"สท.ขอนแก่น" ดับเครื่องชน "นายกเทศมนตรี" หอบเอกสารหลักฐานสาวไส้คณะผู้บริหารใช้อำนาจมิชอบด้วยกฎหมาย นำที่ราชพัสดุใจกลางเมืองไปจัดหาผลประโยชน์เชิงพาณิชย์ โดยให้นายทุนติดตั้งป้ายโฆษณาจอแอลอีดีมานานกว่า 5 ปี เคยท้วงติงมาตลอดแต่ไม่เป็นผล ล่าสุดกรมธนารักษ์สั่งรื้อป้ายโฆษณาพร้อมปรับพื้นที่ให้คงสภาพเดิมภายใน 90 วัน
19 มี.ค.62 - นายธนภณ กิตติวิมลชัย สมาชิกสภาเทศบาล (สท.) นครขอนแก่น นำเอกสารหลักฐานคำสั่งของกรมธนารักษ์ เรื่องการติดตั้งป้ายโฆษณาแบบจอไฟ LED ในที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ ขก.3 และ เอกสารรวมกว่า 100 หน้า เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชนเพื่อร้องขอความเป็นธรรม จากการดำเนินงานของนายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น จากการใช้อำนาจโดยมิชอบและกระทำผิดกฎหมายทั้งที่ถูกสมาชิกสภาฯท้วงติงหลายครั้ง จนกระทั่งมีคำสั่งที่ชัดเจนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสั่งระงับโครงการดังกล่าวที่เทศบาลฯดำเนินการมานานกว่า 5 ปี และอาจจะส่งผลให้สวนสาธารณะประตูเมืองที่เป็นที่ราชพัสดุและเป็นหัวใจสำคัญของคนเมืองขอนแก่นนั้นตกไปเป็นของนายทุนในอนาคต
นายธนภณ กล่าวว่า ที่ดินสาธารณประโยชน์รวม 20 ไร่ บริเวณสวนสาธารณะประตูเมืองเขตเทศบาลนครขอนแก่น เดิมเป็นของบริษัทเอกชนรายใหญ่ที่ได้มอบให้ทางราชการเมื่อปี 2497 โดยมีหนังสือรับรองสำหรับที่หลวงเลขที่ ขก.1640 และ หนังสือสัญญาให้ที่ดิน ที่ 1/46 ลงวันที่ 8 ก.ย.2497 ซึ่งที่ดินดังกล่าวได้กลายเป็นที่ราชพัสดุ กระทรวงการคลัง โดยกรมธนารักษ์ได้มอบให้กรมวิชาการเกษตรได้ใช้ประโยชน์
ต่อมาในปี 2548 ขณะที่นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธ์ รองนายกเทศมนตรีนครขอนแก่นในขณะนั้น ได้ขออนุญาตใช้พื้นที่ในที่ดินแปลงดังกล่าวจัดทำสวนสาธารณะโดยสงวนไว้ใช้ประโยชน์ในทางราชการและให้ประชาชนได้ใช้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ โดยห้ามนำไปจัดหาประโยชน์จากที่ที่ดินดังกล่าว แต่ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 28 ม.ค.2557 นายธีระศักดิ์ ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครขอนแก่น ได้ประชุมร่วมในการประชุมจัดหาประโยชน์เบื้องต้นในทรัพย์สินของเทศบาลนครขอนแก่น ครั้งที่ 1/2557 โดยในรายการประชุมหน้าที่ 25 หัวข้อระเบียบวาระอื่นๆ มีการเสนอเรื่องขอสิทธิ์ปรับปรุงหอดับเพลิงเทศบาลนครขอนแก่นเพื่อติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์แบบจอ LED เนื่องจากมีเอกชนให้ความสนใจ แต่นายธีระศักดิ์กลับเสนอให้มีการจัดหาประโยชน์ติดตั้งป้ายโฆษณาในที่ดินราชพัสดุ ที่บริเวณสวนสาธารณะประตูเมืองทั้งที่ไม่ได้มีการกล่าวถึงในรายงานหรือวาระการประชุมแต่อย่างใด จากนั้นก็มีการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างทันที ทั้งๆที่บริษัทเอกชนที่มอบที่ดินให้กับทางราชการมีการสลักหลังฉโนดและลงในเอกสารชัดเจนว่า ห้ามนำที่ดินแปลงนี้ไปจัดหาประโยชน์โดยเด็ดขาด
