ศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุก 10 ปี นักธุรกิจด้านการเกษตรชาวสุราษฎร์ธานี บุกรุก 2 เกาะปลูกมะพร้าวกะทิและปาล์มน้ำมัน ในเขตอุทยานเขาแหลม กาญจนบุรี
    เมื่อวันที่ 20 มีนาคมนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลอุทธรณ์ภาค 7 อ่านคำพิพากษาแก้คดีบุกรุกเกาะมะพร้าวกะทิ ตั้งอยู่กลางอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ (เขื่อนเขาแหลม) เขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี โดยมีจำเลย 3 คน คือ จำเลยที่ 1 นายตาแหล่ ไม่มีนามสกุล อายุ 36 ปี มีคำสั่งยกฟ้อง จำเลยที่ 2 นายโจติน ไม่มีนามสกุล อายุ 48 ปี มีคำสั่งยกฟ้อง และจำเลยที่ 3 นายจิตติ รัตนเพียรชัย อายุ 77 ปี นักธุรกิจเกี่ยวกับการเกษตรชาวสุราษฎร์ธานี และเป็นนายจ้างของจำเลยที่ 1-2 ศาลอุทธรณ์ลดโทษเหลือจำคุก 5 ปี  
    ส่วนคดีบุกรุกเกาะปาล์มน้ำมัน ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษาแก้ให้นายจิตติ ซึ่งเป็นจำเลยที่ 1 เหลือโทษจำคุก 5 ปี รวมคดีบุกรุกเกาะมะพร้าวกะทิ และคดีบุกรุกเกาะปาล์มน้ำมัน นายจิตติถูกจำคุกรวม 10 ปี ส่วนจำเลยที่เป็นคนงานของนายจิตติทั้งหมด ศาลอุทธรณ์ภาค 7 ตัดสินยกฟ้องคดีบุกรุกทั้งสองเกาะ  
    สืบเนื่องจากช่วงเดือนเมษายน 2559 นายเทวินทร์ มีทรัพย์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม นำกำลังเจ้าหน้าที่อุทยานฯ พร้อมทหาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ สภ.สังขละบุรี เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.กาญจนบุรี และ ตชด.ที่ 134 เข้าตรวจค้นเกาะมะพร้าวกะทิ เนื้อที่ 339 ไร่ ตั้งอยู่กลางอ่างเก็บน้ำเขื่อนเขาแหลม จับกุมคนงาน 2 คน ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี ต่อมานายจิตติเข้ามอบตัวสู้คดี โดยยอมรับเป็นเจ้าของเกาะมะพร้าวกะทิ เพื่อปลูกมะพร้าวกะทิทั้งเกาะจำนวนหลายพันต้น และเป็นนายจ้างของคนงานที่ถูกจับ
    นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเข้าตรวจค้นเกาะปาล์มน้ำมัน เนื้อที่ 230 ไร่ ตั้งอยู่กลางอ่างเก็บน้ำเขื่อนเขาแหลม จับกุมคนงาน 4 คน ส่งให้ตำรวจ สภ.สังขละบุรี หลังจากนั้นนายจิตติเข้ามอบตัวสู้คดี โดยยอมรับว่าเป็นเจ้าของเกาะปาล์มน้ำมัน เพื่อปลูกปาล์มน้ำมัน และเป็นนายจ้างของคนงานที่ถูกจับ
    ต่อมาศาลชั้นต้นตัดสินจำคุกจำเลยทั้งหมดคนละ 30 ปี จนกระทั่งศาลอุทธรณ์ภาค 7 มีคำพิพากษาแก้ ให้ยกฟ้องคนงานทั้งหมด ส่วนนายจิตติลดโทษจำคุกเหลือ 10 ปี.