21 มี.ค. 62 - ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา กรุงเทพฯ มีการจัดเวทีแสดงวิสัยทัศน์และประกาศจุดยืนในหัวข้อ “พรรคเล็กคิดการใหญ่ ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม” จัดขึ้นโดย 5 พรรคการเมืองร่วมกัน ได้แก่ พรรคเกียน พรรคกลาง พรรคกรีน พรรคคนธรรมดาแห่งประเทศไทย และพรรคสามัญชน โดยมีนายสมบัติ บุญงามอนงค์ ผู้ก่อตั้งพรรคเกียน (ยังจัดตั้งไม่เสร็จสิ้น) เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
นายชุมพล ครุฑแก้ว หรือ ดร.จุ๋ง หัวหน้าพรรคกลาง กล่าวว่า พรรคตั้งใจให้เป็นเวทีกลาง รวมคนจากหลากหลายอาชีพ ไม่มีนายทุน ส่งผู้สมัคร ส.ส. จำนวน 44 เขต เกือบครึ่งเป็นเกษตรกร ตนเคยประกาศเชิญชวนให้ ส.ว. 250 งดออกเสียง พรรคเราไม่สนับสนุนความแตกแยกที่พยายามแบ่งคนเป็น 2 กลุ่ม เราจะทำหน้าที่ตรวจสอบและถ่วงดุล ไม่ใช่ค้านอย่างเดียว ถ้ารัฐบาลทำถูกก็สนับสนุน เป็นกลางบนความถูกต้อง และสนับสนุนประชาธิปไตยร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่สนับสนุนการนำมวลชนด้วยอารมณ์ เราไม่เห็นด้วยทั้งเผด็จการทหารและเผด็จการรัฐสภา นโยบายหลักคือจะทำประชาธิปไตยทางตรง ถ้าได้ ส.ส. เราจะเปิดช่องทางรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนเพื่อนำไปอภิปรายในสภา
นายพงศา ชูแนม หัวหน้าพรรคกรีน เสนอว่า พรรคกรีนเป็นพรรคสิ่งแวดล้อม เป็นวัฒนธรรมกรีน เหนือชั้นกว่าเผด็จการและมากกว่าประชาธิปไตย เพราะวัฒนธรรมนี้จะอยู่กับมนุษยชาติยาวนาน มุ่งหมายไปสู่ความเป็นธรรม ความเป็นธรรมสูงกว่าทุกสิ่งทุกอย่าง คือไม่เอาเปรียบคนอื่น และไม่ให้คนอื่นเอาเปรียบ นโยบาย 4 ข้อของเรา ตรงข้ามกับนโยบายรัฐบาลเผด็จการและรัฐบาลอำนาจนิยม คือ 1.เราจะออกบัตรคนรวย 2.ที่ทำกินถูกต้องเป็นธรรม 3.ทำเกษตรสุขภาพ 4.ใช้สภาประชาธรรม กำกับควบคุมรัฐบาลผ่านแอพพลิเคชั่น
ด้าน นายเลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ หัวหน้าพรรคสามัญชน กล่าวถึงแนวทางผลักดันนโยบายที่สามารถทำได้ทั้งในสภา อีกด้านคือนโยบายแทรกซึมโดยขบวนการเคลื่อนไหวของประชาชน พัฒนาชีวิตของประชาชน เกือบ 5 ปีที่ปกครองด้วยคณะรัฐมนตรีและสภาที่ไม่มาจากการเลือกตั้ง ไม่ยึดโยงความนึกคิดต้องการของประชาชน ประชาชนจะให้ผู้แทนนำอำนาจไปใช้ก็โดยการเลือกตั้ง ในครั้งนี้มาจากการทุ่มเททำงานของประชาชนเสี่ยงติดคุกตะรางเรียกร้องการเลือกตั้ง จึงเป็นการเลือกตั้งที่สำคัญมาก ขอให้เลือกพรรคที่ศรัทธาประชาชน ถ้าเลือกพรรคเอาทหาร อำนาจอธิปไตยของปวงชนจะถูกทำลายอีกครั้ง ส่วนพรรคกั๊กต้องดูนโยบาย ถ้าเมินเฉยเรื่องเสรีภาพก็อย่าเลือก เผด็จการกลัวฝ่ายค้านเข้มแข็ง ดังนั้น บันไดขั้นแรกต้องทำให้ฝ่ายค้านเข้มแข็ง ภารกิจพรรคเล็กต้องเป็นฝ่ายค้านเข้มแข็ง เปลี่ยนรัฐเผด็จการเป็นรัฐสวัสดิการ