สท.ขอนแก่น กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2557 ตนต่อสู้เรื่องนี้โดยท้วงติงมาตลอด ทั้งในการประชุมสภาเทศบาลฯและสอบถามส่วนตัว แต่คณะผู้บริหารก็ยังคงเดินหน้าจัดซื้อจัดจ้างทำการประมูล จนกระทั่งได้บริษัทฯผู้รับเหมาให้ติดตั้งป้ายโฆษณาในจุดดังกล่าวตั้งแต่ปี 2557 ถึงปัจจุบัน จนกระทั่งเมื่อการประชุมในเดือน ส.ค.2561 ตนได้ยื่นกระทู้ถามอีกครั้งแต่กลับกลายเป็นว่าในที่ประชุมไม่พร้อม หรือมีการวอร์คเอาท์ทำให้ประชุมล่ม ตนจึงตัดสินใจยื่นเรื่องร้องเรียนด้วยการเดินหน้าสู้คนเดียวในการหาเอกสารหลักฐานต่างๆและยื่นเรื่องไปยังศาลคดีทุจริตภาค 4 , ปปช. , คสช. , สำนักนายกรัฐมนตรี , ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ในฐานะกำกับดูแล อปท. รวมทั้งกรมธนารักษ์ ในเดือน ธ.ค.2561
จนกระทั่งในวันที่ 1 มี.ค.2562 ที่ผ่านมา กรมธนารักษ์ได้ตอบหนังสือกลับการร้องเรียนและมีคำสั่งไปยังนายกเทศมนตรีนครขอนแก่น ให้ยุติการใช้ประโยชน์ป้ายดังกล่าวและรื้อถอนป้ายโฆษณาออกจากที่ราชพัสดุ พร้อมทั้งการปรับพื้นที่ให้คงสภาพเดิมให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน โดยเหตุผลชัดเจนว่า ที่ดินราชพัสดุบริเวณสวนสาธารณะประตูเมืองนั้นเป็นการยกให้ ซึ่งทางราชการยังคงมีพันธะที่ต้องใช้ประโยชน์ในที่ดินให้เป็นไปตามเงื่อนไข
นายธรภณ กล่าวต่ออีกว่า การตัดสินใจสู้กับเรื่องที่ไม่ถูกต้องเกิดขึ้นมานานกว่า 5 ปีนั้น ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองแต่อย่างใด แต่เป็นการทำหน้าที่ในฐานะสมาชิกสภาฯและในฐานะของคนขอนแก่นที่ต้องการให้สวนสาธารณะประตูเมืองแห่งนี้อยู่คู่กับชุมชนต่อไป ซึ่งกรมธนารักษ์เป็นหน่วยงานแรกที่ตอบกลับชัดเจนว่า ทำไม่ได้ แต่ทำไม 5 ปีที่ผ่านมา ที่คณะผู้บริหารนั้นทราบอยู่แล้วว่า เจ้าของที่ดินห้ามนำไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ เพราะหากผิดเงื่อนไข ทายาทโดยชอบธรรมของเจ้าของที่ดินสามารถที่จะยื่นเรื่องขอที่ดินกลับคืนมาได้
"วันนี้ชัดเจนว่าว่าเทศบาลโดยคณะผู้บริหารนั้นกระทำการโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งจากนี้ไปเทศบาลฯคงต้องทำตามที่กรมธนารักษ์สั่งการมา สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปคือ การดำเนินคดีทั้งอาญาและทางวินัย"
สท.ขอนแก่น กล่าวอีกว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเองไม่อยากที่จะมองว่าใครได้ประโยชน์และเสียประโยชน์ในเรื่องนี้ เพราะค่าเช่าติดตั้งป้ายและค่าภาษีป้ายนั้นปีละประมาณ 2 ล้านบาทที่บริษัทฯจะต้องจ่ายให้กับเทศบาลฯ เรื่องนี้ก็ต้องชี้แจงกันไป ส่วนการออกมาต่อสู้เพื่อเรียกร้องสิทธิให้กับคนขอนแก่น การให้มีปอดใจกลางเมืองนั้นได้อยู่คู่กับชุมชนจากรุ่นสู่รุ่น โดยไม่อยากจะคิดว่าพื้นที่ตรงนี้หากประเมินเป็นมูลค่าก็ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาทที่ถือเป็นย่านทำเลทองในการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้ารางเบาผ่านในจุดดังกล่าว
ขณะที่นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแกน กล่าวว่า ขอไม่ให้สัมภาษณ์ประเด็นนี้ เนื่องจากเรื่องยังไม่จบ เป็นการร้องเรียนจากฝ่ายตรงข้ามเพื่อทำลายตัวเองในฐานะนายกฯซึ่งจะขอให้รายละเอียดเรื่องดังกล่าวอีกครั้งในภายหลัง
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |