22มี.ค.62- ที่จ.สุพรรณบุรี น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) และนายวราวุธ ศิลปอาชา ประธานกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ของพรรคฯ พร้อมพร้อมด้วยคุณหญิงแจ่มใส ศิลปอาชา มารดา ลงพื้นที่ช่วยนายสรชัด สุจิตต์ ผู้สมัคร ส.ส.จ.สุพรรณบุรี เขต 1 หาเสียง และเดินพบปะประชาชนบริเวณเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี
โดยน.ส.กัญจนา กล่าวว่า วันนี้ถือว่าเป็น 50 เมตรสุดท้าย ซึ่งที่ผ่านมาถือว่าประทับใจในทุกพื้นที่ที่ได้ไปช่วยผู้สมัครหาเสียง ได้สัมผัสทุกปัญหาที่ประชาชนสะท้อนมา และได้รับความเมตตาจากประชาชนเพื่อให้เกิดความสำเร็จในการเข้าไปเป็นผู้แทนรับใช้ประชาชน ส่วนเป้าหมายที่ตั้งไว้นั้น เราตั้งไว้ที่ 25-30 เสียง แต่จะทำได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชนด้วย สำหรับช่วงโค้งสุดท้ายนี้ตนอยากจะขอให้กำลังใจคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพราะเกือบ 8 ปีแล้ว ที่ประเทศไทยไม่ได้มีการเลือกตั้งมา อาจจะมีข้อบกพร่องข้อตำหนิบ้าง ก็ขอให้ กกต.ทำเต็มที่เพื่อให้การเลือกตั้งออกมาเป็นที่ยอมรับของประชาชน
น.ส.กัญจนา กล่าวว่า สำหรับการแข่งขันในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี พรรค ชทพ.ไม่เคยหวั่นใจกับพื้นที่นี้ แต่เราก็ไม่ประมาท โดยหัวหน้าพรรคได้ลงพื้นที่เองทุกเขตเลือกตั้ง หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะได้ยกทั้งจังหวัดเพื่อสืบสานงานต่อจากที่นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกฯ เคยทำไว้ สำหรับในเขตเลือกตั้งที่ 3 ที่เป็นเหมือนศึกช้างชนช้าง ระหว่าง นายจองชัย เที่ยงธรรม ผู้สมัคร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย และนายประภัตร โพธสุธน ผู้สมัคร ส.ส.พรรคชทพ.นั้น ตนไม่หนักใจ เพราะพรรค ชทพ.อยู่ในใจพี่น้องชาวสุพรรณบุรีมาเป็นอันดับแรกอยู่แล้ว ซึ่งยากมากที่พรรคไหนจะเข้ามาแทรกกลางได้ เช่นเดียวกับเขตเลือกตั้งที่ 4 ของนายเสมอกัน เที่ยงธรรม ที่เคยถูกนายสหรัฐ กุลศรี ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย เจาะพื้นที่ได้ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2554 ซึ่งตนมั่นใจในตัวนายเสมอกัน เพราะที่ผ่านมาก็มีการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ประมาทเช่นกัน
หัวหน้าพรรคชทพ.กล่าวกรณีที่นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ออกมาระบุว่าไม่จำเป็นที่พรรคชนะการเลือกตั้งเป็นอันดับ 1 จะได้สิทธิจัดตั้งรัฐบาลก่อน ว่า ที่ผ่านมาเคยมีรัฐบาลพรรคเดียวแค่ครั้งเดียวเท่านั้น นอกจากนั้นเป็นรัฐบาลผสมทั้งหมด ซึ่งรัฐธรรมนูญ ปี 2560 ออกแบบให้มีรัฐบาลผสมที่มีมากกว่า 1 พรรคด้วย เชื่อว่าพรรคที่ได้อันดับ 1 พยายามหาพันธมิตรเพื่อจัดตั้งรัฐบาลอย่างเต็มที่ แต่ก็มีพรรคอื่นที่จะจัดตั้งรัฐบาลให้ได้เหมือนกัน ตนจึงอยากให้กำลังใจกับทุกพรรค ส่วนเราเป็นพรรคขนาดกลางถึงขนาดเล็ก ก็จะคอยดูพรรคใหญ่ๆรวบรวมเสียง โดยบุคลิกของเราเป็นพรรคที่เจียมตัว ไม่กล้าตั้งเงื่อนไขในการขอเข้าร่วมรัฐบาลกับใคร ทั้งนี้ ปัจจุบันยังไม่มีพรรคไหนมาทาบทาม หรือติดต่อมาแต่อย่างใด แต่สำหรับพรรค ชทพ. การที่จะเลือกไปอยู่กับพรรคใดนั้น จะต้องเป็นพรรคที่ให้เราได้ทำตามนโยบายที่เราได้นำเสนอไว้กับประชาชน
เมื่อถามถึงกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ประกาศว่าถ้าพรรคตระกูลเพื่อชนะ ให้เตรียมตัวไปเจอกันที่ถนนราชดำเนินกันอีกครั้ง น.ส.กัญจนา กล่าวว่า ที่ผ่านมาประเทศบอบช้ำมามากแล้ว ขอให้ทุกคนเคารพกติกา การเดินออกมาบนท้องถนนบ่อยๆ ไม่ส่งผลดีต่อประเทศ เราควรเรียนรู้บทเรียนในอดีต ส่วนการให้ประชาชนออกมาเลือกข้างให้ชัดในการเลือกตั้งครั้งนี้นั้น ขอย้ำว่าเราจะไม่เลือกข้าง และขออย่าให้ประชาชนเลือกข้าง เพราะไม่เช่นนั้นจะทำให้เกิดความขัดแย้งตั้งแต่วันนี้ หากเรากลับไปแบบเดิมเราก็จะไม่สามารถก้าวข้ามความขัดแย้งได้ ซึ่งพรรคชทพ.ได้ชูนโยบายในการก้าวข้ามความขัดแย้งร่วมแรงปฏิรูปประเทศ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |