วันที่ 17 มี.ค. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏเป็นการทั่วไปในขณะนี้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ได้เดินสายไปยังจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ อาทิ จังหวัดขอนแก่น และโคราช (13 มี.ค.) จังหวัดเชียงรายและแพร่ (16 มี.ค.) และนครศรีธรรมราช ในวันที่ 18 มี.ค.นี้ด้วยโดยอ้างว่าไปปฏิบัติราชการตามปกติ ซึ่งอาจเป็นกลยุทธ์แบบเนียนๆ ในการหาเสียงนั้น
 

เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้ที่พรรคพลังประชารัฐเสนอชื่อเป็นแคนดิเตตนายกรัฐมนตรีตาม ม.88 และ ม.89 ของรัฐธรรมนูญ 2560 หลังจากที่มี พ.ร.ฏ.ให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป 2562 เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2562 ดังนั้น โดยมารยาททางการเมืองในอดีตที่ผ่านมา ไม่มีนายกรัฐมนตรีคนใด ที่เป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันชิงชัยในการเลือกตั้ง ที่จะใช้ตำแหน่งหน้าที่ของตนเองและทรัพย์สินของทางราชการไปเอื้อประโยชน์เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ลงคะแนนให้แก่ตนเอง ซึ่งในปัจจุบันอาจเข้าข่ายฝ่าฝืน ม.78 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2561 ได้ที่กำหนดห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐใช้ตําแหน่งหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมายกระทําการใด ๆ  เพื่อเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมือง
          
นอกจากนั้นยังมีหลักฐานอันเชื่อได้ว่า มีผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้บริหารท้องถิ่นได้มีหนังสือสั่งการให้ผู้บริหารข้าราชการในจังหวัดและผู้นำท้องถิ่น เกณฑ์ชาวบ้านมาร่วมต้อนรับและรับฟังคำปรารภของนายกรัฐมนตรีด้วย ซึ่งอาจเข้าข่ายความผิดตาม ม.78 ดังกล่าวด้วย
         
ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จำต้องนำคำร้องพร้อมพยานหลักฐานไปร้องเรียนต่อ  กกต. เพื่อให้ดำเนินการไต่สวน เอาผิด ตาม ม.149 ประกอบ ม.78 วรรคหนึ่ง ซึ่งอาจมีโทษจําคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท  และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกําหนดยี่สิบปี รวมทั้งขอให้สั่ง พล.อ.ประยุทธ์ และเจ้าหน้าที่ของรัฐยุติหรือระงับการกระทําใดที่เห็นว่าอาจเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใดตาม ม.78 วรรคสามต่อไปด้วย
          
โดยสมาคมฯจะเดินทางไปยื่นคำร้องต่อ กกต.ในวันจันทร์ที่ 18 มี.ค. 2562 เวลา 13.00 น. ณ สำนักงาน กกต. ศูนย์ราชการฯ อาคาร B ชั้น 1 ถ.แจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กทม.