อียูไม่ส่งคณะสังเกตการณ์เลือกตั้งไทย แต่จัดเจ้าหน้าที่การทูตร่วมกันสังเกตการณ์ทางการทูตแทน กกต.ส่งอุปกรณ์ลงคูหาเรียบร้อย "ศรีวราห์" กำชับตำรวจห้ามอมงบประมาณ บุรีรัมย์คุมเข้มคืนหมาหอน
คณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทยออกแถลงการณ์ว่า ภายหลังจากมีรายงานข่าวที่คลุมเครือจากสื่อหลายสำนัก เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน คณะผู้แทนสหภาพยุโรป (EU) ประจำประเทศไทย ประสงค์ชี้แจงว่า สหภาพยุโรปจะไม่ส่งคณะสังเกตการณ์การเลือกตั้งในโอกาสที่ประเทศไทยจะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ในวันที่ 24 มี.ค. พ.ศ.2562
อย่างไรก็ตาม การสังเกตการณ์การเลือกตั้งของสหภาพยุโรปนั้น จำเป็นต้องมีคณะสังเกตการณ์การเลือกตั้งที่เป็นกลางครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศในระยะยาว ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ตามกระบวนการที่สอดคล้องกับปฏิญญาว่าด้วยหลักการในการสังเกตการณ์การเลือกตั้งสากลอย่างครบถ้วน
การส่งคณะสังเกตการณ์การเลือกตั้งจะสามารถทำได้ก็ต่อเมื่อได้รับคำเชิญจากประเทศเจ้าบ้านอย่างเป็นทางการ และมีเวลาเพื่อเตรียมภารกิจสังเกตการณ์ระหว่าง 4-6 เดือนล่วงหน้า รวมไปถึงการส่งผู้สังเกตการณ์มาประจำพื้นที่ในระยะยาว ในการเลือกตั้งเป็นการทั่วไปของประเทศไทยในครั้งนี้ สหภาพยุโรปไม่ได้รับคำเชิญอย่างเป็นทางการภายในเวลาที่กำหนด
ด้วยการนี้ คณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย ร่วมกับคณะผู้แทนต่างๆ จากประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปบางประเทศ ได้ลงชื่อสมาชิกเจ้าหน้าที่ทางการทูตประจำประเทศไทยจำนวนหนึ่ง เพื่อร่วมกันทำ "การสังเกตการณ์ทางการทูต" หรือ "diplomatic watch" ซึ่งเป็นการให้บุคคลที่ได้รับการรับรองไปตามคูหาเลือกตั้งต่างๆ เฉพาะในวันเลือกตั้ง เพื่อให้ทราบบรรยากาศทั่วไปในการจัดการเลือกตั้งและใช้ในการรายงานภายในองค์กรเป็นหลัก
การดำเนินการดังกล่าวจะใช้จำนวนคนน้อยและครอบคลุมพื้นที่ไม่มาก ดังนั้นจึงไม่อาจเรียกได้ว่าเป็น “การสังเกตการณ์เลือกตั้ง” การดำเนินการดังกล่าวไม่เพียงพอต่อการประเมินภาพรวมการจัดการเลือกตั้งและไม่อาจใช้เป็นพื้นฐานในการออกถ้อยแถลงใดๆ ต่อสาธารณะได้
สหภาพยุโรปประจำประเทศไทยยินดีกับการจัดการเลือกตั้งอันเป็นก้าวสำคัญของการนำประเทศกลับคืนสู่ระบอบประชาธิปไตย และขอให้คนไทยทุกคนมีวันเลือกตั้งที่ปราศจากความรุนแรงและสอดคล้องตามเจตนารมณ์
นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. ได้ลงนามคำสั่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่ 137/2562 เรื่องแต่งตั้งคณะอนุกรรมการวินิจฉัยคำร้องและปัญหาหรือข้อโต้แย้ง จำนวน 35 คณะ รวม 175 คน โดยระบุอำนาจหน้าที่ไว้ ให้มีอำนาจในการพิจารณาและวินิจฉัยคำร้องและปัญหาหรือข้อโต้แย้งตามระเบียบ กกต.ว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ.2561 และในการพิจารณาวินิจฉัยปัญหาหรือข้อโต้แย้งเกี่ยวข้องกับ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 และที่เกี่ยวกับการยื่นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งทุกระดับและงานอื่นๆ ตามที่ กกต.มอบหมาย กรณีมีความจำเป็นเร่งด่วนอนุกรรมการวินิจฉัยคณะหนึ่งอาจไปร่วมพิจารณากับคณะอนุกรรมการวินิจฉัยฯ อีกคณะหนึ่ง เพื่อให้ครบองค์ประชุมในการพิจารณาและทำความเห็นได้ หากมีเหตุจำเป็น กกต.อาจมอบหมายให้คณะอนุกรรมการวินิจฉัยฯ คณะใดคณะหนึ่งหรือหลายคณะร่วมกันดำเนินการในเรื่องใดเรื่องหนึ่งตามที่ได้รับมอบหมายก็ได้
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. กล่าวว่าขณะนี้ได้จัดส่งวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ไปยังหน่วยเลือกตั้งแล้ว โดย กกต.ล่าสุดได้ตรวจสอบเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาพบว่ามีความพร้อมทุกพื้นที่ และในเช้าวันที่ 23 มีนาคม จะตรวจเช็กอีกครั้ง ยืนยันได้ว่าการเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคมนี้ จะไม่มีบัตรเลือกตั้งข้ามเขตหรือบัตรปลอม เพราะบัตรเลือกตั้งแต่ละเขตจะมีสีแตกต่างกัน และมีรหัสที่บัตร ซึ่งสามารถตรวจสอบได้
“ขอให้ผู้ไปใช้สิทธิได้ตรวจสอบบัญชีรายชื่อผู้สมัครที่ติดอยู่หน้าหน่วยเลือกตั้ง ว่ามีผู้สมัครคนใดถูกเพิกถอนสิทธิการสมัคร เพราะมีการเปลี่ยนแปลงในช่วงระยะเวลาใกล้วันเลือกตั้ง โดยเมื่อวันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา ศาลฎีกาเพิ่งมีคำสั่งถอนรายชื่อผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อของพรรคไทยรักษาชาติจำนวน 108 คน ออกจากประกาศรายชื่อผู้สมัคร ส.ส. จึงอยากให้ประชาชนตรวจสอบข้อมูลให้ดีก่อนใช้สิทธิเลือกตั้ง
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยการจัดการเลือกตั้ง (ผอ.ศลต.ตร.) ประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องในการรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกการเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค. โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกกองบัญชาการเข้าร่วมประชุม
ภายหลัง พล.ต.อ.ศรีวราห์เปิดเผยว่า ประเด็นการประชุมวันนี้เป็นเรื่องงบประมาณ ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดสรรมาให้ โดยเน้นย้ำอยู่ 2 เรื่องคือ 1.ห้ามอมงบประมาณ 2.ใช้งบประมาณให้หมด เพราะได้ทำเรื่องเบิกไปแล้ว ถ้าใช้ไม่หมดจะเป็นการรายงานเท็จ อย่าให้ได้ยินว่ามีการอมงบประมาณมาถึงหู ต้องจัดให้หน่วยล่างตามข้อเท็จจริง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการประเมินการเลือกตั้ง ส.ส.จังหวัดบุรีรัมย์ทั้ง 8 เขตเลือกตั้ง พบว่า มีพื้นที่ 5 เขตเลือกตั้งที่คาดว่าจะมีการแข่งขันเข้มข้นดุเดือด ได้แก่ เขตเลือกตั้งที่ 2, 3, 4, 6 และเขตเลือกตั้งที่ 7 โดยในช่วงคืนหมาหอน และในวันเลือกตั้ง ทาง กกต. ก็ได้จัดชุดสืบสวนหาข่าว ชุดป้องปราม ชุดเคลื่อนที่เร็วเข้าไปเฝ้าสังเกตการณ์ และคอยดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยครบ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว นอกจากนั้นมีการจัดชุดเคลื่อนที่เร็วเข้าไปเสริมในทุกเขตเลือกตั้งอีกด้วย หากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นในพื้นที่ใดจะได้สามารถเข้าปฏิบัติหน้าที่ได้ทันที.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |