ขอนแก่นเจอพายุฤดูร้อน บ้านเรือนราษฎรหลังคาปลิว เสียหาย 70 หลัง ส่วนที่ตราด ชาวสวนผลไม้ชุมนุมหน้าศาลากลาง จี้ผู้ว่าฯ ประกาศเขตภัยพิบัติเพื่อใช้งบฉุกเฉินช่วยเหลือด่วน หลังประสบภัยแล้งใน 3 อำเภอ ไม้ผลที่กำลังออกลูกใกล้จะยืนต้นตาย ปภ.เผย ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษเผชิญภัยแล้ง
    เมื่อวันที่ 20 มีนาคมนี้ พันจ่าอากาศเอกชัยณรงค์ กัณหา นายก อบต.บ้านขาม อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายบ้านเรือนประชาชน หลังเกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มพื้นที่ ต.บ้านขาม บ้านเรือนได้รับความเสียหายจำนวนมาก โดยเฉพาะที่หมู่บ้านสำโรง หมู่ 11 และหมู่ 12 มีบ้านเสียหายประมาณ 70 หลัง รวมไปถึงบ้านพักครูและโรงสีข้าวของชุมชน
    นางทองดี บุตรลานช้าง อายุ 68 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60 หมู่ 11 บอกว่า เมื่อช่วงกลางดึกของคืนที่ผ่านมา ได้ยินเสียงฟ้าร้องดังสนั่น จากนั้นมีลมพัดแรงจนยกเอาหลังคาบ้านปลิวไปทั้งแถบ ไปตกใส่หลังคาบ้านของเพื่อนบ้านที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 30 เมตร 
    นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 18-20 มี.ค.นี้ มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากวาตภัย 9 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์ กำแพงเพชร เลย ลำปาง แพร่ พะเยา ลำพูน อุตรดิตถ์ และน่าน รวม 16 อำเภอ 31 ตำบล 71 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 595 หลัง ผู้เสียชีวิต 1 ราย     
    ในส่วนของพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง นายชยพลกล่าวว่า ขณะนี้มีจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) จำนวน 2 จังหวัด 5 อำเภอ 7 ตำบล 53 หมู่บ้าน ได้แก่ ร้อยเอ็ด ในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสรวง และอำเภอสุวรรณภูมิ รวม 2 ตำบล 10 หมู่บ้าน, ศรีสะเกษ ในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองจันทร์ อำเภอขุขันธ์ และอำเภอไพรบึง รวม 7 ตำบล 43  ปภ.อยู่ระหว่างประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือ
    ที่ศาลากลางจังหวัดตราด นายศุภมิตร ชินศรี รอง ผวจ.ตราด เป็นประธานประชุมแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำใน 3 อำเภอ มีนายอำเภอบ่อไร่ นายอำเภอเขาสมิง และนายอำเภอเมือง รวมทั้งนายก อบต.กว่า 20 ตำบล และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้ง ปภ.ตราด, ชลประทาน ร่วมประชุม ทั้งนี้ เนื่องจากใน 3 อำเภอดังกล่าวประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ ส่งผลกระทบต่อผลไม้ที่กำลังออกผล ซึ่งหากไม่ได้น้ำจะทำให้ต้นไม้ตายได้ 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของผู้บริหารท้องถิ่นต้องการให้มีการประกาศเขตภัยพิบัติเพื่อนำงบประมาณฉุกเฉินมาแก้ปัญหา แต่ทางจังหวัดเห็นว่าน่าจะใช้งบป้องกันก่อน เกิดการถกเถียงจนบรรยากาศเริ่มตึงเครียด ขณะที่บริเวณหน้าศาลากลาง ชาวสวนผลไม้จากอำเภอเขาสมิงจำนวนกว่า 500  คน ได้ชุมนุมขอพบ ผวจ.ตราด ให้ช่วยแก้ปัญหาภัยแล้งโดยเร็ว
    ต่อมา นายศุภมิตร ชินศรี รอง ผวจ.ตราด ออกมาพบชาวบ้าน แต่ผู้ชุมนุมเรียกร้องที่จะพบกับ ผวจ.พร้อมกับโห่ไล่นายศุภมิตร กระทั่งในที่สุดทางจังหวัดตกลงที่จะประกาศเขตภัยพิบัติเพื่อช่วยชาวสวนผลไม้ พร้อมจะประสานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อทำฝนเทียมด้วย ชาวบ้านพอใจจึงยอมสลายตัว.