ประกาศแล้วทำอย่างฉับไวภายในไม่กี่วัน "จาซินดา อาร์เดิร์น" นายกรัฐมนตรีหญิงของนิวซีแลนด์ออกคำสั่งห้ามการซื้อขายอาวุธปืนไรเฟิลจู่โจมและปืนกึ่งอัตโนมัติแบบที่ใช้ในกองทัพ โดยให้มีผลทันที ส่วนปืนที่มีอยู่รัฐตั้งงบ 4,380 ล้านซื้อคืนจากประชาชน

จาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีหญิงของนิวซีแลนด์ แถลงข่าวที่รัฐสภาในกรุงเวลลิงตัน เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2562 / AFP

    การดำเนินการของรัฐบาลนิวซีแลนด์เป็นผลพวงจากการกราดยิงสังหารหมู่ชาวมุสลิม 50 ศพ ในมัสยิด 2 แห่ง ที่เมืองไครสต์เชิร์ชเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ซึ่งนายกฯ อาร์เดิร์นเคยประกาศไว้ว่า เหตุการณ์นี้คือการก่อการร้ายที่กลายเป็นวันอันมืดมนที่สุดของประเทศนี้ และปฏิญาณว่าจะเปลี่ยนแปลงกฎหมายอาวุธปืน

    อาร์เดิร์นกล่าวระหว่างการแถลงข่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคม 2562 ว่า วันที่ 15 มีนาคม เปลี่ยนประวัติศาสตร์ของนิวซีแลนด์ไปตลอดกาล และบัดนี้กฎหมายของนิวซีแลนด์จะเปลี่ยนไปด้วย รัฐบาลขอประกาศในนามของคนทั้งประเทศนี้ว่า วันนี้กฎหมายอาวุธปืนมีความเข้มงวดขึ้นและจะทำให้ประเทศนี้ปลอดภัยขึ้น

    "อาวุธปืนกึ่งอัตโนมัติทั้งหมดที่ใช้ในการโจมตีก่อการร้ายเมื่อวันศุกร์ที่ 15 มีนาคม จะเป็นสิ่งต้องห้าม" เธอกล่าว พร้อมกับคาดหวังว่า กฎหมายฉบับใหม่จะออกมาบังคับใช้ได้ภายในวันที่ 11 เมษายน และรัฐบาลจะเปิดโครงการซื้อคืนปืนต้องห้ามเหล่านี้ โดยคาดว่าจะใช้งบราว 200 ล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์ (4,380 ล้านบาท)

    รายงานของรอยเตอร์กล่าวว่า ตามคำสั่งห้ามนี้ อาวุธปืนกึ่งอัตโนมัติแบบทหาร (เอ็มเอสเอสเอ) และไรเฟิลจู่โจม ทุกชนิดเป็นสิ่งต้องห้าม เช่นเดียวกับอุปกรณ์ที่ใช้ดัดแปลงอาวุธให้กลายเป็นเอ็มเอสเอสเอ เช่น บัมพ์สต็อก และซองกระสุนความจุสูง

    ตามกฎหมายอาวุธปืนของนิวซีแลนด์ฉบับปัจจุบัน ใบอนุญาตครอบครองปืนแบบมาตรฐาน ประเภทเอ จำกัดให้ปืนกึ่งอัตโนมัติยิงได้เพียง 7 นัด แต่ภาพจากวิดีโอถ่ายทอดสดที่เบรนตัน ทาร์แรนต์ มือปืนชาวออสเตรเลียคลั่งคติคนขาวเป็นใหญ่ ถ่ายขณะก่อเหตุ ชี้ว่าเขาใช้ปืนกึ่งอัตโนมัติที่ดัดแปลงและมีซองกระสุนขนาดใหญ่

    ออสเตรเลียมีคำสั่งห้ามอาวุธปืนกึ่งอัตโนมัติ และเริ่มโครงการซื้อปืนคืนภายหลังเหตุการณ์สังหารหมู่ที่พอร์ตอาร์เธอร์ 35 ศพ เมื่อปี 2539 อาร์เดิร์นกล่าวว่า กฎหมายใหม่ของนิวซีแลนด์จะมีลักษณะคล้ายกับของออสเตรเลีย โดยจะเพิ่มข้อยกเว้นอย่างจำกัดให้แก่เกษตรกรที่จำเป็นต้องใช้ปืนในการควบคุมสัตว์ที่เป็นศัตรูทำลายพืชผลและเพื่อการสงเคราะห์สัตว์

    ประเมินว่า ประเทศที่มีประชากรไม่ถึง 5 ล้านคนแห่งนี้ มีอาวุธปืนราว 1.2-1.5 ล้านกระบอก ในจำนวนนี้ราว 13,500 กระบอก เป็นปืนชนิดเอ็มเอสเอสเอ

    เกษตรกรส่วนใหญ่ในประเทศนี้มีปืนใช้เพื่อฆ่าศัตรูพืชผล เช่น กระต่ายและพอสซัม และเพื่อสงเคราะห์สัตว์เลี้ยงที่เจ็บ การล่าสัตว์ เช่น กวาง, หมู และแพะ เพื่อสันทนาการและเพื่ออาหาร ก็เป็นกิจกรรมยอดนิยมเช่นกัน โดยมีสโมสรปืนและสนามยิงผุดทั่วประเทศ แต่ภายหลังการฆ่าหมู่ชาวมุสลิม กลุ่มตัวแทนเกษตรกรประกาศว่าพวกเขาสนับสนุนกฎหมายควบคุมอาวุธปืนฉบับใหม่ ถึงแม้ในอดีตจะเคยมีความพยายามล็อบบี้ขัดขวาง

    พรรคเนชั่นแนล ซึ่งเป็นพรรคแกนนำฝ่ายค้านและมีฐานเสียงจากชนบท ก็ประกาศสนับสนุนคำสั่งห้ามของรัฐบาลเช่นกัน

    โมฮัมเหม็ด ฟากีห์ สมาชิกกลุ่มครูสอนศาสนาอิสลามในสหรัฐที่เดินทางมาร่วมพิธีศพเหยื่อกราดยิงที่ไครสต์เชิร์ชเมื่อวันพฤหัสบดี กล่าวว่า เขาตื้นตันใจอย่างที่สุดกับคำสั่งห้าม และหวังว่าพวกผู้นำในสหรัฐจะก้าวตามรอยเท้าของอาร์เดิร์นและทำแบบเดียวกัน โดยเฉพาะเมื่อคำนึงถึงประวัติศาสตร์การกราดยิงฆ่าหมู่ในสหรัฐ

    เหยื่อกราดยิงรายแรกได้รับการบรรจุฝังเมื่อวันพุธ และวันพฤหัสบดีมีนักเรียนชายอีกคนได้รับการประกอบพิธี คาดว่าพิธีฝังศพหมู่จะจัดในวันศุกร์ โดยอาร์เดิร์นจะร่วมพิธีสวดและสงบนิ่งไว้อาลัยที่สวนสาธารณะตรงข้ามกับมัสยิดอัลนูร์ด้วย.