ลุงตู่ทิ้งไพ่ใบสุดท้าย ขึ้นเวทีพปชร.ลั่นยอมตาย แม้วประกาศชัยที่ฮ่องกง!


เพิ่มเพื่อน    

  โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง 5 เวทีปราศรัยใหญ่ใน กทม.คึกคัก "อุตตม" ย้ำการฟอร์มรัฐบาลขึ้นกับพรรคที่รวบรวมเสียงข้างมากได้ "หญิงหน่อย" ดักทางจะมี ส.ส.งูเห่าถูกเชิญกึ่งอุ้มบังคับให้หนุน "ประยุทธ์" สืบทอดอำนาจ "จตุพร" โต้ "ลุงตู่" คือความไม่สงบ เวทีพปชร.มีเซอร์ไพรส์ "บิ๊กตู่" โผล่ขึ้นเวทีปลุกเดินไปข้างหน้าด้วยกัน ลั่นยอมตายเพื่อแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ ใครทรยศแผ่นดินไม่ได้ "เหลิม" แนะบิ๊กตู่ดูบทเรียนถนอมเย้ยมะลิยามบ่ายไม่มีกลิ่นหอมแล้ว อ้างโพลสันติบาล พท.ชนะถล่มทลาย "แม้ว" ฟุ้งในงานแต่ง "อุ๊งอิ๊ง" เราชนะแน่นอน ฝ่าย ปชต.เข้มแข็งมาก

    เมื่อวันศุกร์ที่ 22 มีนาคม ซึ่งเป็นโค้งสุดท้ายการหาเสียงเลือกตั้ง พรรคการเมืองต่างๆ เร่งลงพื้นที่หาเสียง โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานคร 5 พรรคการเมือง จัดเวทีปราศรัยใหญ่ทิ้งทวนกันอย่างคึกคัก
    ทั้งนี้ ในช่วงเช้า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งว่า เจ้าหน้าที่ทำเหมือนเดิม ตนไม่ห่วงอะไร และไม่มีพื้นที่ไหนที่กังวล และไม่ได้สั่งการให้ติดตามกลุ่มเป้าหมายใด รวมถึงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 
    ผู้สื่อข่าวถามกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ระบุว่าหากพรรคเพื่อไทย (พท.) ได้รับการเลือกตั้ง จะจัดการชุมนุมบนถนนราชดำเนิน พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ก็เป็นเรื่องของนายสุเทพ ขอให้ไปถามนายสุเทพ
    เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ชู สโลแกน "เลือกความสงบ จบที่ลุงตู่" จะสงบจริงหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ตนก็ไม่รู้ เป็นเรื่องของพรรคเขา เมื่อถามต่อว่า แต่มีคนไม่ค่อยมั่นใจว่าหลังเลือกตั้งจะเกิดอะไรขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกอย่างสงบดี 
    ถามถึงมีการจับตามองว่าคืนวันที่ 24 มี.ค. พล.อ.ประวิตรอาจมีส่วนสำคัญในการจัดตั้งรัฐบาล พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่มี ตนไม่ได้รับการประสานมา นอกจากนี้ยืนยันว่าไม่ได้หารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เรื่องการดูแลสถานการณ์ในช่วงเลือกตั้ง และนายกฯ ไม่ได้ขอให้ช่วยงานต่อ ส่วน พล.อ.ประยุทธ์จะได้กลับมาต่อหรือไม่ ตนไม่ทราบ ก็แล้วแต่ประชาชน ส่วนหลังการเลือกตั้งอาจจะมีการปฏิวัติเกิดขึ้นอีกนั้น พล.อ.ประวิตรบอกว่า “ไม่มี”
    สำหรับพรรคการเมืองต่างๆ ลงพื้นที่หาเสียงกันตลอดทั้งวัน โดยนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่ถนนข้าวสาร เพื่อหารือแนวนโยบายของพรรคร่วมกับตัวแทนผู้ประกอบการโฮมสเตย์และที่พักรายย่อย ก่อนแถลงนโยบายและลงพื้นที่พบปะประชาชนย่านถนนข้าวสารที่มาต้อนรับและให้กำลังใจ
    นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวถึงกระแสตอบรับ พปชร. ในช่วง 3 วันสุดท้ายว่า จากการประเมินคะแนนไว้หลายทาง พบว่า พปชร.กระแสตอบรับดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้พรรคมั่นใจว่าจากการทำงานในพื้นที่ที่เต็มที่ โดยผู้สมัคร ส.ส.ที่นำเสนอนโยบายถึงประชาชน ทำให้พรรคมีโอกาสมากต่อบทบาทผู้นำจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งพรรคประเมินคะแนนที่ได้รับเบื้องต้น คาดว่าจะทำให้ได้ ส.ส.เข้าสภามากถึง 140-150 ที่นั่ง และในทางปฏิบัติ การฟอร์มตั้งรัฐบาลทุกสมัยที่ผ่านมา คือพรรคที่สามารถรวบรวมเสียงข้างมากได้ โดยพรรคมั่นใจว่าจะสามารถรวบรวมเสียงให้ได้มากกว่ากึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎรที่มี 500 เสียง คือ 250 เสียงได้แน่นอน  
    "เมื่อรับทราบถึงผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ พรรคจึงจะหารือต่อการรวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลต่อไป พปชร.จะแตะมือกับใครนั้น ขึ้นอยู่กับเสียงที่ได้ พรรคมีจุดยืนคือการมีอุดมการณ์เดียวกันต่อการทำงานเพื่อสร้างและทำประโยชน์เพื่อประชาชนได้อย่างแท้จริง ภายใต้กติกาของรัฐธรรมนูญ เพื่อปฏิรูปประเทศ และทำให้ชาติพัฒนาก้าวหน้า คนไทยต้องไม่มีความเหลื่อมล้ำ ส่วนพรรคไหนที่มีพฤติกรรมที่ทำผิดกฎหมาย ผิดกติกา หรือมีพฤติกรรมขัดกับธรรมเนียมของสังคม แน่นอนว่าพรรคจะไม่พิจารณาร่วมทำงานด้วย" นายอุตตมกล่าว
ส.ส.งูเห่าถูกอุ้มหนุนประยุทธ์ 
     คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายอุตตมระบุว่า พรรคที่รวมเสียงได้มากที่สุดมีสิทธิ์ที่จะจัดตั้งรัฐบาลว่า คงเป็นเพราะ พปชร.เห็นว่าตนเองจะไม่ได้เสียงลำดับที่ 1 แน่นอน จึงพยายามวางกฎเกณฑ์กติกาหรือมารยาทที่แตกต่างจากอดีต ซึ่งเป็นวัฒนธรรมที่ดีทางการเมือง ที่ปกติแล้วจะให้พรรคที่ได้เสียงมากลำดับที่ 1 เป็นผู้นำจัดตั้งรัฐบาล หากลำดับที่ 1 ไม่สามารถจัดตั้งได้ จึงจะเปิดโอกาสให้แข่งขันกันต่อ สะท้อนว่าสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ว่าร้ายพรรคการเมืองวันนี้กลับไปอยู่ใน พปชร.ทั้งหมด
    “เชื่อว่าหลังการเลือกตั้งจะมีงูเห่าหรือล็อบบี้ ส.ส.เกิดขึ้นในลักษณะเชิญกึ่งอุ้มไปหาผู้มีอำนาจ เพื่อบังคับให้ร่วมกับ พปชร. จะมีเหตุการณ์ที่พยายามซื้อตัว ส.ส.รายบุคคล เพื่อสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์กลับมาสู่อำนาจให้ได้ โดยไม่สนวิธีการจะผิดกฎหมาย ไม่ถูกต้องตามจริยธรรม และเป็นวิธีการผิดธรรมเนียมปฏิบัติ” คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว
     ขณะที่นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษก พปชร. ตอบโต้คุณหญิงสุดารัตน์ว่า ไม่เป็นความจริง พูดไปเรื่อย คุณหญิงสุดารัตน์คงกลัวว่าคะแนนนิยมของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ จะแซงคะแนนนิยมของตัวเองขึ้นไปแคนดิเดตนายกฯ ตัวจริงของพรรคเพื่อไทย ถึงได้ออกมาให้สัมภาษณ์ทำท่าทีขึงขังในช่วงโค้งสุดท้ายแบบนี้ แต่คุณหญิงสุดารัตน์คงลืมไปแล้วว่าพรรคตัวเองก็เคยมีพฤติกรรมแหกวัฒนธรรมที่ดีทางการเมือง โดยชักชวนนักการเมืองพรรคต่างๆ ให้ทิ้งพรรคที่กำลังสังกัดอยู่แล้วมารวมกับพรรคของตัวเองมาแล้ว ไม่สนกฎเกณฑ์กติกาเพื่อให้ตัวเองได้เข้าสู่อำนาจเช่นกัน เป็นการพูดใส่ร้าย ดิสเครดิต พปชร. เอาดีเข้าตัว กกต.เขาทำหน้าที่ตรวจสอบอย่างเข้มข้นอยู่แล้ว ถ้ามีหลักฐานอะไรก็เอาไปให้ กกต.ตรวจสอบได้ทันที 
    ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เวลา 08.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ปล่อยขบวนรถของ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 9 หลักสี่ แคมเปญ “Not for Sale ไม่ซื้อเสียง” จากหน้าที่ทำการพรรค รณรงค์หาเสียงช่วงโค้งสุดท้ายพร้อมเชิญชวนประชาชนไม่ซื้อสิทธิ์ขายเสียง ไม่ยอมรับอามิสสินจ้างและการเลือกตั้งที่ทุจริต  
    นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า สิ่งที่เราย้ำตลอดคือ ถ้าเราอยากเห็นความเจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืน เราต้องสร้างประชาธิปไตยที่สุจริต มิฉะนั้นเราจะไม่มีวันที่สร้างระบบสังคมหรือเศรษฐกิจที่ตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างยั่งยืน ประชาธิปไตยที่สุจริต ต้องเริ่มต้นตั้งแต่กระบวนการการเลือกตั้งที่สุจริต ซึ่งปชป.ต่อสู้กับการทุจริตการเลือกตั้งมาทุกสมัย และยังยืนอุดมการณ์นี้ 
    "สัปดาห์ที่ผ่านมามีรายงานเข้ามาจากพื้นที่ต่างๆค่อนข้างมากถึงการทุจริตการเลือกตั้งแบบเดิมๆ โดยเฉพาะการซื้อเสียงและการใช้อำนาจรัฐเข้ามาในหลายพื้นที่ เราทราบดีว่าประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจะถูกกดดัน แต่ถ้าทุกคนปฏิเสธการซื้อเสียง ไม่ขายเสียง ปฏิเสธการถูกครอบงำโดยวิธีการที่ไม่ถูกต้อง ประเทศเราจะมีโอกาสในการเดินไปข้างหน้าสู่ประชาธิปไตยที่สุจริต และเศรษฐกิจที่เข้มแข็งและยั่งยืน" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
    เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่มีการระบุว่ามีพรรคการเมือง 6 พรรค ได้ดำเนินการจับมือล่วงหน้าเพื่อจัดตั้งรัฐบาล นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ทางพรรคยังไม่ได้คุยถึงขั้นนั้น และโดยธรรมชาติยังไงก็ให้พรรคที่รวบรวมเสียงข้างมากได้ และโดยปกติผลการเลือกตั้งออกมา พรรคที่ได้รับเลือกมากที่สุดก็มีฐานะที่ดีกว่าอยู่แล้ว 
โต้"ลุงตู่"จิตใจไม่สงบ
    ด้าน พล.ต.ต.วิชัยกล่าวว่า การทำแคมเปญดังกล่าวเกิดจากในเขตเลือกตั้งที่ 9 มีบางพรรคการเมืองใช้วิธีที่ส่อไปในทางทุจริต มีการแจกสิ่งของ ข้าวสาร และอาหารแห้งหลายครั้ง กระทั่งเมื่อเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง เริ่มมีการจ่ายเงินซื้อสิทธิ์ขายเสียงหัวละ 1,000 บาท พร้อมจดชื่อเก็บบัตรประชาชน และมีการใช้อำนาจรัฐข่มขู่ประชาชนให้เลือกผู้สมัครบางพรรค 
    นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์ว่า มั่นใจว่าพรรคอนาคตใหม่จะได้ ส.ส.เข้าสภาจากการรณรงค์ให้ประชาชนรับทราบถึงนโยบายและเชิญชวนให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกไปเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคมทั่วประเทศ มั่นใจว่าจะสร้างจุดเปลี่ยนทางการเมืองและพาประเทศก้าวไปข้างหน้าได้อย่างสงบและสันติ สิ่งสำคัญคือ ประชาชนต้องร่วมใช้สิทธิเพื่อให้เกิด 3 จบ คือ จบ พล.อ.ประยุทธ์, จบพปชร. และจบการใช้อำนาจของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ตนมั่นใจในผู้มีสิทธิเลือกตั้ง โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ผู้ที่มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งครั้งแรกจะเป็นพลังและส่วนผลักดันให้ประเทศเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น และเพื่ออนาคตของประเทศ
    นายจตุพร พรหมพันธุ์ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อชาติ (พ.ช.) ให้สัมภาษณ์กรณี พปชร.ขึ้นป้าย “เลือกความสงบจบที่ลุงตู่” ว่าเป็นเหมือนการสร้างสถานการณ์น่ากังวล สอดคล้องที่นายสุเทพออกมาพูดก่อนหน้านี้ ว่าถ้าเลือกพรรคฝ่ายเพื่อ ก็จะต้องเจอกันที่ราชดำเนินอีกครั้ง จะเห็นได้ว่าพรรคการเมืองที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ สืบทอดอำนาจ ต่างแบ่งงานกันทำ โดยเฉพาะชูเรื่องความสงบ แต่ถ้าไม่สงบก็เกิดจากนายสุเทพ ด้วยนายสุเทพที่ใช้วิธีข่มขู่คนไทย ทำให้ผู้คนวิตก บรรยากาศแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้น เป็นหนทางที่เป็นปัญหาของชาติ 
    "แม้จะเปลี่ยนลุคส์ตัวเองใหม่ แต่พอเจอคำถามสื่อมวลชนก็ทนไม่ได้เหมือนเดิม เพราะฉะนั้นคนที่ไม่สงบคือ พล.อ.ประยุทธ์ คือจิตใจของ พล.อ.ประยุทธ์ไม่สงบตลอดเวลา เพราะฉะนั้นที่บอกว่าเลือกความสงบ จบที่ลุงตู่นั้น ไม่ใช่ ลุงตู่คือความไม่สงบ ใจของลุงตู่เองนั่นแหละที่เป็นปัญหา" นายจตุพรกล่าว และว่า คนไทยต้องลุกขึ้นมาต่อสู้โดยหยิบยกคำของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ว่า กูไม่กลัวมึง ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งกันให้ถล่มทลาย พปชร.กับพรรคของนายสุเทพจะเดินไปไม่ถึงเป้าที่วางไว้ ยกเว้นมีการทุจริตเลือกตั้ง จะกลายเป็นปัญหาใหม่
       นายรยุศด์ บุญทัน โฆษกศูนย์อำนวยการเลือกตั้งพรรคเพื่อชาติ เปิดเผยถึงการปล่อยคลิปวิดีโอแคมเปญชุดที่สอง ภายใต้สโลแกน “ภารกิจสุดท้ายปลุกคนไทย หยุดสืบทอดอำนาจเผด็จการ” จากทั้งหมด 3 แคมเปญ ที่ได้ปล่อยมาแล้ว 1 คลิป ซึ่งเนื้อหาในคลิปแรกกล่าวถึงเหตุผลว่าทำไม พล.อ.ประยุทธ์จึงต้องกลับบ้าน ส่วนคลิปที่สองได้เปิดตัวในวันนี้ภายใต้ชื่อ “ภารกิจสุดท้ายปลุกคนไทย หยุดสืบทอดอำนาจเผด็จการ” บอกถึงวิธีที่ประชาชนจะเอาชนะเผด็จการให้ได้ และจะมีการปล่อยคลิปวิดีโออีก 1 ชุดก่อนถึงวันเลือกตั้ง ได้แก่ คลิปแคมเปญสุดท้าย “เลือกเพื่อชาติ ปิดฉากเผด็จการ” ในวันที่ 23 มี.ค.
    วันเดียวกัน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำผู้ร่วมก่อตั้งพรรค รปช. โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า กว่า 5 ปีที่มวลมหาประชาชนลุกขึ้นมาต่อสู้กับระบอบทักษิณ ความรุนแรงถูกนำมาเขย่าขวัญผู้ชุมนุมครั้งแล้วครั้งเล่า หลายชีวิตถูกทำลาย หลายชีวิตต้องบาดเจ็บพิการ เพราะรวมใจกันสู้ เมื่อประชาชนทนไม่ไหว ออกมาขับไล่ ก็นำไปสู้วิกฤติบ้านเมือง และลงท้ายด้วยการทำรัฐประหาร ฉีกรัฐธรรมนูญ เลือกตั้งใหม่ นักการเมืองหน้าเก่าๆ ก็กลับเข้าสภาได้อีก โดยการซื้อเสียงแจกนโยบายประชานิยม สร้างเผด็จการรัฐสภา เพื่อทุจริตถอนทุนคืน เป็นวังวนซ้ำๆ เดิมๆ
"บิ๊กตู่"โผล่ขึ้นเวที พปชร.
          "ไม่เบื่อกันบ้างหรืออย่างไร? เลือกตั้งคราวนี้ก่อนจรดปากกาในคูหาถามตัวเองก่อนว่าอยากให้ประเทศของเราเป็นแบบไหน รับได้ไหม หากต้องกลับมาอยู่ในวังวนเดิมไม่รู้จบ ที่ชาว กปปส.กลุ่มหนึ่งต้องมาตั้งพรรคการเมืองเอง เพื่อให้ กปปส.ด้วยกันรวมพลังสนับสนุนพรรคให้เข้าไปปฏิรูปประเทศต่อ หากใครที่มองเห็นว่าประเทศยังไม่ปลอดภัยเหมือนกับผมมาสู้กันอีกสักตั้งคิดว่าทำเพื่อประเทศของเราเลือกพรรค รปช." นายสุเทพระบุ
    ในช่วงเย็น ที่สนามกีฬาเทพหัสดิน พรรค พปชร. จัดเวทีปราศรัยใหญ่  "เปิดใจประชารัฐ รวมใจประเทศไทยเป็นหนึ่งเดียว” โดยแกนนำพรรค ผู้สมัคร ส.ส.พรรค และประชาชน ต่างทยอยเดินทางเข้ามาพร้อมถือป้ายสนับสนุนผู้สมัครเขตต่างๆ และป้ายเชียร์พล.อ.ประยุทธ์จำนวนมาก
    นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า ตอนนี้มี 2 พรรคการเมืองกำลังปราศรัย โดยพรรคแม่ใช้สนามไทยญี่ปุ่น-ดินแดง และพรรคลูกใช้สนามกีฬาเวสน์ ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่ไปอยู่ด้วยกัน ทำไมไม่มาใช้เวทีที่นี่ด้วยกัน กลัวอะไรกับพรรคพลังประชารัฐ หรือจะบอกว่าจัดข้างๆ กัน เมื่อถึงเวลาเช็กบิลจะได้เช็กกับนายใหญ่คนเดียว ส่วนพรรคเรายืนยันไม่มีนายใหญ่ ไม่มีนายทุน และไม่มีเจ้าของ
    ขณะที่นายอุตตม สาวนายน  หัวหน้าพรรค กล่าวยืนยันว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นทางออกของประเทศ ที่จะนำพาประเทศก้าวไปสู่อนาคต
     นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค กล่าวว่า วันนี้ 24 มี.ค. จะเป็นวันต่อสู้กับระบอบเก่าที่มีมายาวนาน ซึ่งเป็นระบอบที่จะนำประเทศกลับสู่สิ่งเก่าที่เลวร้าย แต่มี พล.อ.ประยุทธ์เพียงคนเดียว ที่จะสามารถนำพาประเทศก้าวสู่วันใหม่ได้ อย่าปล่อยให้คนทำลายชาติชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ได้
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 19.17 น. พล.อ.ประยุทธ์ได้เดินทางมาถึงเวทีปราศรัยใหญ่ของ พปชร. จากนั้นได้นั่งรถกอล์ฟ โดยมีนายอุตตมและนายสนธิรัตน์รอรับ เดินทักทายประชาชนผู้สนับสนุนขึ้นเวทีตรงกลางสนาม ท่ามกลางเสียงตะโกนร้องต้อนรับและประชาชนมอบดอกไม้ให้ 
    จากนั้นเวลา 19.45 น. นายอุตตมได้ประกาศบนเวทีต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ ทำให้ประชาชนที่มาร่วมฟังการปราศรัยตะโกนว่า "ลุงตู่สู้ๆ" ดังลั่นสนาม พร้อมกับเปิดเพลงหยุดตรงนี้ที่เธอ
    โดยก่อนกล่าวบนเวที พล.อ.ประยุทธ์ได้ร่วมร้องเพลงหยุดตรงนี้ที่เธอ ของฟอร์ด สบชัย ไกรยูรเสน ร่วมกับประชาชนอย่างครื้นเครง และใช้เวลากล่าวบนเวทีเพียง 7 นาทีว่า สัญญาว่าจะดูแลคนทั้ง 77 จังหวัด เดินไปข้างหน้าเพื่ออนาคตที่ดีกว่า มาวันนี้เพื่อขอบคุณคนไทยทั้งประเทศในการให้ความร่วมมือกันมาตลอด 5 ปี รู้ว่าทุกคนเหนื่อย ตนเองก็เหนื่อย แต่ตนเหนื่อยไม่ได้ ตนจะทำต่อไปให้ดีที่สุด จะเอา 20 ปีเลยหรือ เราต้องรวมพลังกัน จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด นโยบายของทุกคนดีทั้งหมด แต่ต้องหาคนมาทำนโยบาย และทำให้ได้ ยืนหยัดตรงนี้จะทำให้เต็มที่ ทำให้กับคนไทยทุกคน ไม่ใช่จะทำกันเรื่อยเปื่อย เราต้องมีวิธีการที่เหมาะสม เราต้องเติมใจให้กัน จับมือกันให้เข้มแข็งเดินหน้าไปด้วยกัน ถ้าคน 68 ล้านคนจับมือกัน จะทำได้ทุกอย่าง 
    "ลุงอยู่มา 5 ปี รู้ดีว่าอะไรเกิดขึ้น อะไรคือปัญหาและอุปสรรค เราต้องช่วยถางทางตรงนี้ให้โล่ง ลุงก็ถางมาโล่งพอสมควรแล้ว เราต้องทำให้เกิดความสงบสุขเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ทุกคนสามารถเดินทางไปในทุกๆ ที่ได้ เพราะบ้านเมืองสงบสุข เราต้องทำสิ่งเหล่านี้ให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืน ต่อจากนี้ไปเราต้องช่วยกันลดความขัดแย้ง เราจะต้องนำหัวใจความรักความสามัคคีกลับคืนมา เราต้องรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ วันนี้เราอย่ามัวนั่งรอต้องลุกขึ้น ก้าวเดินไปพร้อมๆ กับผม พยุงกันไป ลากกันไป เข็นกันไปก็ต้องทำ ประเทศไทยมีโอกาสศักยภาพ แต่มักมีวิกฤติมาเสมอ เราอย่าทำให้วิกฤติเหล่านั้นเกิดขึ้นมาอีก" 
ยอมตายเพื่อแผ่นดิน
    "ผมจะยอมตายเพื่อแผ่นดินผืนนี้ แผ่นดินที่ให้ผมเกิด ให้ผมมีที่กินอยู่หลับนอนและมีอาชีพ ผมต้องรักษาแผ่นดินนี้ไว้ เพื่อลูกหลานในอนาคต จะไปกับผมไหม ประเทศไทยจะไม่ล้มอีกต่อไป จะไม่นั่งรอใครอีกต่อไป เราจะเดินไปข้างหน้า ยืนขึ้นและจับมือกันเดินไป และหวังว่ากำลังใจนี้จะอยู่คู่กับผมไปนานเท่านาน เราจะร่วมกันทำประวัติศาสตร์ประเทศไทยในที่ดีกว่าในวันข้างหน้า ทำวันนี้เพื่อประวัติศาสตร์ที่ดีในข้างหน้า"
    ในช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้ผมเปิดดูในเฟซบุ๊ก อดไม่ได้กลัวพี่น้องจะเสียขวัญ ขอร้องอย่าเสียขวัญ ขวัญอยู่กับตัวกลัวอะไร ขวัญอยู่ที่ศีรษะ และอยู่ที่ใจ หัวใจอันยิ่งใหญ่ หัวใจแห่งความรักความสามัคคี ทำบ้านเมืองเราให้สงบปลอดภัย จะมีพิธีบรมราชาภิเษกแล้ว แผ่นดินนี้ศักดิ์สิทธิ์ ใครจะมาทรยศแผ่นดินนี้ไม่ได้เด็ดขาด เราจะต่อสู้เพื่อรักษาชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 
     หลังปราศรัยมีการเปิดเพลงจับมือไว้ โดยมีแกนนำเดินไปส่งขึ้นรถ และจบการปราศรัยเวลา 20.00 น.
    ที่ลานคนเมือง กทม. พรรคประชาธิปัตย์ จัดเวทีปราศรัยใหญ่ โดยนายชวน หลีกภัย ปราศรัยตอนหนึ่งว่า ทางภาคใต้มีการเลือกปฏิบัติมาตั้งแต่สมัยนายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว ถนนภาคใต้แย่มาก ไม่มีการปรับปรุง สมัยนี้คนสุจริตเสียเปรียบ เพราะคนไม่สุจริตมีเงินจ้าง ไม่มีเงินล้มคดีได้ ดังนั้นเวลาเลือกตั้งขออย่าพูดแต่ว่าคุณชนะ แต่ขอให้ดูด้วยว่าคุณชนะมาอย่างสุจริตหรือไม่ 
ต่อมาเวลา 20.40 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ปชป. ขึ้นเวทีปราศรัยตอนหนึ่งว่า วันนี้สิ่งที่เสียดายที่สุดคือ ทำไมพรรคการเมืองอื่นให้การเลือกตั้งครั้งนี้ให้ประชาชนเป็นหมากในกระดานเพื่อเล่นสงคราม ให้ประชาชนเลือกข้างระหว่างความโกรธกับความกลัว โดยพรรคการเมืองหนึ่งได้ยินคำว่าทุจริตเหมือนโดนน้ำร้อนสาด ถามจริง กล้าสาบานไหมว่าที่ผ่านมาไม่โกง แต่เอาความอึดอัดของพี่น้องทำเป็นสงครามที่ต้องต่อสู้ ไม่ได้มุ่งนโนบาย แต่มุ่งเอาชนะกันในทางการเมือง ในทางกลับกัน อีกฝ่ายหนึ่งเล่นกับความกลัว กลัวระบอบทักษิณ กลัวบ้านเมืองวุ่นวาย และบอกว่าต้องข้าพเจ้าเท่านั้นบ้านเมืองจึงสงบ  
