เพนตากอนสนอง 'ทรัมป์' ผันงบ 1,000 ล้าน$ สร้างรั้วชายแดนเม็กซิโก


เพิ่มเพื่อน    

"แพทริก ชานาแฮน" รักษาการรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐสนองนี้ด "โดนัลด์ ทรัมป์" ลงนามคำสั่งอนุมัติผันงบก้อนแรก 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ก่อรั้วและกำแพงกั้นชายแดนสหรัฐ-เม็กซิโก ตามคำประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติของประธานาธิบดีเมื่อเดือนที่แล้ว

แฟ้มภาพ รั้วกั้นชายแดนสหรัฐ-เม็กซิโกที่เมืองซันแลนด์พาร์ค รัฐนิวเม็กซิโก / AFP

    รายงานของเอเอฟพีเมื่อวันอังคารที่ 26 มีนาคม 2562 กล่าวว่า งบประมาณส่วนนี้เป็นไปตามคำร้องขอของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ที่ต้องการให้กระทรวงกลาโหมก่อสร้างรั้วหรือกำแพงสูง 5.5 เมตรเป็นระยะทาง 92 กิโลเมตร, ก่อสร้างและบูรณะถนน และติดตั้งไฟส่องสว่างบริเวนชายแดนสหรัฐ-เม็กซิโก ตามคำประกาศภาวะฉุกเฉินของประธานาธิบดีทรัมป์

    แถลงการณ์ของเพนตากอนเมื่อคืนวันจันทร์ กล่าวว่า ชานาแฮนได้ทำบันทึกส่งถึงเคิร์สเตน นีลเซ็น รัฐมนตรีความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ แจ้งว่า เพนตากอนได้มอบหมายให้กองบัญชาการทหารช่างแห่งกองทัพบกเริ่มแผนการและจัดสรรงบประมาณ 1,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 31,657 ล้านบาท) เพื่อสนับสนุนกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิและสำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดน

    รักษาการรัฐมนตรีกลาโหม ซึ่งมีกำหนดเข้าให้การปกป้องร่างกฎหมายงบประมาณของเพนตากอนต่อสภาคองเกรสในวันอังคาร อ้างกฎหมายระดับประเทศฉบับหนึ่ง ที่ให้อำนาจเพนตากอนก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานได้ตลอดพรมแดนของสหรัฐ เพื่อสนับสนุนกิจกรรมต่อต้านยาเสพติดของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของรัฐบาลกลาง

    ทำเนียบขาวจัดทำงบประมาณประจำปี 2563 ที่จัดสรรงบถึง 8,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นงบก่อสร้างกำแพงกั้นชายแดนแห่งใหม่ ซึ่งมากกว่างบ 5,700 ล้านดอลลาร์ที่ทรัมป์เคยเรียกร้องไว้ในงบประมาณประจำปีนี้

    ทรัมป์ตัดสินใจประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติบริเวณชายแดนเม็กซิโกเมื่อเดือนที่แล้ว เพื่อตอบโต้ที่สภาคองเกรสไม่อนุมัติงบสร้างกำแพงก้อนนี้ตามที่เขาต้องการ นอกเหนือจากงบก้อนแรกที่ดึงจากเพนตากอนแล้ว ทำเนียบขาวส่งสัญญาณด้วยว่าจะผันงบอีกราว 6,000 ล้านดอลลาร์จากงบของกองทัพ แต่ยังไม่ระบุว่าจะดึงจากโครงการใด

    วิธีการดึงงบประมาณด้านกลาโหมมาใช้เพื่อสร้างกำแพงโดยอาศัยคำสั่งประธานาธิบดีทำให้ทรัมป์โดนวิพากษ์วิจารณ์ทั้งจากพรรคเดโมแครต และพรรครีพับลิกันของเขาเอง ซึ่งเตือนว่าเป็นการใช้อำนาจประธานาธิบดีโดยมิชอบและสร้างแบบอย่างที่อันตราย

    นอกจากนี้ยังมีรายงานข่าวว่าภายในกองทัพก็มีความเคลือบแคลง ตามเอกสารที่หนังสือพิมพ์ลอสแองเจลีสไทมส์ได้รับเผยว่า ผู้บัญชาการกองกำลังนาวิกโยธินได้กล่าวเตือนไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า การวางกำลังตามแนวชายแดนสหรัฐ-เม็กซิโกนั้นก่อ "ความเสี่ยงที่ยอมรับไม่ได้" ต่อกำลังพล

    บันทึกที่พลเอกโรเบิร์ต เนลเลอร์ ส่งถึงชานาแฮนและริชาร์ด สเปนเซอร์ อธิบดีกระทรวงทหารเรือ ระบุว่า เขาถูกบังคับให้ต้องยกเลิกหรือลดการฝึกทหารใน 5 ประเทศ และคำประกาศนี้ยังหมายถึงกองกำลังนาวิกโยธินของเขาไม่สามารถบูรณะซ่อมแซมฐานทัพหลายแห่งที่ได้รับความเสียหายเพราะพายุเฮอริเคนในรัฐนอร์ทแคโรไลนาและจอร์เจีย

    คำประกาศของทรัมป์ยังถูกรัฐบาลของ 16 มลรัฐยื่นคัดค้านต่อศาลรัฐบาลกลางในรัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อเดือนที่แล้ว โดยระบุว่าคำสั่งของทรัมป์ขัดแย้งกับบทบัญญัติรัฐธรรมนูญที่ว่าด้วยการออกกฎหมายและการจัดสรรงบประมาณรายจ่าย คำฟ้องยังตั้งคำถามต่อคำนิยามของทรัมป์ ที่ระบุว่าการข้ามชายแดนอย่างผิดกฎหมายถือเป็นภาวะฉุกเฉินแห่งชาติ ทั้งที่ข้อมูลของรัฐบาลเองขัดแย้งกับคำกล่าวนี้

    หากการยื่นคัดค้านของมลรัฐเหล่านี้ได้ผล คดีนี้จะถูกส่งไปยังศาลฎีกา ซึ่งจะสร้างแบบอย่างของการประจันหน้ากันเรื่องหลักการแบ่งแยกอำนาจตามรัฐธรรมนูญสหรัฐ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"