25มี.ค.62-"หมอธี"เดินหน้า สรรหา เลขาฯ คุรุสภา-เลขาฯ สกสค.-ผอ.องค์การค้าตัวจริง คาดพ.ค.นี้เรียบร้อย เผยเชื่อมั่นการสรรหาในสมัยตนเอง จะได้"ตัวจริง "กว่าช่วงที่นักการเมืองเข้ามาบริหาร อาจมีการสลับสับเปลี่ยนโยกย้ายอีก  จึงเป็นจังหวะที่ดี และปรึกษาทุกคนที่เกี่ยวข้องแล้ว

นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการคุรุสภา ที่ประชุมยังมีมติให้สรรหาตำแหน่งเลขาธิการคุรุสภา สำหรับหลักเกณฑ์การสรรหาใหม่นี้บอกได้เลยว่าง่ายนิดเดียว เพราะเราจะเปิดกว้างทั้งหมด ใครจะเข้ามาสมัครรับการสรรหาก็ได้ โดยจะมีกรรมการสรรหา 3 คนที่เป็นกลาง ซึ่งประธานคณะกรรมการการสรรหาตนคิดว่าจะให้ รองปลัด ศธ.เป็นประธาน หรือหากประกาศแล้วไม่มีผู้มาสมัครก็สามารถขยายเวลาออกไปอีกได้ แต่ทั้งนี้การสรรหาจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จในรัฐบาลชุดนี้ และในการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) และคณะกรรมการบริหารองค์การค้าของ สกสค. ที่ประชุมได้มีมติให้ดำเนินการสรรหา เลขาฯ สกสค. รวมถึงผู้อำนวยการองค์การค้าของ สกสค. ด้วย ซึ่งในเร็วๆ นี้ตนจะประกาศหลักเกณฑ์การสรรหาทั้ง 3 ตำแหน่งดังกล่าวต่อไป เพราะตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 7 เรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการคุรุสภา คณะกรรมการ สกสค. และคณะกรรมการสกสค. คณะกรรมการบริหารองค์การค้าของ สกสค. ที่ให้อำนาจ รมว.ศธ.มีหน้าที่กำหนดเงื่อนไขหลักเกณฑ์การสรรหาได้ ส่วนปฎิทินการรับสมัครจะดูข้อกฎหมายอีกครั้งว่าสามารถเปิดรับสมัครตลอดทั้งเดือนได้หรือไม่ ทั้งนี้ คาดว่าจะได้ตัวจริงทั้ง 3 ตำแหน่งภายในเดือนพฤษภาคมนี้

เมื่อผู้สื่อข่าวถาม ว่า การสรรหาทั้ง 3 ตำแหน่งมีความเหมาะสมหรือไม่ ที่เร่งสรรหาแต่งตั้งในช่วงระหว่างจะมีรัฐบาลใหม่ นพ.ธีระเกียรติ กล่าวว่า ตนไม่ได้เร่งการสรรหาเป็นจังหวะที่ดีและตนปรึกษาทุกคนที่เกี่ยวข้องแล้ว ไม่เช่นนั้นเมื่อมีนักการเมืองเข้ามาก็จะมีการโยกย้ายสลับเปลี่ยนอีก อีกทั้งกระบวนการขั้นตอนก็เตรียมการไว้หมดแล้ว อย่าลืมว่าที่ผ่านมาตนก็ดำเนินการเรื่องนี้มาตลอดแต่เกณฑ์สรรหาที่ออกมากลับต้องล้มกระดานเพราะเหมือนเป็นการเจาะจงล็อคสเปคจนเกินไป  ขณะเดียวกันะทุกวันนี้เป็นเพียงรักษการเท่านั้น ซึ่งอยากให้มีเลขาธิการตัวจริงทั้ง 3 ตำแหน่ง เพราะไม่เช่นนั้นผู้ที่เป็นรองปลัดศธ.และทำหน้าที่รักษาการเมื่อมีการโยกย้ายหรือสลับตำแหน่งก็ต้องตั้งผู้ปฎิบัติหน้าที่ใหม่ เหมือนเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ซึ่งจะส่งผลให้งานของสกสค.และงานคุรุสภาเดินหน้าได้ไม่เต็มที่

นอกจากนี้  ที่ประชุมมีมติขยายเวลาการต่อใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูสำหรับกลุ่มครูโรงเรียนเอกชนอีก 2 ปี เนื่องจากขณะนี้มีครูเอกชนที่ขอผ่อนผันให้ปฏิบัติการสอนโดยไม่มีใบอนุญาตครบ 3 ครั้งๆ ละ 2 ปี รวม 6 ปี จำนวน 3,764 คน โดยรอบแรกที่อนุมัติให้ขยายเวลามีจำนวน 500 คน โดยคุรุสภาได้รวบรวมรายชื่อครูกลุ่มนี้ไว้แล้ว และหลังจากนี้คุรุสภาจะไปคิดหลักเกณฑ์การออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเพิ่มเติมเพื่อให้ครูกลุ่มนี้ได้รับใบอนุญาตฯ ถาวรต่อไป เพราะตนคิดว่าทุกวันนี้เราก็ไม่ได้มีการสอบเพื่อเทียบมาตรฐานแล้ว ส่วนการเรียนประกาศนียบัตรบัณฑิต (ป.บัณฑิต) ก็มีเรียนน้อยและคนส่วนใหญ่ที่ไปเรียนก็เป็นเด็กจบใหม่ ดังนั้นคุรุสภาจะไปหาแนวทางการขอใบอนุญาตฯ ถาวรให้ครูกลุ่มนี้ที่เป็นมาตรฐานต่อไป และยังเป็นการลดปัญหาการขาดครูของโรงเรียนเอกชนด้วย