วานนี้ (๒๑ มีนาคม) จดจ่อกับทีวีสีช่อง ๓ 
    เขาจับ ๓ พรรคการเมืองมาดีเบตโค้งสุดท้ายกัน 
    มี จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์, สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์, ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
    ฟังจบคิดในใจ....ไม่พัฒนากันซะที 
    อยากจะเข้าใจว่าทำเพื่อคะแนนเสียง 
    แต่..คิดบ้างหรือเปล่า ใส่ฟืนให้ไฟลุกกันทำไม 
    จะพูดเรื่องนโยบาย ก็ว่าไป แบบนั้นชาวบ้านได้ประโยชน์ 
    แต่มาตามมาบี้กันว่า จะร่วมรัฐบาลกับใคร จะเอาใครเป็นนายกฯ ถามหน่อยเถอะ ไอ้ที่บอกว่าฝ่ายประชาธิปไตย เคารพประชาชนบ้างหรือเปล่า 
    ยังไม่เลือกตั้งยังไม่รู้ประชาชนจะเลือกใครได้เป็นแกนนำตั้งรัฐบาล จะมาตะบี้ตะบันถามกันทำไม 
    หรือถ้าได้คำตอบว่า สนับสนุน "ลุงตู่" เป็นนายกฯ ประเทศนี้มันจะเป็นเผด็จการกันหมดอย่างนั้นหรือ 
    ถ้าประชาธิปัตย์ไปจับมือกับพลังประชารัฐเป็นรัฐบาล ที่ผายลมกันว่าประชาธิปไตย จะไม่ยอมอย่างนั้นหรือ 
    ประชาชนที่เลือกพรรคประชาธิปัตย์ พลังประชารัฐ รวมพลังประชาชาติไทย ภูมิใจไทย ชาติไทยพัฒนา ชาติพัฒนา เป็นพวกเผด็จการทั้งหมดหรือ
    ฟังเสียงประชาชนที่เขาไม่เลือกพรรคเพื่อไทย อนาคตใหม่ บ้างหรือเปล่าว่า ทำไมเขาจึงอยากให้ "ลุงตู่" หรือไม่ก็ "พี่มาร์ค" เป็นนายกฯ 
    เลิกทีนิสัยผิดจากนี้ไม่ใช่เรา 
    โดยเฉพาะสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ จำเอาไว้ หลังเลือกตั้ง หากพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งถล่มทลาย แต่รวมเสียง ส.ส.พรรคแนวร่วมแล้วไม่เกิน ๒๕๐ เสียง   
    ก็ควรเปิดทางให้อีกฝ่ายตั้งรัฐบาล 
    ประชาธิปไตยในสากลเขาทำแบบนั้น 
    ถึงวันนั้นต้องแสดงสปิริตบอกกับประชาชนว่า ให้อีกฝ่ายจัดตั้งรัฐบาลแทน 
    ไม่ใช่พออำนาจหลุดมือแล้วทำเหมือนปี ๕๓
    ปลุกกันมาเผาบ้านเผาเมือง
    อีกฝ่ายก็เช่นกัน ถ้ารวมเสียงได้ไม่เกินครึ่ง ก็ต้องให้เพื่อไทยตั้งรัฐบาล 
    ไม่ใช่ดึงดันเอา ส.ว. ๒๕๐ คนโหวตเลือก "บิ๊กตู่" เป็นนายกฯ จนไม่ดูว่าอนาคตของรัฐบาลสั้นจู๋แค่เดือนสองเดือน 
    ครรลองการเมืองมันมีชัดเจน 
    ฉะนั้นอย่าฝืน.