เมื่อวันที่ 20 มี.ค. นายอนุชา นาคาศัย ประธานยุทธศาสตร์ภาคกลาง และผู้สมัครส.ส.ชัยนาท เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ  ลงพื้นที่หาเสียงและปราศรัย บ้านหนองพังนาก ต.เสือโฮก อ.เมือง จ.ชัยนาท โดยมีพี่น้องประชาชนในพื้นที่ให้การต้อนรับและฟังปราศรัยจำนวนมาก

จากนั้น นายอนุชา และคณะเดินทางไปยังอ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ โดยมี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐ มาร่วมงานด้วย เพื่อพบปะพี่น้องประชาชนและช่วยผู้สมัครส.ส.นครสวรรค์หาเสียง โดยมีประชาชนรอต้อนรับอย่างคึกคัก

นายอนุชา กล่าวปราศรัย ว่า พรรคพลังประชารัฐจะต่อยอดโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยการเพิ่มผู้ได้รับสิทธิให้มากขึ้น รวมทั้งสิทธิอีกหลายอย่างที่จะเพิ่มขึ้น เช่น เพิ่มเงิน นี่คือสิ่งที่ลุงตู่เห็นว่าควรดูแลพี่น้องที่รายได้น้อยและเป็นการให้กำลังใจคนไทยทั้งประเทศ นอกจากนี้โครงการเรื่องข้าว ที่ปรับราคาให้ดีขึ้น ช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยว ค่าปลูก เราเล็งเห็นว่าพี่น้องเกษตรกรเป็นคนสำคัญของแผ่นดินนี้ เงินบาทแรกของแผ่นดินนี้มาจากพี่น้องเกษตรกร เมื่อเรารู้แบบนี้ถ้าไม่มีเงินบาทแรก ในตลาดนี้ใครจะมีเงินไปซื้อ ต่อไปนี้รัฐบาลต้องดูแลเกษตรกรให้มีรายได้เพียงพอที่จะใช้หนี้ และมีพอมาจับจ่ายใช้สอย ประเทศเรามีไม่กี่จังหวัดที่เป็นพื้นที่อุตสาหกรรม แต่คนอีก 60-70 จังหวัดเป็นเกษตรกร ประเทศยังพึ่งพาเงินบาทแรกจากเกษตรกร หากเกษตรกรมีเงินจะทำได้ประเทศจะได้หลุดพ้นจากความยากจน ถือว่าเกษตรกรเป็นเส้นเลือดใหญ่ของประเทศ แต่รัฐบาลที่ผ่านๆมาทำไมถึงปล่อยให้ชาวนาเป็นหนี้ หากเป็นแล้วยังมีคนเป็นหนี้เยอะอย่าเป็นเลยรัฐบาล

“เราคิดเพื่อให้คนไทยได้มองเห็นแสงสว่างแห่งชีวิต นี่คือตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ผมอยู่ในพื้นที่เกษตรกรรมมาตั้งแต่เกิด คิดถึงพี่น้องชาวไร่ชาวนาที่เป็นหนี้เป็นสิน ว่าเมื่อเราได้เป็นตัวแทนพวกเขาแล้วเราจะช่วยยังไงได้บ้าง นอกจากนโยบายพักชำระหนี้กองทุนหมู่บ้าน หากเราเป็นรัฐบาลแล้วมีเศรษฐกิจที่ดี เราจะยกเลิกหนี้กองทุนหมู่บ้านให้ พรรคพลังประชารัฐต้องการสร้างเด็กที่เก่ง จึงมีโครงการมารดาประชารัฐ เพื่อช่วยค่าเลี้ยงดูจนถึง 6 ขวบ มีหลายสิ่งที่เราดำเนินงานมาโดยนึกถึงคนส่วนใหญ่ของประเทศให้หลุดพ้นความยากจน หากพรรคพลังประชารัฐเป็นรัฐบาล 4  ปีแล้วพี่น้องเกษตรกรยังลืมตาอ้าปากไม่ได้ ผมขอย้ำอีกครั้งว่าผมจะเลิกเล่นการเมืองตลอดชีวิต” นายอนุชา กล่าว

นายอนุชา กล่าวอีกว่า นโยบายของพรรคพลังประชารัฐ เป็นการใช้ความคิดเห็นจากหลายกลุ่ม จากผู้มีความสามารถและผู้มีประสบการณ์จริงไม่ต้องห่วงว่านโยบายจะไม่ตรงจุด ดังนั้นพวกเราต้องร่วมมือกันปลดทุกข์ให้กับตัวเองและประเทศไทย เรื่องนโยบายข้าวนั้นเรายืนยันว่าของเราปลอดการทุจริต ไม่เหมือนของพรรคอื่นที่มีช่องในการทุจริตเยอะมาก การประกันราคาข้าวและการจำนำข้าว 15,000 บาท  ดีแต่เจ๊งและเราเห็นแล้วว่าเกิดการทุจริตจำนวนมากมีการดำเนินคดีมากมายไปหมด และเงินไม่ถึงชาวนาถือว่าผิดหลักการ ดังนั้นขอย้ำว่านโยบายข้าวของพรรคพลังประชารัฐ ทำได้จริงทำได้เลย เงินถึงมือชาวนาและพรรคพลังประชารัฐจะทำให้ราคาข้าวไม่ต่ำกว่าเกวียนละ 12.000 บาท