23 มี.ค.62 - นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อชาติ ให้สัมภาษณ์วานนี้ ถึงการจัดเวทีปราศรัยใหญ่พรรคเพื่อชาติที่หน้าห้างในวันนี้ ว่า เป็นเวทีสุดท้ายใน กทม. จะต้องประกาศให้คนไทยลุกขึ้นมาต่อสู้ให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยด้วยการออกมาใช้สิทธิ วันนี้มีใบเสร็จว่าคณะรัฐประหารชุดนี้กับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) สมคบคิดกันตั้งแต่ก่อนการยึดอำนาจ มาตอบแทนกันตอนปลาย เช่นการจัดอันดับ ส.ส.บัญชีรายชื่ออันดับ 1 พรรคพลังประชารัฐ เป็นลูกน้องนายสุเทพ ถึงจุดหนึ่งสุเทพข่มขู่ประชาชนถ้าเลือกพรรคการเมืองฝ่ายเพื่อจะไปเจอกันที่ราชดำเนิน ลูกพรรคบอกถ้าเลือกฝ่ายประชาธิปไตยจะเจอปฏิวัติ คนไทยต้องลุกขึ้นมาต่อสู้ โดยหยิบยกคำของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ว่ากูไม่กลัวมึง ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งกันให้ถล่มทลาย

นายจตุพร กล่าวต่อไปว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ปล่อยนายสุเทพและพรรคพวกออกมาข่มขู่ได้อย่างไร การเลือกตั้งเป็นเสรีภาพของประชาชน ทุกวันนี้เกิดการใช้เงินกับการเลือกตั้งอย่างที่ไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน ใช้อำนาจรัฐไปกลั่นแกล้งฝ่ายตรงกันข้าม การดูแลบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าไม่ปรากฏชัดจะดูแลอย่างไรไม่ให้เกิดการเปลี่ยนหีบ ทั้งหมดมันนำมาสู่ความรุนแรงทั้งสิ้น วันนี้ประวัติศาสตร์ย้อนรอย 2535 วันเลือกตั้งคือวันนี้ แล้วนำไปสู่เหตุการณ์พฤษภาทมิฬ หนำซ้ำปี 2535 ยังไม่มีคนอย่างนายสุเทพ วันนี้ฝ่ายประชาธิปไตยเล่นอย่างไรที่จะรวมคะแนนแล้วไปถึง 376 เสียง หรือต่ำสุด 251 เสียง ต้องคิดแบบในการต่อสู้กันมากมาย หนำซ้ำการประกาศไม่ให้พรรคลำดับที่ 1 จัดตั้งรัฐบาล พูดง่ายๆ จะใช้อำนาจไปล็อบบี้เหมือนการจัดตั้งรัฐบาลในอดีต ไปตามบ้านหัวหน้าพรรคแล้วมีมติเลือกใครเป็นนายกฯ ไม่แน่ใจที่บอกปฏิรูป คนที่มาสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. ล้วนเป็นคนที่ควรจะปฏิรูปทั้งสิ้น เอาคนทุจริตมาสนับสนุนตัวเอง ทั้งนี้ พรรคเพื่อชาติยืนหยัดฝ่ายประชาธิปไตยเท่านั้น ถ้าไปยืนข้างฝ่ายสืบทอดอำนาจ อย่าว่าแต่มีที่ยืนเลย ที่นอนก็จะไม่มี ถนนที่จะเดินก็จะไม่มีแผ่นดินจะเหยียบ พรรคไม่มีทางเลือกเป็นอย่างอื่น ต้องยืนเคียงข้างฝ่ายประชาธิปไตย 

เมื่อถามถึงความคาดหวังจำนวน ส.ส. ของพรรค นายจตุพร กล่าวว่า เดิมทีตนไม่เคยคิด แต่เชื่อว่าเดินมาถึงนาทีนี้เราได้มากกว่าที่คิด ตนเดินสายทั่วประเทศเห็นปรากฏการณ์ ประชาชนพร้อมจะให้โอกาส จะเป็นพรรคที่ได้คะแนนพอสมควร พูดง่ายๆ เป็นพรรคขนาดกลางในสนามเลือกตั้งครั้งนี้ เชื่อว่าจะได้ ส.ส. ในหลายเขต เกิดการเปลี่ยนแปลงในหลายพื้นที่ กทม. ก็ประมาทไม่ได้ 

นายจตุพร ยังกล่าวด้วยว่า จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าคนที่ร่วมกับนายสุเทพนั้น ปริมาณไม่มีอยู่เท่าที่เคยเข้าร่วม คนเข้าร่วมเรื่อง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย เมื่อรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถอยและรับผิดชอบด้วยการยุบสภา แต่พวกนี้ต้องการเปิดประตูรัฐประหาร นายสุเทพอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ได้ เป็นคู่เหมาะสมที่สุด เป็นลุงทั้งคู่ บวชมาแล้วก็ไม่มีประโยชน์ ยิ่งนายสุเทพออกฤทธิ์มากเท่าไหร่ คนก็จะยิ่งเห็นปรากฏการณ์นายสุเทพกับ พล.อ.ประยุทธ์ มากขึ้นเท่านั้น พรรคพลังประชารัฐกับพรรคของนายสุเทพจะเดินไปไม่ถึงเป้าที่วางไว้ ยกเว้นมีการทุจริตเลือกตั้ง จะกลายเป็นปัญหาใหม่