“ประยุทธ์” เดินสายเช้าอยู่กรุงเทพฯ บ่ายอยู่นครศรีฯ ตอกย้ำอย่าลืมเหตุการณ์ปี 2557 ง่ายๆ สัญญาว่าจะทำต่อไปให้ดีที่สุด ลั่นเวลา 5 ปีไม่นาน สะพัด! บิ๊กตู่มีแนวโน้มสูงโผล่เวทีทิ้งทวน พปชร. เพจเชียร์ลุงตู่พร้อมใจเผยแพร่คลิป “ปชป.” บี้ กกต.สอบนายกฯ ลงพื้นที่เกณฑ์คนต้อนรับ วิษณุแจงทันควันสง่างาม
ตลอดทั้งวันจันทร์ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ปฏิบัติภารกิจอย่างต่อเนื่อง โดยได้ไปเปิดงาน “กองทุนแห่งชาติเพื่อประชาชน แก้จน ลดเหลื่อมล้ำ” ที่เมืองทองธานี โดยทันทีที่ถึงงานได้มีการเปิดเพลงใจเพชรและเพลงวันใหม่ ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์เดินทักทายประชาชนที่มาร่วมงานประมาณ 10,000 คน โดยเดินไปรอบๆ ห้องพร้อมยกกำปั้นไปตามจังหวะเพลง ส่งสัญลักษณ์เราจะสู้ไปด้วยกัน ก่อนทำมือสัญลักษณ์ไอเลิฟยูด้วย
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ช่วงนี้เดินทางทุกวันเพราะไม่อยากให้สิ่งที่ทำมาล้มเหลว เราต้องเดินหน้าต่อไปเพราะไม่มีอะไรที่จะเริ่มจากปลายทาง สิ่งสำคัญคือคนไทยต้องรู้ปัญหาของประเทศว่าอยู่ตรงไหน เพราะถ้าพูดลอยๆ คงไม่มีทางทำได้ นายกฯ เปรียบเสมือนหัวหน้าครอบครัว แต่ไม่ได้หมายถึงพ่อ เรามีสมาชิก 68 ล้านคน จึงต้องทำให้ทุกคนมีความสุข ลูกทุกคนต้องมีอาชีพ รายได้ ให้ทุกคนเดินไปพร้อมกัน ประเทศไทยมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 800 ปี ทุกช่วงสมัยต่างมีเหตุการณ์เกิดขึ้น เช่นเดียวกับก่อนปี 2557 ขออย่าลืมสิ่งเหล่านี้จะต้องไม่เกิดขึ้นอีก ขออย่าทำประวัติศาสตร์ที่ไม่ดี ประวัติศาสตร์คือบทเรียน เราต้องแก้ไขทั้งปัญหาเก่าและใหม่ให้ได้ เราต้องทำให้ทุกอย่างคลี่คลาย เรื่องเก่าๆ ที่ไม่ดีขออย่าทำให้เกิดขึ้นอีก
“เหตุการณ์เมื่อปี 2557 ลืมกันหมดแล้วหรือยัง เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่จะลืมแค่นี้ง่ายๆ อย่าเป็นคนขี้ลืม ไม่ใช่ทำวันนี้และจะลืมสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ทุกอย่างต้องแก้ไขและปรับปรุงให้ดีขึ้น สิ่งที่รัฐบาลทำ อยู่ที่ว่าจะสานต่อกันอย่างไร เมื่อเราล้มแล้วต้องลุกให้ได้” พล.อ.ประยุทธ์กล่าวและว่า ขอสัญญาว่าจะทำต่อไปให้ทุกคนอย่างดีที่สุด ทุกคนสัญญาว่าจะเดินไปด้วยกันหรือไม่ ขอคำสัญญาจากทุกคนด้วย สัญญาว่าเราจะเดินไปด้วยกัน ขออย่ายืนอยู่บนความขัดแย้งและกับดักเดิมๆ
นายกฯ ย้ำว่า วันนี้ต้องเดินทางยังไงก็คิดถึงทุกคนทุกจังหวัด นี่คือคนทั้ง 68 ล้านคนที่แตกต่าง แต่ต้องการให้มีส่วนร่วมให้ได้ ขอสัญญาว่าจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ตราบใดที่ยังทำหน้าที่ผ่านกลไกที่มีอยู่ อย่าทำลายแผ่นดินเกิดของท่าน ทุกคนโชคดีที่เกิดในแผ่นดินไทย อย่าให้ความไม่เข้าใจ การยุยงปลุกปั่นจะต้องไม่เกิดขึ้นอีก เข้าใจไหม ยังจำได้ไหม ถ้าจำได้ก็อย่าลืมแล้วกัน รักทุกคน ช่วยกันไปสู่วันใหม่ด้วยความใจเพชร