ส่วน นายธนพร ศรียากูล หัวหน้าพรรคคนธรรมดาแห่งประเทศไทย ปราศรัยว่า กระบวนการข่มขู่การใช้อำนาจประชาชนเกิดขึ้นแล้ว เหมือนจะซ้ำรอยรัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 เราจะไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก 24 มี.ค. นี้ เดินเข้าคูหากันให้เยอะ เพื่อไม่ยอมเป็นตัวประกัน เรามีจุดยืนชัดเจนไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่ไม่เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย วันที่ 24 มี.ค. มีความหมายถึงสิทธิเสรีภาพที่สูญหายไปกว่า 5 ปี จะไม่ยอมให้ถูกขโมยไปอีกแล้ว คนเป็นนายกฯ ถ้าไม่เป็น ส.ส. จะไม่เห็นหัวประชาชน 5 ปีนี้พิสูจน์ด้วยประสบการณ์โดยตรงได้ ที่ประชาชนหายไปจากพื้นที่การเมือง รัฐธรรมนูญ 2560 ที่อ้างว่าผ่านประชามติ แต่ตอนนั้นใครมีสิทธิพูดอะไร ใครพูดต้องเอาไปปรับทัศนคติ กระบวนการสร้างรัฐธรรมนูญต้องให้คนมีโอกาสพูดวิจารณ์ แต่รัฐธรรมนูญนี้ไม่มีเลย จะต้องถูกแก้ไขโดยเร่งด่วน ยิ่งปล่อยรัฐธรรมนูญนี้ไว้ยิ่งเดือดร้อน ทะเลาะกันและผูกขาดอำนาจ และต้องยกเลิกยุทธศาสตร์ชาติ กฎหมายที่ลิดรอนสิทธิเสรีภาพ คำสั่ง คสช. ทุกฉบับ ก้าวข้ามไม่ได้ เพราะมันคือกองไฟเผาอนาคตประเทศไทย
จากนั้นจึงมีการอ่านแถลงการณ์ร่วมของพรรคเล็กที่คิดการใหญ่ ไม่เอาสืบทอดอำนาจ โดย น.ส.ชุมาพร แต่งเกลี้ยง รองหัวหน้าพรรคสามัญชน ว่า วันนี้ (21 มีนาคม 2562) พรรคการเมืองขนาดเล็ก 5 พรรค ได้แก่ พรรคเกียน พรรคกลาง พรรคคนธรรมดา พรรคกรีน และพรรคสามัญชน ได้ร่วมกันแถลงจุดยืนเพื่อต่อต้านการสืบทอดอำนาจของรัฐบาล คสช. ปฏิเสธรัฐธรรมนูญที่มาโดยมิชอบ และการใช้ ส.ว. 250 คน ในการเลือกนายกรัฐมนตรี เนื่องจากขัดหลักการประชาธิปไตย
พรรคการเมืองขนาดเล็ก 5 พรรค ที่มารวมกัน ณ ทีนี้ ได้แก่ พรรคเกียน พรรคกลาง พรรคคนธรรมดา พรรคกรีน และพรรคสามัญชน ขอประกาศจุดยืนว่า เราจะไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่าในกรณีใด ๆ ทั้งสิ้น และเราจะไม่เข้าร่วมกับพรรคการเมืองที่สนับสนุนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นที่ปรากฏชัดว่า รัฐบาล คสช. ขาดความชอบธรรมในการบริหารประเทศ ทำลายสิทธิมนุษยชน และหลักการประชาธิปไตย มาโดยตลอดนับตั้งแต่การยึดอำนาจ
เรายังขอยืนยันในหลักการพื้นฐานที่ว่า การแต่งตั้งหัวหน้ารัฐบาล จะต้องมาจากเสียงของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้งเท่านั้น สมาชิกวุฒิสภาทั้ง 250 คน ที่ถูกแต่งตั้งขึ้นมาโดยคณะรัฐบาลทหารไม่ควรมีบทบาทในการเลือกนายกรัฐมนตรีไม่ว่าในกรณีใด ๆ ทั้งสิ้น
และหลังจากแต่งตั้งรัฐบาลที่มาจากประชาชนได้แล้ว เราจะขอเรียกร้องและผลักดันให้มีการยกเลิกรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2560 และร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ขึ้นมาโดยทันที เนื่องจากรัฐธรรมนูญที่ถูกใช้อยู่ในปัจจุบัน ขาดความชอบธรรมทั้งที่มาและเนื้อหา ซึ่งอาจเป็นเงื่อนไขนำไปสู่ความขัดแย้งทางการเมืองได้ในอนาคต
พรรคการเมืองทั้ง 5 พรรค แม้ว่าจะเป็นพรรคการเมืองขนาดเล็ก แต่เราขอเป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่โดยปราศจากการสืบทอดอำนาจของเผด็จการ เพื่อนำประเทศไปสู่ระบอบประชาธิปไตยที่ยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ
ประเทศไทยจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |