ครูปรีชา ใคร่ครวญ

    "กองปราบฯ" เร่งตรวจสำนวนหวย 30 ล้าน พบหลักฐานชัดให้การเท็จ 1 ราย เตรียมขอออกหมายจับ "ครูปรีชา" ยังเสียงแข็งเป็นเจ้าของรางวัลที่ 1 ตัวจริง เมิน ตร.ระบุเหมือนคดีครูจอมทรัพย์ ลั่นทุกอย่างอยู่ที่ศาลตัดสิน "เจ๊บ้าบิ่น" โผล่นั่งขายลอตเตอรี่ตามเดิม ปัดตอบสื่อขอนั่งอ่านหนังสือธรรมะ 
    ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) วันที่ 14 ก.พ. พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) ในฐานะหัวหน้าพนักงานสืบสวนและสอบสวนคดีหวย 30 ล้านบาท พร้อม พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.ประเสริฐ พัฒนาดี รองผบช.ก., พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รองผู้บังคับการปราบปราม (รอง ผบก.ป.), พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรมัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่งพันธุ์ม่วง ผกก.5 บก.ป. ร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าคดีหวย 30 ล้านบาท ระหว่าง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจ และนายปรีชา ใคร่ครวญ ครูโรงเรียนเทพมงคลรังษี จ.กาญจนบุรี ที่ต่างฝ่ายต่างแสดงความเป็นเจ้าของในสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ถูกรางวัลที่ 1 ดังกล่าว
    มีรายงานว่า ที่ประชุมได้นำสำนวนการสอบสวนที่ได้รับมาจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (บช.ภ.7) มาตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อจัดทำหมวดหมู่พยานที่ให้การ รวมทั้งมีการนำคลิปเสียงการสนทนาของผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดีทั้งหมดที่ได้มาจากการแกะรอยทางเทคโนโลยีของกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) มาถอดเป็นคำพูด นำมาวิเคราะห์และใช้เป็นแนวทางในการสรุปคดีตามที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. สั่งการให้ดำเนินการให้เสร็จสิ้นก่อนสิ้นเดือนนี้ 
    "กองปราบฯ กำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมที่ได้บริเวณตลาดเรดซิตี้ อ.เมืองฯ จ.กาญจนบุรี รวมทั้งพยายามติดตามหาพยานแวดล้อมอื่นๆ เพื่อพิสูจน์ความจริงให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะสลากหมายเลขที่ นายปรีชาอ้างในคลิปว่าไม่ถูกรางวัล รวมทั้งให้พิสูจน์ทราบให้แน่ชัดว่า ร.ต.ท.จรูญซื้อสลากจากแม่ค้าคนใดกันแน่ เพราะที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ ร.ต.ท.จรูญยังยืนยันคำให้การเดิมว่าจำไม่ได้ว่าซื้อจากแม่ค้าคนไหน หากพิสูจน์ได้ก็จะทำให้เกิดความเป็นธรรมในคดีมากยิ่งขึ้น" แหล่งข่าวระบุ
    มีรายงานว่า จากการตรวจสอบพยานหลักฐานเชื่อว่าในไม่กี่วันนี้ทุกอย่างจะมีความชัดเจนมากขึ้น เบื้องต้นเตรียมขอหมายจับผู้ต้องหาในคดี 1 ราย ฐานกระทำความผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 174 คือการให้การอันเป็นเท็จเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับโทษทางอาญา ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุดถึง 5 ปี
    ด้านนายเกรียงไกร นาควะรี ทนายความส่วนตัวครูปรีชา ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กรณีตำรวจระบุคดีหวย 30 ล้านบาท มีรูปแบบลักษณะเดียวกับคดีครูจอมทรัพย์ว่า เรื่องการออกมาแสดงความคิดเห็น รวมทั้งคอมเมนต์ต่างๆ นั้น ทางทนายความก็ได้พูดคุยกับลูกความคือครูปรีชามาโดยตลอด ซึ่งก็ให้ความเคารพความคิดเห็นของทุกคน 
    "เรื่องหลักฐานต่างๆ ของเรา ขณะนี้ได้มีเวทีเพื่อให้ทุกฝ่ายได้พิสูจน์ความจริง นั่นคือการพิสูจน์ความจริงในชั้นศาล" ทนายความส่วนตัวครูปรีชากล่าว
    ขณะที่ครูปรีชายังคงเดินทางมาสอนหนังสือที่โรงเรียนเทพมงคลรังษีตามปกติ โดยหลังสอนเสร็จ ครูปรีชาได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว
    ครูปรีชากล่าวว่า ขณะนี้ในส่วนของรายชื่อพยานและหลักฐานต่างๆ ได้เตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว พร้อมที่จะยื่นต่อศาลได้ทันที และยังคงยืนยันในความบริสุทธิ์ของตนเองว่าเป็นคนซื้อและเป็นเจ้าของลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลจริง
    "อยากให้สังคมคิดในมุมกลับ หากผมไม่ได้เป็นเจ้าของลอตเตอรี่จริง และไม่ได้เป็นคนทำลอตเตอรี่หาย จะหาเรื่องใส่ตัวโดยการเดินทางไปแจ้งความเอาผิดกับร.ต.ท.จรูญเพื่ออะไร ตอนนี้กระแสในโลกออนไลน์ด่าทอและต่อว่าผม รวมถึงครอบครัวอย่างรุนแรง บางคนถึงขนาดเข้ามาต่อว่าผมถึงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่รุนแรงเกินไป ผมจึงอยากฝากถึงประชาชนที่ติดตามข่าวเรื่องนี้อยู่ว่า ขณะนี้เรื่องกำลังจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งศาลก็จะต้องมีการไต่สวนและพิจารณาพยานหลักฐานอย่างละเอียดรอบคอบ ก่อนที่จะสามารถสรุปได้ว่าใครเป็นคนพูดจริง ใครพูดโกหก ดังนั้นประชาชนจึงยังไม่ควรรีบตัดสินใจเชื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และเข้ามาถล่มด่าผมและครอบครัวแบบนี้" ครูปรีชากล่าว
    ครูปรีชายังบอกว่า หากถึงวันตัดสินและผลปรากฏว่าตนเองเป็นผู้บริสุทธิ์ และเป็นคนพูดจริง ผู้ที่มาด่าว่าตนและครอบครัวในวันนี้ก็คงจะไม่ออกมาแสดงความรับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น ดังนั้นทางที่ดีจึงอยากขอให้ผู้ที่ติดตามข่าวช่วยคิดและวิเคราะห์ข้อเท็จจริงในข่าว รวมถึงอย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจและด่าว่าใครก่อนที่ศาลจะมีคำพิพากษาจะดีที่สุด    
    วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบแผงขายลอตเตอรี่ตลาดเรดซิตี้ จ.กาญจนบุรี พบนางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น อายุ 58 ปี กลับมานั่งขายลอตเตอรี่ที่บริเวณแผงหน้าธนาคารกสิกรไทยอีกครั้ง ถือเป็นการสยบกระแสข่าวลือที่ว่าเจ๊บ้าบิ่นหนีไปกบดานลงได้ 
    อย่างไรก็ตาม ในการมาปรากฏตัวครั้งนี้ เจ๊บ้าบิ่นยังไม่ยอมให้สัมภาษณ์หรือตอบคำถามใดๆ ของสื่อมวลชน ทั้งกรณีคลิปเสียงสนทนาและแช้ตไลน์หลุดว่าเป็นของตนเองจริงหรือไม่ โดยเจ๊บ้าบิ่นเลือกที่จะนั่งนิ่งและอ่านหนังสือธรรมะคลายเครียดแทน
    ส่วนนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ทนายความ ร.ต.ท.จรูญ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เรื่อง พยานใหม่ของครูปรีชา ใคร่ครวญ ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนเทพมงคลรังษี ระบุว่า “ผมขอต้อนรับสมาชิกพยานใหม่ของครูปรีชาด้วยความยินดีครับ หลังจากที่ผมดูข่าวช่องอมรินทร์แล้ว ผมขอเชิญชวนท่านมาให้การตามที่ท่านอยากจะให้ความเป็นธรรมแก่ครูด้วยครับ อย่าแค่ให้สัมภาษณ์ด้วยความมันส์หรือแค่สร้างสีสันไปวันๆ ออกมาเลยครับ ผมและคุณลุงไม่ขัดข้อง ขออย่างเดียวคือให้ซักซ้อมกันให้ดี เอาให้เนียนสุดๆ เลยครับ
    ท่าน ผบ.ตร.ออกมาบอกแล้วว่าคดีนี้มันเป็นขบวนการ ผมเองก็เชื่อมาตั้งแต่แรก ประชาชนทุกท่านก็ช่วยกันคิดตามด้วยครับว่าลำพังแค่ครูกับป้าบ้าบิ่นจะคิดเป็นคิดออกหรือครับ คนที่ไม่รู้กฎหมายและใจไม่กล้าจริงคิดวางแผนเรื่องนี้ไม่ได้หรอกครับ โดยเฉพาะการที่จะต้องหาประจักษ์พยานให้ได้ เพราะคำคำนี้ชาวบ้านพื้นๆ คิดไม่ออกแน่ครับว่าจะต้องวางแผนและจะใช้วิธีการใดที่จะทำให้เรื่องราวมันเดินได้อย่างราบรื่นเพื่อให้สมจริงสมจัง คนที่วางแผนให้มันต้องมีครับ
    คนที่เข้าร่วมขบวนการนี้ ถ้าไม่มีผลประโยชน์มาเสนอให้ ผมเชื่อว่าไม่มีใครกล้าเอามือมาซุกหีบหรอกครับ เสียทั้งชื่อเสียงที่สั่งสมมา เสียความน่าเชื่อถือทั้งจากประชาชนและคนในหน่วยของตัวเอง ถ้าไม่มีสิ่งล่อใจเขาไม่ทำหรอกครับ เขากล้าเสี่ยงเพราะอะไรครับ ยิ่งพยานที่กล้าเสี่ยงออกมาตอนท้ายๆ ถ้าไม่มีเงินล่อใจและไม่มีคนการันตีรับรองให้ มีหรือครับที่เขาจะกล้าออกมาเสี่ยงกับคุกตะราง 
    ผมเองไม่เชื่อว่า ด้วยศักยภาพของคณะทำงานของ ภ.7 ที่แต่ละท่านก้าวมาถึงระดับนี้แล้วจะไม่สามารถสอบเค้นเอาความพิรุธในคดีนี้ให้เกิดความบริสุทธิ์ยุติธรรมได้ คดีนี้ไม่มีอะไรซับซ้อนและยากเกินกว่าที่ ภ.7 จะทำได้ ถ้าท่านทำด้วยใจบริสุทธิ์ ผมเชื่อว่าท่านต้องทำได้ แต่ที่ผ่านมาท่านกลับทำในสิ่งที่ประชาชนทั้งประเทศไม่ไว้วางใจและขาดความเชื่อมั่น หมดศรัทธาต่อองค์กรท่านอย่างช่วยไม่ได้ ท่านอย่าโทษกระแส อย่าโทษประชาชน ท่านต้องกลับไปดูตัวท่านเองครับ ผมเชื่อว่าตำรวจใน ภ.7 เองส่วนใหญ่ก็คงไม่เห็นด้วยกับท่าน เพราะถ้าเป็นภาษามวยก็คือ มันค้านสายตาครับ” ทนายษิทรากล่าว.