ต่อมาในเวลา 11.45 น. พล.อ.ประยุทธ์พร้อมคณะได้เดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ เพื่อไปตรวจราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยเครื่องบิน C-130 และเมื่อเวลา 13.20 น. คณะ พล.อ.ประยุทธ์เดินทางถึงท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ก่อนเดินทางด้วยรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน 7 กฬ 1333 ไปยังโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์เพื่อตรวจเยี่ยม ทั้งนี้มีนายสายัณห์ ยุติธรรม ผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จ.นครศรีธรรมราช เขต 7 นำมวลชนมาให้การต้อนรับด้วย
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวกับประชาชนว่า เราลำบากกันมานานแล้ว ซึ่งคิดว่าเรากำลังนำทุกคนไปสู่วันข้างหน้า ชีวิตที่ดีกว่า มีหลักประกันที่มั่นคงและยั่งยืน ทั้งนี้จากการที่เป็นนายกฯ บริหารราชการมา ทำให้รู้ว่าทุกอย่างไม่ง่าย หลายอย่างทำได้และหลายอย่างไม่สามารถทำได้ เพราะประเทศมีพี่น้องประชาชนหลายพวกหลายฝ่าย หลายวัยหลายอาชีพ หลายความคิด ซึ่งรัฐบาลได้ผลักดันการปฏิรูปประเทศ และหลายอย่างจะเกิดผลในอีกหลายปีข้างหน้า การปฏิรูปประเทศไม่ใช่สั่งปากเปล่า เพราะจะทำสำเร็จทุกอย่างต้องมีหลักการ ประเทศไทยเปรียบเสมือนร่างกาย คนที่พร้อมเติบโตแต่ยังไม่แข็งแรง มือซ้ายและมือขวายังแข็งแรงไม่เท่ากัน มือขวาเปรียบเหมือนคนรวย ซ้ายเป็นเกษตรกร จึงต้องเอามือขวามาจับมือซ้ายเพื่อเดินไปข้างหน้าด้วยกัน
“การที่เราจะเดินหน้าไปสู่ประชาธิปไตยในระยะเวลาอันใกล้ ยืนยันว่าไม่เคยขัดข้อง แต่สิ่งที่กังวลคือจะเดินหน้าไปอย่างไรหลังเลือกตั้งแล้ว สิ่งที่อยากจะขอจากพ่อแม่พี่น้องประชาชนคือความสงบเรียบร้อย การอยู่อย่างปรองดองสมานฉันท์ และพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน เพราะไม่มีใครจะอยู่คนเดียวได้ ทั้งนี้หากใครมาบอกว่าจะให้ประชาชนรวยขึ้นด้วยการที่รัฐให้เพียงอย่างเดียว ไม่มีทางเป็นไปได้ มีแต่จะจนและทำให้ประเทศจนตามไปด้วย” นายกฯ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวนำว่า วันหน้าถ้ามีโอกาสจะทำให้ ถ้าไม่มีโอกาสก็มีความสุข โดยการพักผ่อน ไม่ต้องเครียด และเสียงดังหรือต้องปวดหัวแบบนี้ ซึ่งไม่ได้ทวงบุญคุณใคร เพราะทำให้ประเทศที่ได้เหยียบแผ่นดินนี้มา 65 ปี ส่วนใครก็ตามที่พูดว่าจะล้มโน่นล้มนี่ ขอให้ดูกฎหมายทำได้หรือไม่ เช่นล้มสัมปทาน ลดราคาจากข้อตกลงในสัมปทาน ทำได้หรือไม่ ขออย่าไปฟังข้อมูลผิดๆ
“ขออย่าลืมอดีต ทุกคนมีหัวใจ 2 ห้อง แต่สำหรับนายกฯ หัวใจวันนี้ 68 ล้านห้อง ทุกคนจะเดินไปพร้อมกับผมหรือไม่ แม้จะเดินบ้างวิ่งบ้างหรือคลานบ้าง แต่ประเทศต้องเดินหน้าไป อย่าเพิ่งเกลียดชังฉันนักเลย ผมแต่งเพลงมาทั้งหมด 8 เพลง อย่าเอาเพลงแรกมาทวงสัญญามาบอกว่าขอเวลาอีกไม่นาน การทำงานให้ประเทศ 5 ปีถือว่าไม่นาน การเลือกตั้งจะใครก็แล้วแต่ท่านเลือกกันเอาเอง นี่คือประเทศไทย เราต้องเข้มแข็งไปด้วยกัน ต้องรักสามัคคี” นายกฯ กล่าว
