25 มี.ค. 2562 นายสมเกียรติ กิมาวหา ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยถึงสถานการณ์ภาวะหนี้สินครัวเรือนเกษตร ในช่วงครึ่งหลังปี2561 (ก.ค.-ธ.ค.) ว่า มีสัดส่วนหนี้ครัวเรือนเกษตรไทยต่อจีดีพีอยู่ที่ 18.12%ปรับตัวลดลงจากปีก่อน 4.13% เนื่องจากอัตราการขยายตัวของมูลค่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจประจำปี ยังคงสูงกว่าการขยายตัวของหนี้ครัวเรือนเกษตรกร โดยประมาณการการขยายตัวของเศรษฐกิจ ปี 2561 อยู่ที่ 4% เป็นผลจากกำลังซื้อของภาคครัวเรือนปรับตัวดีขึ้นตามแนวโน้มของรายได้ที่เริ่มฟื้นตัวขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มครัวเรือนที่มีรายได้น้อย “แม้สัดส่วนหนี้ครัวเรือนเกษตรจะปรับตัวดีขึ้น แต่ยังคงต้องติดตามพฤติกรรมการก่อหนี้ใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มครัวเรือนเกษตรที่มีรายได้น้อยที่กู้หนี้เต็มวงเงินแล้วและมีภาระผูกพันกับหนี้หลายสัญญา ซึ่งอาจมีการก่อหนี้นอกระบบที่จะส่งผลกระทบต่อสัดส่วนหนี้สินครัวเรือนเกษตรและการเติบโตของเศรษฐกิจได้ในระยะต่อไป” นายสมเกียรติ กล่าว
สำหรับผลการสำรวจสถานการณ์ภาวะหนี้สินครัวเรือนเกษตรครึ่งหลัง ปี 2561 โดยเก็บข้อมูลจากเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. ทั่วประเทศ จำนวน 980 ราย พบว่า ครัวเรือนเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. มีรายได้รวมเฉลี่ย 295,420 บาท/ปี เพิ่มขึ้นจากปีก่อน1.9%และมีค่าใช้จ่ายรวมเฉลี่ยต่อครัวเรือน 240,680 บาท/ปี เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1.1% ส่งผลให้มีสัดส่วนรายได้มากกว่าค่าใช้จ่าย 1.23 เท่า เพิ่มขึ้นจากปีก่อนเล็กน้อย 0.8% และพบว่าครัวเรือนเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. ส่วนใหญ่ 66.2% มีการออมเงิน โดยมีสัดส่วนการออมที่ 6.4% ของรายได้ทั้งหมด มีการออมเงินเพิ่มขึ้นตามรายได้ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากการส่งเสริมการออมเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเกษตรกร ผ่านผลิตภัณฑ์ทางการเงินของ ธ.ก.ส. อาทิ เงินฝากออมทรัพย์ทวีโชค สลากออมทรัพย์ฯ และกองทุนทวีสุข
ขณะเดียวกันเกษตรกรมีหนี้สินเฉลี่ยต่อครัวเรือน 135,220 บาท/ปี เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1.3% โดยหนี้ส่วนใหญ่กว่า 89.1% เป็นหนี้ในระบบ ส่วนหนี้นอกระบบมีเพียง 10.9% โดยปริมาณหนี้นอกระบบปรับตัวลดลงจากปีก่อน18.5% ส่วนภาระหนี้ต่อรายได้เฉลี่ยต่อเดือน คิดเป็น45.77% ปรับตัวลดลงจากปีก่อน 0.61% แต่ยังคงสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานเสถียรภาพของภาคครัวเรือนที่กำหนด ณ ระดับ 40% ซึ่งสะท้อนว่า ครัวเรือนเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. ยังมีโอกาสในการผิดนัดชำระหนี้เพิ่มขึ้น
นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า รายได้ภาคเกษตรที่เริ่มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามภาวะการจ้างงานในภาคเกษตรที่เพิ่มขึ้น ปริมาณผลผลิตที่เพิ่มขึ้นจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย และราคาสินค้าเกษตรหลายชนิดที่ปรับตัวดีขึ้น รวมทั้งมาตรการเพิ่มรายได้ครัวเรือนเกษตรกรของ ธ.ก.ส. ผ่านโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและมาตรการลดภาระหนี้ ทั้งมาตรการลดภาระหนี้ในระบบของ ธ.ก.ส. อาทิ โครงการลดดอกเบี้ยเงินกู้ และโครงการขยายเวลาชำระหนี้เงินกู้ (3 ปี) และมาตรการแก้ไขหนี้นอกระบบของเกษตรกรและบุคคลในครัวเรือนของ ธ.ก.ส. มีบทบาทสำคัญในการช่วยลดภาระหนี้ให้กับครัวเรือนเกษตรกรลูกค้า ทำให้ครัวเรือนเกษตรกรก่อหนี้ใหม่เพิ่มขึ้นในสัดส่วนที่ไม่สูงมาก และการก่อหนี้ของครัวเรือนเกษตรกรลูกค้า โดยส่วนใหญ่นำไปใช้เพื่อลงทุนสร้างรายได้และซื้อทรัพย์สินเพื่อประกอบอาชีพซึ่งถือเป็นหนี้ที่มีคุณภาพ ประกอบกับครัวเรือนเกษตรกรลูกค้า ให้ความระมัดระวังในการก่อหนี้ใหม่ ส่งผลให้ภาระหนี้สินต่อเดือนของครัวเรือนเกษตรกรลูกค้าเพิ่มขึ้นไม่มาก จึงทำให้สัดส่วนภาระหนี้ต่อรายได้เฉลี่ยต่อเดือนปรับตัวลดลงจากปีก่อน
อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องให้ความสำคัญต่อคุณภาพหนี้ของครัวเรือนเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในครัวเรือนที่มีการกู้หนี้เต็มวงเงินหลักประกันและครัวเรือนที่มีภาระผูกพันกับหนี้หลายสัญญา ซึ่งอาจมีพฤติกรรมในการก่อหนี้นอกระบบเพิ่มเติม ประกอบกับความผันผวนของราคาสินค้าเกษตรและภัยธรรมชาติ ยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงกดดัน การขยายตัวของรายได้ภาคการเกษตร และส่งผลกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ได้ในอนาคต
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |