21 มี.ค. 62 - บริเวณสนามกีฬากลางจังหวัดนครพนม นายวิทยา อินาลา หัวหน้าพรรคเพื่อคนไทย  นายณพจน์ศกร ทรัพยสิทธิ์ เลขาธิการพรรค นายสุรพจน์ เพชรกรรพุม นายทะเบียนพรรค นางรัตนาภรณ์ คงพราหมณ์ รองหัวหน้าพรรค  นายอรรถสิทธิ์ (คันคาย ) ทรัพยสิทธิ์ ประธานที่ปรึกษาพรรค นายอลงกรณ์ มิลินทานุช นายสมพงษ์ อุมะวรรณ โฆษกพรรค พร้อมแกนนำคณะกรรมการบริหารพรรค และผู้สมัคร ส.ส.นครพนม ทั้ง 4 เขต  ขึ้นเวทีเปิดปราศรัยใหญ่ โดยมีประชาชนมาร่วมฟังจหลายพันคน

นายวิทยา  กล่าวก่อนจะขึ้นเวทีว่า ยุทธการป่าล้อมเมืองของพรรคเพื่อคนไทย 4 เดือนที่ผ่านมา บัดนี้สำเร็จเสร็จสิ้นแล้ว เชื่อมั่นในความมุ่งมั่นของลูกข้าวเหนียว ที่จะรวมตัวกันเหนียวแน่นเพื่อนำคนไทยให้หลุดพ้นจากวงจรแห่งความยากจน ตามสโลแกนพรรค คนไทยก้าวไกล ประเทศไทยก้าวหน้า  ชัดเจน ขอยืนยันเราทำได้และทำทันที คือ 1 ตำบล 1 สหกรณ์ 1 บริษัท และ กองทุนบำเหน็จบำนาญ เกษตรกร เกษตรกรต้องมีบัตรคนรวย

หัวหน้าพรรคเพื่อคนไทยกล่าวว่าประเดิมเปิดเวทีด้วยการแนะนำ 4 ผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 4 เขต จากนั้นนายอรรถสิทธิ์ คันคาย ทรัพยสิทธิ์ อดีต ส.ส.นครพนม 7 สมัย พร้อมเปิดใจถึงการพาน้องชายอีก 2 คน เข้าร่วมพรรคเพื่อคนไทย คือนายณพจน์ศกร ทรัพย์สิทธิ์ เลขาธิการพรรค และนายเข็มชาติ ทรัพยสิทธิ์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 เพราะนี่คือพรรคการเมืองของลูกหลานของคนจังหวัดนครพนมโดยแท้จริง “ใครจะชวนไปอยู่พรรคไหนก็ไม่ไป ผมจึงพาน้องๆมาอยู่พรรคนี้ทั้งโคตร” นายอรรถสิทธิ์กล่าวทิ้งท้าย

 นายวิทยา   กล่าวต่อว่าพรรคเพื่อคนไทยเป็นพรรคของชาวนครพนมและภาคอีสาน ในอดีตคนนครพนมได้เป็นนายกรัฐมนตรีมาแล้ว 2 คน คือ จอมพลสฤษดิ์  ธนะรัชต์ และ พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ  ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ตนจึงขอเสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 3 ของจังหวัดนครพนม เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย ถ้าอยากให้ตนเป็นนายกรัฐมนตรี ต้องเลือกพรรคเพื่อคนไทยให้มาก ๆ  พรรคเพื่อคนไทยเกิดขึ้นเพื่อแก้ปัญหาความยากจน มีนายกรัฐมนตรีมา 29 คน เคยทำนาหรือไม่ แต่ตนเคยเลี้ยงควาย ปลูกข้าว ทำนา จึงขอให้เลือกพรรคเพื่อคนไทยทั้ง 4 เขต ให้ตนเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 จะเข้าไปแก้ไขปัญหาความยากจน.