ทั้งนี้ระหว่างพบประชาชน มีคุณลุงนำปูดำและปูทะเลห่อกระดาษใส่กระเช้ามามอบให้นายกฯ โดยนายกฯ ได้เอามือจับบนห่อกระดาษโดยที่ไม่รู้ว่าเป็นปู คุณลุงจึงบอกว่าปูครับ ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์รีบชักมือออกทันที พร้อมกล่าวอย่างตกใจว่า “ปูเหรอ เดี๋ยวมันก็หนีบผมสิ” สร้างเสียงหัวเราะให้ทุกคน
พล.อ.ประยุทธ์ยังตอบข้อถามถึงเสียงตอบรับของคลิปต่างๆ ที่ไปเปิดบนเวทีปราศรัยของพรรค พปชร.ว่า ไม่ทราบเหมือนกัน ไม่ได้ตามเรื่องนี้ แค่พูดให้ทุกคนเข้าใจ
จากนั้นเวลา 16.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ไปเป็นประธานส่งมอบบ้านและให้กำลังใจผู้ประสบภัยจากพายุโซนร้อนปาบึก โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า ทำงานมา 5 ปีต้องผ่าตาไปถึงสองข้าง แต่เห็นรอยยิ้มของประชาชนก็มีความสุข ยืนยันว่าเราต้องทำอย่างนี้ต่อไป ไม่ใช่ทำเฉพาะคนที่รักเราเท่านั้น ทำให้ทั้งหมด ขออย่าไปเกลียดทหารเขานักเลย ถ้าไม่มีทหารใครจะดูแลบ้านเมือง
ต่อมาเวลา 18.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ได้ขับรถสองแถวที่ชาวพื้นถิ่นเรียกว่ารถไม้ สายนครฯ-ชะเมา ระยะทาง 800 เมตร ไปพบประชาชนที่สวนสาธารณะสมเด็จพระศรีนครินทร์ 84 (ทุ่งท่าลาด) เพื่อติดตามผลการดำเนินงานของ จ.นครศรีธรรมราช และการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากพายุโซนร้อนปาบึก พร้อมพบประชาชน 20,000 คน
โดยนายกฯ กล่าวตอนหนึ่งว่า "วันนี้มาตรวจราชการในฐานะนายกรัฐมนตรี ฉะนั้นทีมรักษาความปลอดภัยก็มีได้ มาได้เหมือนกัน 5 ปีที่ผ่านมาไม่เคยหยุดงานสักวัน กลับบ้านก็ต้องเตรียมงานวันต่อไป นี่คือนายกฯ เมืองไทย ทำไมอยากเป็นกันนักหนาไม่เข้าใจจริงๆ ขอให้รักกันนานๆ สัญญาคือสัญญา ผมสัญญาจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดตราบใดที่ยังทำหน้าที่อยู่"
จากนั้นนายกฯ ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ ถึงข้อกังวลในโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง ว่า ข้อกังวลต่างๆ คิดว่าสื่อรู้ดีอยู่แล้ว สำหรับตนต้องการความสงบสุข ความเรียบร้อย ให้การเลือกตั้งผ่านพ้นไปด้วยดี ได้รัฐบาลที่ดี มีธรรมาภิบาล
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวถึงเรื่องคลิปเช่นกันว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) บอกเองว่าขึ้นเวทีเองยังได้เลย ซึ่งการเป็นคลิปดีกว่าพูดสด เพราะบางทีการพูดสดกลอนพาไปได้ ส่วนเรื่องการลงพื้นที่นั้นก็ไม่มีอะไรมาก กกต.ตอบมาแล้วด้วยซ้ำว่าขึ้นเวทีหาเสียงปราศรัยได้ แต่นายกฯ ไม่ทำ นายกฯ ทำในนามรัฐบาล ในฐานะนายกฯ ซึ่งถือว่าสง่างาม ดูสวยงามมากกว่า เพราะว่าเป็นภาระหน้าที่และแต่ละงานที่นายกฯ เดินทางไปก็มีเหตุ มีภารกิจ เป็นเรื่องธรรมดา เป็นเรื่องของงานที่มีอยู่ แล้วไม่ใช่อยู่ดีๆ จะโผล่ไป
และในเวทีปราศรัยใหญ่ที่ จ.ร้อยเอ็ดของพรรค พปชร.ได้มีการเปิดคลิปปราศรัยของ พล.อ.ประยุทธ์ อีกรอบ โดยเนื้อหาสรุปว่า "ขอให้คำมั่นและเชื่อใจ จะไม่ทำให้ผิดหวัง จะสานต่อนโยบายดีๆ และนโยบายใหม่ๆ ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน ขอให้ทุกคนร่วมมือไปกับผม"
ขณะเดียวกันในโลกออนไลน์ ทั้งเฟซบุ๊กแฟนเพจพรรคพลังประชารัฐได้โพสต์คลิปวิดีโอความยาว 47 วินาที ในชื่อ “สิ่งที่ ลุงตู่ อยากทำ เพื่อพี่น้องคนไทย” ส่วนเพจลุงตู่ตูนได้ปล่อยคลิปในหัวข้อ “ฟังเหตุผลที่เราต้องไปกับนายกฯ ลุงตู่" ความยาว 53 วินาทีด้วย ซึ่งมีคนแชร์ต่อจำนวนมาก
มีรายงานข่าวแจ้งว่า ในการจัดเวทีปราศรัยใหญ่หาเสียงโค้งสุดท้ายของพรรค พปชร.ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 22 มี.ค.นี้ ที่สนามเทพหัสดิน กทม. มีโอกาสสูงที่ พล.อ.ประยุทธ์จะเดินทางไปร่วมเวทีดังกล่าวด้วยตัวเอง โดยในขณะนี้ทีมงานนายกฯ กำลังพิจารณากันอย่างรอบคอบ และยังไม่มีความชัดเจนว่ากิจกรรมที่ พล.อ.ประยุทธ์จะไปมีส่วนร่วมนั้นจะขึ้นเวทีปราศรัย หรือจะแค่ร่วมฟังปราศรัยและให้กำลังใจผู้สมัครของพรรคเท่านั้น
ด้านนายเชาว์ มีขวด รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้นำเอกสารราชการลงวันที่ 13 มี.ค.62 ลงนามโดยนายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เรื่องขอเชิญร่วมต้อนรับนายกฯ และคณะเดินทางมาตรวจราชการและเยี่ยมเยียนประชาชนที่ประสบภัยจากพายุโซนร้อนปาบึก โดยมีการตั้งเป้าหมายระดมคนให้ได้ 20,000 คนจาก 13 อำเภอ พร้อมระบุว่าก่อนหน้านี้ก็มีเอกสารที่ จ.แพร่ในลักษณะเดียวกัน ซึ่งในช่วง 7 วันก็ทราบว่าจะมีการดำเนินการในแนวดังกล่าวอีก จึงอยากให้ กกต.ตรวจสอบเพราะ พล.อ.ประยุทธ์เป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคการเมืองด้วย การกระทำเช่นนี้เข้าข่ายใช้เวลาราชการ ทรัพยากรของรัฐ และงบประมาณของรัฐเพื่อการหาเสียงแอบแฝงหรือไม่
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางมาร้องต่อ กกต.ว่า ได้ยื่นร้องกรณีดังกล่าวเช่นกัน ว่าเข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรา 78 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2561 หรือไม่
พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวเรื่องนี้ว่า กกต.คงตรวจสอบและดูอยู่ หากทำอะไรที่เกินเลยก็ต้องรับผิดชอบ แต่เชื่อว่าที่ปรึกษาของนายกฯ คงให้คำแนะนำในสิ่งที่เหมาะควรแล้ว
ส่วนนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักษาชาติ ได้เดินทางมายื่นเอกสารเพิ่มเติมคำร้องที่ให้ กกต.พิจารณาว่า พล.อ.ประยุทธ์เป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ขาดคุณสมบัติเป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |