เมื่อวันที่ 25 มี.ค. นายอนุชา นาคาศัย ประธานยุทธศาสตร์ภาคกลาง พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงผลการเลือกตั้งว่า ที่ผ่านมาพวกเราพรรคพลังประชารัฐร่วมกันทำงานอย่างหนักมาโดยตลอด พยายามคิดและนำเสนอสิ่งดีๆให้ประชาชน เราเน้นการประชาสัมพันธ์และทำนโยบายดีๆออกมา ไม่มีวาทะกรรมหรือพูดจาใส่ร้ายใคร เราไม่นำเสนอความขัดแย้ง ตรงนี้ทำให้ประชาชนเห็นว่าอะไรคือสิ่งที่เกิดประโยชน์ จึงเทคะแนนให้กับพรรคเรา นอกจากนี้การที่พรรคเสนอพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.เป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรค ทำให้กระแสความนิยมของพรรคเพิ่มขึ้นด้วย เพราะประชาชนจำนวนมากที่ชื่นชอบในตัวพล.อ.ประยุทธ์ ที่ทำให้บ้านเมืองสงบ ประกอบกับการที่พรรคนำเสนอนโยบายที่โดนใจทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้พรรคพลังประชารัฐได้คะแนนเป็นกอบเป็นกำจนนำเป็นอันดับ 1
“ในหลายพื้นที่ถือว่าเราทำได้ดี โดยเฉพาะพื้นที่ภาคกลางที่ได้ส.ส.เป็นกอบเป็นกำ ตรงนี้เกิดจากกระแสความนิยิมในตัวลุงตู่ ประกอบกับนโยบายต่างๆที่โดนใจ ไม่ว่าจะเป็น นโยบายข้าว มารดาประชารัฐ และบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รวมทั้งสโลแกน เลือกความสงบจบที่ลุงตู่ ที่ประชาชนต้องการให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อยไม่วุ่นวายเหมือนในอดีตที่ผ่านมา นี่คือสิ่งที่ประกอบกันทำให้คะแนนของพรรคพุ่งขึ้นมาจนเป็นผู้นำ” นายอนุชากล่าว
เมื่อถามเสียงวิจารณ์และข้อกล่าวหาบัตรเลือกตั้งและคะแนนปริศนา นายอนุชา กล่าวว่า เรื่องการทำการทุจริตแบบนี้ตนยืนยันว่าไม่มี เพราะในยุคปัจจุบันการจะทำอะไรแบบนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก มันหมดยุคสมัยที่จะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ เพราะการตรวจสอบที่เข้มข้นจากทั้งกกต.และประชาชนที่จับตามมอง ตนคิดว่าไม่มีใครกล้าทำ การที่มีคนวิจารณ์เรื่องการโกงการเลือกตั้งถือว่าเป็นธรรมดาของฝ่ายตรงข้ามที่แพ้หรือผลออกมาไม่ถูกใจ จะออกมาตีโพยตีพาย ซึ่งพรรคพลังประชารัฐเองก็ได้เน้นย้ำเรื่องการทำให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ยุติธรรมมาโดยตลอด ตนคิดว่าเมื่อผลการเลือกตั้งออกมาอย่างไรเราทุกคนก็ควรยอมรับผลที่ประชาชนส่วนใหญ่เป็นผู้เลือก
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |