใจไทยมาเป็นแนวร่วมกับเพื่อไทย โดยมีพรรคพันธมิตรที่รออยู่ก่อนแล้ว ทั้งอนาคตใหม่ ที่เบื้องต้นจะมี ส.ส.อยู่ 88 เสียง - เสรีรวมไทยของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อีก 11 เสียง - เพื่อชาติของ ยงยุทธ ติยะไพรัช จตุพร พรหมพันธุ์ อีก 5 เสียง และพรรคประชาชาติ ภายใต้การนำของ วันมูหะมัดนอร์ มะทา อีกประมาณ 7 เสียง รวมถึงการพยายามเชื่อมกับบางพรรคที่เคยประกาศไม่ร่วมกับพลังประชารัฐ เช่น เศรษฐกิจใหม่ของมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ที่เคยอยู่กับทักษิณ สมัยพรรคพลังประชาชน ที่มีอีก 6 เสียง โดยมีข่าวว่า พท.อัดโปรโมชั่นล่อใจพรรคต่างๆ ให้มาร่วมตั้งรัฐบาล เช่น “ภูมิใจไทย” อย่างหนัก ถึงขั้นเสนอเก้าอี้นายกฯ ให้อนุทิน และเก้าอี้ รมต.กระทรวงเกรดเอ เช่น มหาดไทย-คมนาคม เป็นโปรโมชั่นเกรดเอ ล่อใจ อนุทิน-เนวิน ชิดชอบ
ซึ่งท่าทีของแกนนำภูมิใจไทยในการร่วมจัดตั้งรัฐบาล ทาง “สรอรรถ กลิ่นประทุม" ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรคภูมิใจไทย ที่อยู่ร่วมหัวจมท้ายกับ อนุทิน-เนวิน ชิดชอบ ในการตั้งพรรคภูมิใจไทยมาตั้งแต่ต้น หลังออกมาจากพรรคพลังประชาชนร่วมกัน ย้ำว่า พรรคมีมติชัดเจนว่าให้หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคเป็นผู้ประสานการจัดตั้งรัฐบาลทั้งหมด ส่วนแนวโน้มจุดยืนของพรรค ภท.ว่าจะร่วมตั้งรัฐบาลกับพรรคใดนั้น ยังไม่มีความคืบหน้า อยู่ระหว่างการหารือกัน
“ตัวเลขยังไม่นิ่ง ทุกฝ่ายก็สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ประเด็นสำคัญคือ ใครสามารถรวบรวมเสียงข้างมากได้ การจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ คะแนนค่อนข้างใกล้เคียงกันมาก แต่ที่ผ่านมาก็เคยมีรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำมาแล้ว ซึ่งก็เชื่อว่าจะบริหารจัดการได้”
ดีลการเมืองจัดตั้งรัฐบาลรอบนี้ หลายฝ่ายประเมินว่า คงยื้อจนถึงที่สุด ชนิดที่เรียกได้ว่า ทั้งขั้วเพื่อไทยและพลังประชารัฐคงสู้กันถึงที่สุด จนถึงวันโหวตเลือกนายกฯ กลางที่ประชุมรัฐสภา ท่ามกลางการถูกจับตามองว่า ยิ่งดีลตั้งรัฐบาลยืดเยื้อ ปิดดีลยาก การต่อรองไม่ลงตัว สุดท้าย “งูเห่าการเมือง” ส.ส.โหวตสวนมติพรรคในการเลือกนายกฯ คงได้เห็นกันอีกรอบ ในการโหวตเลือกนายกฯ ปลายเดือน พ.ค.นี้
โดยเฉพาะล่าสุดมีรายงานด้วยว่า พรรคเพื่อไทยและพรรคพันธมิตร เช่น อนาคตใหม่-เสรีรวมไทย-ประชาชาติ-เพื่อชาติ ได้นัดสื่อมวลชนแถลงข่าวจับมือกันตั้งรัฐบาล ในวันพุธที่ 27 มี.ค. เวลา 10.00 น. ที่โรงแรมแลงคลาสเตอร์ ถนนเพชรบุรี ตรงข้ามพรรคเพื่อไทย อันแสดงให้เห็นถึงความพยายามเร่งเครื่องตั้งรัฐบาลของทักษิณ-พท.เพื่อชิงตัดหน้าก่อน พปชร.ให้ได้.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |