18 มี.ค.62-ที่บริเวณศาลหลักเมือง เขตเทศบาลนครนครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา พร้อมด้วยนายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ที่ปรึกษาและผู้อำนวยการพรรคฯ นายดล เหตะกูล เลขาธิการพรรคฯ เดินหาเสียงโค้งสุดท้ายหาเสียงเลือกตั้งในจ.นครราชสีมา ซึ่งถือเป็นเมืองหลวงของพรรค แจกเอกสารนโยบายของพรรคฯ นโยบายประเทศไทย 9 หน้า 9 ไกล ไทยรัฐปัญหา อาทิ นโยบายการศึกษา , นโยบายเศรษฐกิจรากหญ้า ตั้งกองทุนช่วยเหลือเกษตรกร 2 หมื่นล้านบาท พวกวิสาหกิจชุมชน SME ผู้ประกอบการ OTOP ที่แย่ก็มีกอแงทุนเข้าไปช่วยเหลือ 1 หมื่นล้านบาท แล้วเอาการท่องเที่ยวไปกระตุ้นเศรษกิจในหมู่บ้าน ตำบลทุกแห่ง ,  นโยบายสังคม , นโยบายโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจ , นโยบายอุตสาหกรรม พลังงานและสิ่งแวดล้อม , นโยบายการท่องเที่ยว , นโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล , นโยบายกระจายอำนานสู่ท้องถิ่น และนโยบายกีฬา 

โดยยึดสโลแกน พรรคชาติพัฒนา ไม่มีปัญหา #No Problem พร้อมมีรูปภาพหน้าตาของผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพมหานคร , ภาคกลาง , ภาคใต้ , ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ให้กับบรรดาพ่อค้า แม่ค้า ร้านค้า ร้านอาหาร นักธุรกิจย่านเศรษฐกิจในกลางเมืองนครราชสีมา ถนนจอมพล, ถนนชุมพล และถนนราชดำเนิน ไปยังอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ได้รับการตอบรับอย่างดี ซึ่งหลายคนได้เห็นตัวจริงเสียงจริงตัวเป็นๆของทั้งนายสุวัจน์และนายเทวัญฯ 2 พี่น้อง มีการขอถ่ายเซลฟี่ และถ่ายภาพ โดยในช่วงเย็นมีการเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ของพรรคฯที่สนามกีฬา 80 พรรษา อ.เมือง    

นายสุวัจน์ฯกล่าวว่า จากการดูการเลือกตั้งล่วงหน้าเป็นปรากฏการณ์ที่ค่อนข้างล้นหลามพอสมควรของพี่น้องประชาชนที่ลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์กว่า 2 ล้านคนใช้สิทธิ์ล่วงหน้ากว่า 80% จากที่ลงทะเบียนถือเป็นสัดส่วนที่น่าพอใจมาก และเป็นดัชนีพอชี้ได้วันที่ 24 มี.ค.นี้และหลังเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร ฉะนั้นวันนั้นเป็นเรื่องที่มีความสำคัญที่เป็นเวลาที่ประเทศไทยจะดี และสร้างความมั่นใจ ตนชอบมองอะไรในทางบวก ไม่ว่าเรื่องเศรษฐกิจหรือปัญหาความขัดแย้งต่างๆจะดีขึ้น โดยเฉพาะเศรษฐกิจตนมั่นใจ ตลาดหุ้นหรือการส่งออก การลงทุนต่างๆบรรยากาศของประเทศจะเปลี่ยน เพราะจะเป็นความรู้สึกว่ามีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง สำหรับพรรคฯได้ทำนโยบายมาแก้ไขปัญหาและทำหน้าที่ในฐานะพรรคการเมือง และจากการได้ไปพบปะพี่น้องประชาชนทั่วประเทศส่วนใหญ่พูด 2 เรื่องหวังว่าหลังเลือกตั้งเศรษฐกิจจะดี โดยเฉพาะคนยากคนจนพี่น้องเกษตรกรในชนบท 
และอันที่สองอยากให้หลังเลือกตั้งการเมืองนิ่ง หยุดทะเลาะกัน ให้บ้านเมืองเรียบร้อย 

"พรรคได้รับโจทย์นี้มาแล้วเราก็เลยทำนโยบายสองเรื่องหนึ่งในนี้เรื่องเศรษฐกิจ และสองเรื่องความปรองดอง การลดปัญหาความขัดแย้ง จึงได้แบบนโยบายมี 3 นโยบายประเทศ 9 หน้า 9 ไกล ไทยรัฐปัญหา นโยบายกรุงเทพฯเพราะเป็นเมืองหลวงห้องรับแขกของประเทศ ทำให้กรุงเทพฯเป็นสมาร์ทซิตี้ และสุดท้ายนโยบายโคราชบ้านเราในการพัฒนาบ้านเรา ส่วนเศรษฐกิจใหญ่ของประเทศมีนโยบายปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมเพราะวันนี้อุตสาหกรรมเปลี่ยนเป็นเรื่องของเทคโนโลยีเรียกว่า ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม ครั้งที่ 4 เป็นต้น"