รัฐบาลจีนระบุในสมุดปกขาวที่แก้ต่างนโยบายปราบปรามอย่างรุนแรงในเขตซินเจียงทางตะวันตกไกลของประเทศ ว่ามาตรการลดคตินิยมรุนแรงในซินเจียงนับแต่ปี 2557 สามารถจับกุมผู้ก่อการร้ายได้เกือบ 13,000 คน ด้านกลุ่มอุยกูร์พลัดถิ่นประณามเป็นข้ออ้างทางการเมืองเพื่อกดขี่

แฟ้มภาพ วันที่ 26 มิถุนายน 2560 ตำรวจจีนลาดตระเวนในเมืองคัชการ์ ของเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ขณะชาวมุสลิมออกจากมัสยิดภายหลังละหมาดเช้าวันอีดิ้ลฟิตร / AFP / Getty Images

    สมุดปกขาวที่คณะรัฐมนตรีของจีนเผยแพร่เมื่อวันจันทร์ที่ 18 มีนาคม 2562 ตอบโต้เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของนานาชาติเกี่ยวกับนโยบายการรักษาความมั่นคงของจีนในเขตซินเจียง ซึ่งกลุ่มสิทธิมนุษยชนกล่าวกันว่าทำให้ชาวอุยกูร์และชนกลุ่มน้อยที่เป็นมุสลิมส่วนใหญ่กว่า 1 ล้านคนโดนควบคุมตัวในค่ายกักกัน โดยรายงานอ้างว่า รัฐบาลปฏิบัติตามกฎหมายในการปราบปรามพฤติการณ์ที่สนับสนุนการก่อการร้ายและลัทธิคตินิยมสุดโต่ง

    เอกสารนี้กล่าวว่า ซินเจียงเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของจีนมาช้านาน แต่ผู้ก่อการร้ายและพวกหัวรุนแรงสุดโต่งได้ปลุกปั่นให้การแบ่งแยกดินแดนด้วยการสร้างประวัติศาสตร์ที่เป็นเท็จ

    "ตั้งแต่ปี 2557 ซินเจียงได้ทำลายแก๊งหัวรุนแรงและก่อการร้ายแล้ว 1,588 แก๊ง, จับกุมผู้ก่อการร้าย 12,995 ราย, ยึดอุปกรณ์ระเบิด 2,052 ชิ้น, ลงโทษผู้คน 30,645 คนที่ดำเนินกิจกรรมทางศาสนาอย่างผิดกฎหมาย 4,858 ครั้ง และยึดสำเนาวัตถุที่มีเนื้อหาทางศาสนาที่ผิดกฎหมาย 345,229 ฉบับ" เอกสารปกขาวกล่าว

    ด้านดิลซัต ราซิต โฆษกสภาอุยกูร์โลก ที่เป็นกลุ่มต่อสู้เพื่อสิทธิชาวอุยกูร์พลัดถิ่น กล่าวประณามรายงานของจีนว่าเป็นข้ออ้างทางการเมืองเพื่อกดขี่ชาวอุยกูร์ วัตถุประสงค์ของการเผยแพร่เอกสารปกขาวนี้เพื่อเรียกเสียงสนับสนุนจากคนจีนต่อนโยบายสุดโต่งและปกปิดการละเมิดสิทธิมนุษยชน.