กกต.สรุปเรื่องร้องเรียน 91 เรื่อง พบทำผิด 7 กรณี เตรียมตั้ง กก.สอบ ชี้ฉีกบัตรเลือกตั้ง 20จังหวัดไม่เกี่ยวต่อต้านระบบ เหตุเมา-พลั้งเผลอ ตำรวจจับ 49 คดี สั่งสันติบาลจับตา "ทักษิณ" เคลื่อนไหวโซเชียลฯ
    ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อวันที่ 24 มีนาคม เวลา 09.45 น. พล.ต.อ.จักรทิพย์   ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เข้าพบนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.  เพื่อรายงานสถานการณ์ความเรียบร้อยของการเลือกตั้ง ส.ส. และเยี่ยมชมศูนย์อำนวยการและประสานงานการเลือกตั้ง  ส.ส. หลังจากนั้น ผบ.ตร.ได้หารือร่วมกับ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. พร้อมกันนี้ยังมีผู้สังเกตการณ์การเลือกตั้งจาก 11  ประเทศ และ 1 องค์กรระหว่างประเทศ เดินทางมาสังเกตการณ์การจัดการเลือกตั้งและภาพรวมการเปิดหน่วยที่สำนักงาน กกต.ด้วย โดยตลอดทั้งวันผู้สังเกตการณ์จะกระจายลงตามพื้นที่ต่างๆ เพื่อสังเกตการณ์การใช้สิทธิ์และการอำนวยความสะดวกให้ประชาชน
    จากนั้น เวลา 18.00 น. พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. แถลงความคืบหน้าหลังปิดหีบลงคะแนนทั่วประเทศว่า มีเรื่องร้องเรียน 91 เรื่อง แบ่งเป็นการร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการประจำหน่วย 33 เรื่อง และร้องเรียนการกระทำของผู้สมัคร 58 เรื่อง ซึ่งเรื่องที่มีการแจ้งเหตุทั้งหมดจะถูกส่งกลับให้พื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบว่ามีมูลความผิด จะตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวน นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่ผู้ตรวจการเลือกตั้งพบการกระทำความผิดรวม 7 เรื่อง แยกเป็นแจกเงินซื้อเสียง 4 เรื่อง ข่มขู่ให้ลงคะแนน จำหน่วยสุรา สวมสิทธิเลือกตั้ง อย่างละ 1 เรื่อง  
    ส่วนกรณีการฉีกบัตรพบ 21 เรื่อง ใน 20 จังหวัด ประกอบด้วย ลำพูน สมุทรสงคราม พระนครศรีอยุธยา ยโสธร เชียงใหม่ ตาก กรุงเทพฯ ปทุมธานี นครศรีธรรมราช อ่างทอง สระบุรี อุบลราชธานี นครราชสีมา ฉะเชิงเทรา นครนายก ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ สกลนคร อุดรธานี และลำปาง เบื้องต้นไม่ได้มีสาเหตุจากการต่อต้านระบบ แต่เป็นลักษณะพลั้งเผลอและเมาสุรา ซึ่งตำรวจจะสอบสวนเพื่อดูเจตนาการกระทำก่อนสรุปสำนวนคดี สำหรับการถ่ายภาพบัตรเลือกตั้งที่ลงคะแนนแล้ว พบที่ชลบุรีและบุรีรัมย์ แต่หากเป็นการถ่ายภาพบัตรโดยไม่เห็นผลคะแนนว่ากาให้กับผู้ใด ยังถือว่าเป็นการลงคะแนนโดยตรงและลับ ไม่ถือเป็นความผิด 
    เลขาธิการ กกต. กล่าวถึงกรณีที่มีคลิปทหารเกณฑ์เดินเข้าไปชะโงกดูการใช้สิทธิของเพื่อนทหารด้วยกัน ภายในหน่วยเลือกตั้งสนามเป้า ว่ายังไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แต่โดยหลักการการลงคะแนนต้องเป็นความลับ ซึ่งจะต้องพิจารณาเป็นรายกรณีไป
     ที่ศูนย์อำนวยการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยการจัดการเลือกตั้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศลต.ตร.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะ ผอ.ศลต.ตร. ประชุมติดตามสถานการณ์การอำนวยการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยการจัดการเลือกตั้งผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ไปยังกองบัญชการตำรวจนครบาล กองบัญชาการภาค 1-9 กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน กองบัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และกองบัญชาการสอบสวนกลาง  
     พล.ต.อ.ศรีวราห์เปิดเผยว่า หลังเวลา 18.00 น. ตำรวจรับคดีจำนวน 49 คดี แบ่งเป็นฉีกบัตร 27 คดี, ซื้อเสียง 4 คดี, ขายเสียง 1 คดี, ใส่ความ 1 คดี,  จำหน่ายสุรา 6 คดี, ถ่ายรูปเซลฟี 3 คดี, ความผิดอื่น 7 คดี รวมเป็น 49 คดี นี้เป็นของส่วนที่ตำรวจรับแจ้งความ แต่ของ กกต.ยังไม่ได้รับรายงาน เพราะ กกต.เขามีอำนาจสูงสุดจะรับอะไรไม่ต้องแจ้งมายังตำรวจ ส่วนคดีที่ตำรวจรับเรื่องไว้ถ้า กกต.เรียกไปทำเองก็ต้องให้ กกต.ไป
    ส่วนคดีการฉีกบัตรเลือกตั้ง ส่วนใหญ่จะเป็นคนเมาสุรา หรือโรคประสาท ไม่มีใครสั่งการ การดำเนินคดีถ้าบ้าต้องงดการสอบสวน รอให้หายบ้าแล้วค่อยส่งฟ้อง ส่วนที่เมาหรือเข้าใจผิด ต้องรีบสั่งฟ้องให้หมด ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ กฎหมายไม่มียกเว้น เรามีความเห็นไปแบบนี้ ส่วนอัยการจะเอาอย่างไรก็เป็นเรื่องของอัยการ  
    อย่างไรก็ตาม สถานการณ์โดยทั่วไป เรื่องความไม่สงบความรุนแรงไม่มี การอำนวยความสะดวกการจราจรสมบูรณ์ ถือว่าได้ผล 100 เปอร์เซ็นต์ เช่นเดียวกันหลังปิดหีบเลือกตั้ง การข่าวไม่พบความเคลื่อนไหวการก่อเหตุความไม่สงบ ถ้าพบก็บังคับใช้กฎหมาย  แต่การเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้สมัครจากพรรคอนาคตใหม่ ที่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ได้แจ้งความไว้เป็นหลักฐาน เนื่องจากหน่วยเลือกตั้งได้นำกระดาษเอ 4 ไปปิดทับข้อมูลผู้สมัคร เนื่องจากเข้าใจผิดถูกถอนสิทธิ์ แต่จะเข้าข่ายการจัดเลือกตั้งใหม่หรือไม่ ต้องแล้วแต่ กกต.วินิจฉัย 
    ทั้งนี้ หลังนับคะแนนการเลือกตั้ง ห้ามมีการชุมนุม ถ้าชุมนุมต้องจับกุมดำเนินคดี สถานที่กักขังคุมขังเตรียมไว้หมดแล้ว รองรับได้เป็น 1,000 คน  
    เมื่อถามว่า หากการเมืองเปลี่ยนขั้ว การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเป็นอย่างไร พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า กฎหมายเปลี่ยนหรือไม่ ถ้าตนคุมอยู่ ทุกอย่างต้องอยู่ภายใต้กฎหมายและระเบียบ 
    เมื่อถามถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีการเคลื่อนไหวทางโซเชียลฯ จะมีการจับตาหรือไม่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ตอบว่า ทางตำรวจสันติบาลได้เฝ้าจับตาอยู่แล้ว ถ้ามีการเคลื่อนไหวฝ่าฝืนกฎหมายเราก็จัดกำลังบังคับใช้กฎหมาย เรามีแผนอยู่แล้ว
    ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 8 เขตเลือกตั้งที่ 2 ต.ย่อ อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร เวลา 09.30 น. นางสุจิตรา ทางาม ผู้อำนวยการประจำหน่วยเลือกตั้งที่ 8 จับกุมนายพุทธวงศ์ แก่นขอน อายุ 20 ปี พร้อมของกลางบัตรลงคะแนนเลือกตั้งจำนวนครึ่งแผ่น โดยขณะที่นายพุทธวงศ์กำลังนำบัตรเลือกตั้งมาหย่อนลงในหีบ เจ้าหน้าที่สังเกตเห็นบัตรเลือกตั้งมีรอยฉีกขาด จึงได้ควบคุมตัวนายพุทธวงศ์ ซึ่งนายพุทธวงศ์รับสารภาพว่า ฉีกบัตรเลือกตั้งดังกล่าวเป็นสองส่วนจริง โดยได้ฉีกบัตรตามรอยปะ ส่วนหนึ่งเก็บไว้กับตนเอง อีกส่วนที่กากบาทได้หย่อนลงหีบบัตร ทั้งนี้ จากการตรวจสอบ นายพุทธวงศ์มีอาการป่วยทางจิตเวช และมีบัตรประจำตัวผู้ป่วยที่ออกโดย รพ.พระศรีมหาโพธิ์
    ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 6 วัดประชาเกษมด้านตะวันออก บ้านโนนนารี ต.เขมราฐ อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี เวลา 10.30 น. นายเรไร เหล่าบุตรศรี อายุ 39 ปี เดินทางมาใช้สิทธิเลือกตั้ง ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่แจ้งว่าชื่อนามสกุลนี้มีผู้ใช้สิทธิล่วงหน้าก่อนหน้านี้แล้วประมาณ 30 นาที จึงไม่ให้ใช้สิทธิ เจ้าตัวออกมาโวยวายว่าถูกสวมสิทธิ์ ต่อมา พ.ต.อ.สมพาน มุทาพร ผกก.สภ.เขมราฐ ได้เดินทางมาตรวจข้อเท็จจริงและเชิญตัวนายเรไรไปสอบสวน จากนั้นเปิดเผยว่า หลังจากตรวจสอบข้อมูลสำนักทะเบียนราษฎร อ.เขมราฐแล้ว พบว่าข้อมูลใบหน้าและหลักฐานต่างๆ ตรงกับข้อมูลของนายเรไรคนที่สองที่ไม่ได้เลือกตั้ง จึงได้ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่หานายเรไรตัวปลอมที่มาใช้สิทธิแทนตัวจริง
    ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 1 หมู่ 1 ร.ร.บ้านเวียงชัย ต.เวียงชัย อ.เวียงชัย จ.เชียงราย เวลา 11.40 น. นายถนัด ใจเฝือ อายุ 54 ปี ได้ฉีกบัตรเลือกตั้งเนื่องจากอาการเมาสุราและกาช่องคะแนนผิด จึงได้ฉีกบัตรเลือกตั้งทิ้ง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำหน่วยเลือกตั้งได้ควบคุมตัวส่งดำเนินคดีที่ สภ.เวียงชัย
    ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 6 หมู่ที่ 6 ต.นาสัก อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง นายดลบรรดาล เครือสบจาว อายุ 43 ปี ได้ฉีกแบ่งครึ่งบัตรเลือกตั้งแล้วทำการพับบัตรระหว่างที่จะนำไปหย่อนในหีบเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวพร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่เมาะ จากการสอบสวนนายดลบรรดาล ให้การว่าเข้าใจผิดคิดว่าต้องฉีกแบ่งครึ่งบัตรเลือกตั้ง ก่อนจะนำไปหย่อนหีบ 
    นายเกรียงไกร พานดอกไม้ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า มีเหตุฉีกบัตรเลือกตั้ง ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 3 เขตเลือกตั้งที่ 2 ต.ดอนแก้ว อ.สารภี ชื่อนายมูล ชื่อดัง อายุ 79 ปี ซึ่งให้การยอมรับว่า เกิดความเข้าใจผิด นึกว่าต้องฉีกส่วนหนึ่ง เอาไว้กับตัวเองด้วย ทำให้ขาดเจตนาในการกระทำความผิด แต่เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายส่งให้พนักงานสอบสวนพิจารณาต่อไป 
    พ.ต.ท.สธนทัต ตั้งสิทธิ์เสรีย์วงค์ ผกก.สภ.กระตีบ อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม รับแจ้งที่เขตเลือกตั้งเขต 2 อำเภอกำแพงแสน จากนายชาติ สุขสะกิจ ผู้อำนวยการหน่วยเลือกตั้งที่ 7 หมู่ 8 ต.ห้วยม่วง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ว่ามีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งและฉีกทำลายบัตรเลือกตั้ง โดนผู้ก่อเหตุชื่อ นายวินัย ดอนไพรเพชร อายุ 58 ปี ระบุว่าเมาสุราขณะเข้าไปในคูหา และได้กากบาทผิดช่อง จึงได้ขยำบัตรและฉีกทิ้ง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาจงใจกระทำด้วยประการใดๆ ให้บัตรเลือกตั้งชำรุดหรือเสียหายหรือให้เป็นบัตรเสีย นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.