“อยากเรียน 2 เรื่องว่า ระบอบทักษิณไม่ได้เจาะจงแต่กับพฤติกรรมของนายทักษิณ ชินวัตร ถามว่าพฤติกรรมของพรรคนี้ต่างจากระบอบทักษิณหรือไม่ ลงเลือกตั้งเอาอำนาจรัฐเอาเปรียบหรือไม่ คนที่บอกว่าเขาเป็นคนไม่ดี เขาก็แขวนไว้ แต่เมื่อคนเหล่านั้นไปอยู่พรรค พล.อ.ประยุทธ์ กลายเป็นคนดีและยกเลิกคำสั่งไปแล้ว” นายอภิสิทธิ์กล่าว
     นายอภิสิทธิ์กล่าวทิ้งท้ายว่า วันนี้เราอย่าลังเลให้กับการสืบทอดอำนาจกับการทุจริตอีก ไม่เช่นนั้นประเทศจะสูญเสียโอกาสและเกิดความเสียหายอีกกี่ปี วันนี้ขอให้เราเดินมาพร้อมกัน เพราะตัดสินใจแล้วว่าอยากเดินออกจากวงจรอุบาทว์ ดังนั้น ไม่ต้องกลัว เพราะตนเองและพรรคประชาธิปัตย์จะทำให้ประเทศก้าวหน้าให้ได้
      ส่วนพรรคเพื่อไทย จัดปราศรัยที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง โดยใช้หัวข้อหลัก คือ "เลือกเพื่อไทยให้ถล่มทลาย เป็นผู้นำจัดตั้งรัฐบาล" บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนมาจากทุกเขตเลือกตั้งของ กทม. จนที่นั่งเต็มอาคารกีฬาเวสน์ 2 และล้นออกไปถึงลานด้านหน้าอาคาร
    ทั้งนี้ ตามกำหนดการปราศรัยจะใช้เวลา 4 ชั่วโมง 4 ประเด็น ซึ่งยังคงย้ำจุดยืน “เลือกเพื่อไทยให้ถล่มทลาย เป็นผู้นำจัดตั้งรัฐบาล” พร้อมกับจะมีการถ่ายทอดสดเวทีปราศรัยใหญ่ผ่าน Facebook Live ของพรรค 
    โดยนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรค กล่าวว่า พี่น้องหายใจและอดทนอีก 2 วัน เพื่อไทยจะนำความสุขกลับคืนมา ทนเหม็นหน้าคุณประยุทธ์ไปอีก 2 วัน แล้วบอกว่า คุณกลับบ้านไปได้แล้ว เหม็นแล้ว เบื่อฉิบหายเลย ไปเลย พี่น้องไปดูป้ายคุณผู้หญิงบางพรรคขึ้นป้ายบอกว่าจบที่ประยุทธ์บ้านเมืองจะสงบ ไม่รู้ว่าพูดผิดหรือเปล่า บ้านเมืองจะสงบได้ต้องไม่มีประยุทธ์ บางคนก็บอกไม่เลือกประยุทธ์เจอกันที่ราชดำเนิน ทูนหัวไปเลย ไปตอนเช้ากลับมาตอนค่ำกลับมาจะร้องไห้ เพราะเพื่อไทยชนะหมดแล้ว ดังนั้นอย่ามาขู่
    ขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แกนนำพรรค ปราศรัยว่า มีข่าวดีมาบอก ขณะนี้พรรคเพื่อไทยชนะแล้ว โพลสันติบาล มหาดไทย กอ.รมน.และเฉลิมโพล พรรคเพื่อไทยชนะแล้ว แต่ต้องชนะให้ขาดไปเลย เขาบอกผมกับลุงตู่ชอบกัน อย่าไปเชื่อไอ้ปุ้มปุ้ยคืออุตตมและสนธิรัตน์ พูดได้อย่างไร ความสงบจบที่ลุงตู่ ความสงบจบที่ตำรวจ จบที่รัฐบาล นายสุเทพ ออกมาบอกว่า ระวังถ้าเพื่อไทยชนะ จะมีการประท้วงที่ราชดำเนิน ก็มาสิวะ จะได้รู้กัน
ฟุ้งพท.ชนะแน่นอน
    "นายอภิสิทธิ์ คุณอายุน้อยกว่าผม ทหารเขาไม่เกรงใจคุณหรอก คุณไม่มีราคา คุณแพ้เลือกตั้งแต่เคยเป็นนายกฯ คนบอก เฉลิมชอบพูดถึงทักษิณ ก็ต้องบอกว่า อ้าวกูรักของกู ถ้าเราได้เป็นรัฐบาล แล้วมาเดินขบวน เทพเอ็งเหมือนงูถูกรีดพิษไปแล้ว จะเอาบรรยากาศเหมือนปี 56 ไม่ได้แล้ว เลือกตั้งพรรคสุเทพจะได้ถึง 8 ที่หรือเปล่ายังไม่รู้ 24 มี.ค.เขาไปเลือกตั้ง แล้ว จะเอาเวลาไหนมานอนที่ราชดำเนิน"
    เขาบอกว่า ลุงตู่ จำจอมพลถนอม กิตติขจร เป็นตัวอย่าง ลุงตู่ถ้าเปรียบเป็นมะลิ ก็เป็นมะลิตอนบ่าย ไม่มีกลิ่นหอมแล้ว 5 ปียังเท่านี้ ถ้าต่อไปอีก 4 ปี บ้านเมืองจะเป็นอย่างไร วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจโทร.มาบอก โพลเพื่อไทยชนะถล่มทลาย แต่เจ้าหน้าที่ถ้ารายงานไป กอ.รมน.บอกว่า กำลังสูสี ลุงตู่มาดอย่างกับธงชัย แมคอินไตย์ ไปไหนอารมณ์ดีร้องเพลง แต่ถ้าเข้าสภารอบนี้ ได้ร้องไห้ คงได้เห็นน้ำตาจระเข้ ถ้าเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้าน จะจับมันชกต่ำทุกคนเลย
    มีรายงานว่า ระหว่างงานแต่งของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวคนเล็กของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กับนายปิฎก สุขสวัสดิ์ แฟนหนุ่ม นายทักษิณได้กล่าวบนเวทีตอนหนึ่งว่า วันนี้กลัวว่าห้องจะไม่พอ เพราะคนมาเยอะ แต่การเลือกตั้งเราชนะแน่นอน เป็นเสียงตัวแทนวันที่ 24 มี.ค. ที่จะมีการเลือกตั้ง มันเป็นเสียงของฝ่ายประชาธิปไตยที่เข้มแข็งมาก เพราะว่าประเทศไทยถูกลิดรอนสิทธิ ขาดโอกาสมา 5 ปี วันนี้ประเทศไทยกำลังรอคอยที่จะบอกว่าคนไทยอยากเห็นเสรีภาพ เศรษฐกิจที่กลับมาเฟื่องฟู อยากเห็นความเชื่อถือจากทั่วโลก ส่วนใหญ่คนจะบินกลับไปเพื่อใช้สิทธิในวันที่ 24 มี.ค. เพราะไม่มีใครอยากพลาดการเลือกตั้ง เพราะ 5 ปีแล้วที่ไม่ได้ไปใช้สิทธิ ต้องขอขอบคุณที่เวลากระชั้นชิดยังอุตส่าห์มาและกลับไปใช้สิทธิ ในฐานะคนไทยที่อยากเปลี่ยนแปลงประเทศ
      ขณะที่พรรคอนาคตใหม่ จัดงานปราศรัยใหญ่ที่อาคารกีฬาเวสน์ 1 ศูนย์เยาวชน ไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง โดยมีประชาชนซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ ทยอยเข้าร่วมฟังการปราศรัย เช่นเดียวกับสมาชิกพรรคกว่า 4,000 คน ร่วมรับฟัง โดยภายในงานมีการแจกป้ายไฟเรืองแสงเพื่อสนับสนุนผู้ปราศรัย
โดยเมื่อเวลา 20.55 น. นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค อนค. ขึ้นปราศรัยตอนหนึ่งว่า ทุกคนต่างประสบปัญหาตลอด 5 ปีที่ผ่านมา 4 ปี 10 เดือนที่แล้วหลังวันที่ 22 พ.ค.2557 ซึ่งคณะทหารนำโดย พล.อ.ประยุทธ์ ยึดอำนาจ ฉีกรัฐธรรมนูญ ตั้งตนเป็นรัฏฐาธิปัตย์ ใช้มาตรา 44 เสกกฎหมาย ขโมยอำนาจของประชาชนไปใช้กันเอง ทวงคืนก็ไม่ให้ อ้างปฏิรูปประเทศก่อน เอาคดีความมาให้อีก ซึ่งในวันที่ 24 มี.ค.มีเลือกตั้ง แต่อำนาจนั้นไม่สมประกอบ มี 250 ส.ว.ที่มาจากการแต่งตั้งอีก ถ้าปกติใช้เสียง ส.ส. 250 คน นายธนาธรเป็นนายกฯ ไปแล้ว 
    “การออกแบบกติกาแบบนี้ ต้องการใช้การเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค.นี้สืบทอดอำนาจ ถ้าไปเมืองนอกทำได้อย่างเดียว คือเอามือกุมเป้ากางเกง ไปไหนมาไหนไม่มีศักดิ์ศรี เพราะมาจากอำนาจปืน ตอนนี้จะขอชุบตัวขอเป็นนายกฯ หล่อๆ จากการเลือกตั้ง แต่พรรคจะส่ง พล.อ.ประยุทธ์กลับบ้านใน 3 ยุติ 1.ยุติการสืบทอดอำนาจของ คสช. 2.ยุติวงจรรัฐประหาร และ 3.ยุติการเมืองแบบเก่า” นายปิยบุตรกล่าว
    ส่วนพรรคเพื่อชาติจัดปราศรัยที่บริเวณหน้าห้างอิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคักเช่นเดียวกัน. 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"