คำสั่งแต่งตั้งตำรวจระดับ นายพัน เก้าอี้ สารวัตร (สว.) ถึง รองผู้บังคับการ (รอง ผบก.) วาระประจำปี 2561 ส่วนใหญ่เผยแพร่ออกมาเรียบร้อยแล้ว และให้ไปรายงานตัวปฏิบัติหน้าที่ตำแหน่งใหม่ ตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา ตอนนี้เลยเริ่มมีข่าว ตำรวจ หลายรายยื่นหนังสือขอลาออกจากราชการเผยแพร่ตามสื่อโซเชียลกันเป็นระยะ แม้ในหนังสือลาออกเจ้าตัวจะไม่ได้บอกเหตุผลการ โบกมือลา มาจาก ผิดหวังการแต่งตั้ง แต่ก็ดูทุกอย่างจะสอดคล้องไปในทำนองเช่นนั้น อย่าง พ.ต.ท.เมธี บุญสร้อย  รอง ผกก.ป.สภ.หนองปรือ จ.กาญจนบุรี ยื่นหนังสือลาออก และ พล.ต.ต.สุวิทย์ ชาวศรีทอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ก็อนุมัติใบลาออกเรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 13 มี.ค. ถึง รองฯ เมธี จะให้เหตุผลการลาออกเพราะ "รับราชการมานาน และเพื่อประกอบอาชีพอื่น" ทว่าเมื่อย้อนไปดูคำสั่งแต่งตั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 134 ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 12 มี.ค.ปรากฏว่า รองฯ เมธี ถูกย้ายจาก รองผกก.ป.สภ.หนองปรือ จ.กาญจนบุรี ไปเป็น รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ ๐
    เช่นเดียวกับ พ.ต.ท.เลิศศักดิ์ ภัทรพิศาล รอง ผกก.ฝ่ายปกครองและการฝึก ศฝร.ภ.2 ก็ได้ยื่นหนังสือขอลาออกจากราชการ ถึง ผกก.ปค. ระบุ "ด้วยข้าพเจ้า พ.ต.ท.เลิศศักดิ์ ภัทรพิศาล รอง ผกก.ฝ่ายปกครองและการฝึก ศฝร.ภ.2 ได้เริ่มรับราชการเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2524 ปัจจุบันได้รับเงินเดือน ระดับ ส.3 ขั้น 2 มีความประสงค์ขอลาออกจากราชการ เพราะรับราชการมานาน เงินเดือนเต็มขั้นและต้องการพักผ่อน" ก็ปรากฏว่าเมื่อย้อนไปดูคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 134 ก็ปรากฏว่า รองฯ เลิศศักดิ์ มีชื่อปรากฏได้รับการแต่งตั้ง จาก รอง ผกก.ฝ่ายปกครองและการฝึก ศฝร.ภ.2 ไปเป็น รอง ผกก.สส.สภ.สะตอน จ.จันทบุรี...ซึ่งทั้ง 2 กรณีนี้จะเกี่ยวกับความผิดหวังจากการแต่งตั้งหรือไม่ คงฟันธงลงไปชัดเจนไม่ได้ เพราะเจ้าตัวก็ไม่ได้ให้เหตุผลไว้เช่นนั้น แต่กระนั้นก็ดูเหมือน ใบลาออก นี้จะถูกหยิบมาตั้งคำถามถึงความโปร่งใส ยุติธรรม ในการพิจารณารายชื่อแต่งตั้งตำรวจวาระประจำปีครั้งนี้ ต่อ บิ๊กแป๊ะ-พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา แม่ทัพใหญ่สีกากี ที่ควรจะต้องอธิบาย ชี้แจงให้ ลูกน้อง และ สังคม เข้าใจก็น่าจะดีนะท่าน ผบ.ตร. ๐
    ยกมือสนับสนุนเต็มที่ บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลความมั่นคง และ รมว.กลาโหม ที่สั่งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติของ บิ๊กแป๊ะ ไปประสานกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงคมนาคม ร่วมกันศึกษาและพิจารณาการกำหนดอัตราความเร็วของยานพาหนะแต่ละชนิดที่เหมาะสมบนทางหลวงพิเศษ หรือทางหลวงชนบท ให้สอดคล้องความเป็นจริงของพัฒนาการยานพาหนะและสภาพถนนที่เปลี่ยนไป โดยยังคงให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของการจราจรในภาพรวม และพิจารณาทบทวนปรับปรุงข้อกำหนด หรือกฎกระทรวง ที่ออกตามความในพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 และพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ.2535... เพราะกฎหมายที่ใช้อยู่นานมากว่า 20 ปีไม่ทันสมัย ไม่ทันความเจริญเติบโตของบ้านเมือง จนบางครั้งกลายเป็นช่องทางให้เจ้าหน้าที่รัฐหาผลประโยชน์จากประชาชน ๐ 
    เล่นเอาควันออกหู บิ๊กปู-พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ในฐานะคุมคดีเสือดำ ที่มีเจ้าสัวเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จํากัด (มหาชน) พร้อมพวกตกเป็นผู้ต้องหาล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ฝั่งตะวันตก จ.กาญจนบุรี หลังในโซเชียลมีการกล่าวหาว่าทำสำนวนคดีจนพนักงานอัยการสั่งไม่ฟ้องทุกข้อหา ทั้งๆ ที่พนักงานสอบสวนสั่งฟ้อง 9 ข้อหา สั่งไม่ฟ้อง 1  ข้อหาคือทารุณกรรมสัตว์เท่านั้น รวมทั้งเมื่ออัยการสูงสุดพิจารณาแล้วเห็นพ้องตามพนักงานอัยการภาค  7 พนักงานอัยการจึงยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดทองผาภูมิ ตรวจพยานหลักฐานทั้งฝ่ายโจทก์และจำเลยเสร็จสิ้น ศาลนัดฟังคำพิพากษาวันที่ 19 มี.ค.นี้ ดังนั้น บิ๊กปู เลยสั่งให้ ปอท.ตรวจสอบผู้เผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จดังกล่าว เพราะเป็นความผิด พ.ร.บ.คอมพ์ ซึ่งจะเอาผิดทั้งผู้ที่โพสต์และคนที่แชร์ด้วย ๐
    เป็นเพราะ บิ๊กแดง-พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้นโยบายลงไปว่าการเลือกตั้งทั่วไปที่กำลังจะมาถึง หน่วยขึ้นตรง ทบ.ทั้งหมดต้องกำชับกำลังพลให้ออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง 100 เปอร์เซ็นต์ เลยกลายเป็นกระแสข่าวทำนองว่า เป็นคะแนนจัดตั้งของกองทัพที่ให้เลือกพรรคพลังประชาชารัฐ (พปชร.) เพื่อจะได้เป็นแรงหนุนให้ บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีเสียง ส.ส.สนับสนุนมากพอ นำมาซึ่งความชอบธรรมที่จะขึ้นเป็นนายกฯ อีกสมัยอย่างสง่างาม แต่ก็มีเสียงสะท้อนจาก ระดับบิ๊ก ทบ. อีกเช่นกันว่า ยุคนี้ไม่มีใครสั่งกำลังพลให้ซ้ายหันขวาหันได้แล้ว การให้กำลังพลออกมาเลือกตั้งล่วงหน้าพรึ่บพรั่บก็เพราะนโยบายของ "บิ๊กแดง" ต้องการให้ยอดกำลังพล  เลือกตั้ง 100 เปอร์เซ็นต์  ดังนั้นกำลังพลที่ติดภารกิจในวันที่ 24 มี.ค.ต้องมีการแจ้งลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าไว้ก่อน รวมถึงทหารกองประจำการ (ทหารเกณฑ์) ด้วย ส่วนจะชี้นำให้ซ้าย-ขวาในยุคประชาธิปไตยได้หรือไม่..รอลุ้น แต่ที่แน่ๆ หลายฝ่ายจับตามองเรื่องของหีบบัตรที่ต้องมีการเคลื่อนย้ายเพื่อไปรวมนับยอดกับวันจริง จะมีการตุกติก ล่องหน เปลี่ยนสลับหรือไม่ แต่ก็คงไม่พ้นฝีมือนักสืบโซเชียลมีเดียทั้งหลาย ๐
    ยิ่งใกล้วันเลือกตั้งเท่าไหร่ เป้าใหญ่ที่นักการเมืองต้องตีให้อ่อนคงเป็น ผลพวงของรัฐบาลที่ออกนโยบายมาหลายอย่างแล้วอาจกระทบต่อกลุ่มต่างๆ ทำให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยคณะกรรมการขับเคลื่อนและการปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 (กขป.5) ที่มี บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหมเป็นประธาน ซึ่งมี บิ๊กเล็ก-พล.อ.ณัฐพล  นาคพาณิชย์ รอง ผบ.ทบ.เป็นกรรมการ ได้ปล่อยคลิปความยาว 0.54 วินาที ลงยูทูบ 3 ชุด ไล่ตั้งแต่  สู่สยามเวนิส 2019 ที่เข้าไปจัดระเบียบชุมชนริมคลองลาดพร้าว โฉมใหม่แฟลตดินแดง ซึ่งเป็นการก่อสร้างอาคารใหม่แทนหลังเก่าในรูปลักษณ์ของคอนโดมิเนียม ล่าสุดเป็นคลิปที่ 3 เรื่อง ลุงตู่ปลดใบเหลืองได้แล้ว นำเสนอผลงานการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม หรือไอยูยู จนทำให้ประเทศไทยได้ปรับอันดับขึ้นเป็นเทียร์ 2 ปลดสถานะใบเหลือง...การเลือกตั้งรอบนี้นอกจากพรรคการเมืองจะเข็นนโยบายกันมาหาเสียงแล้ว คสช.ยังออกแคมเปญโชว์ผลงานตัวเองเพื่อสู้กับการเมืองแบบ หมัดต่อหมัด ๐
    แม้จะหมดยุค เขตทหารห้ามเข้า แต่กองทัพอากาศถือเป็นหน่วยงานที่ต้องเข้มงวดเกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัยเป็นพิเศษ เพราะความมั่นคงอันเกี่ยวข้องกับด้านการบินเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นกฎ ระเบียบในการขออนุญาตเข้าออกจึงแน่นหนาหน่อย ล่าสุดทำให้เกิดปัญหาขึ้นระหว่าง นายนิกม์ แสงศิรินาวิน ผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ที่จะเข้าไปหาเสียงในโรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย แต่ถูกสารวัตรทหารอากาศห้ามไม่ให้เข้าไปทั้งที่ขออนุญาตทางโรงเรียนไว้แล้ว ทำให้ บิ๊กหมู-พล.อ.ท.พงษ์ศักดิ์  เสมาชัย  โฆษกกองทัพอากาศ ต้องออกมาชี้แจงว่าโรงเรียนดังกล่าวมีเขตติดกับกองทัพอากาศ ดังนั้นจึงเป็นระเบียบที่ต้องขออนุญาตกองทัพอากาศ อีกทั้งกองทัพอากาศก็มีนโยบายในการให้พรรคการเมืองเข้ามาหาเสียงอย่างเท่าเทียมอยู่แล้ว โดยจะมีการจัดพื้นที่ในหอประชุมให้แต่ละพรรคเข้ามานำเสนอนโยบาย ๐
    ย้ายแล้วแน่นอนสำหรับมณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) แต่เป็นช่วงเดือนกันยายนนี้ ขณะนี้ก็อยู่ระหว่างการเคลื่อนย้ายกำลังพลและยุทโธปกรณ์ไปไว้ที่กองพันทหารที่ 2 กรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ (ร.1พัน.2 รอ.) โดยกองพันทหารราบ มณฑลทหารบกที่ 11 (พัน ร.มทบ.11) ได้ย้ายออกจากพื้นที่ไปแล้วเมื่อวันที่ 15 มี.ค. เช่นเดียวกับ คุกทหาร สถานที่ควบคุมผู้ที่ถูกปรับพฤติกรรมทางการเมืองยุค คสช.หลายคนก็ย้ายไปด้วย รวมถึงผู้ต้องหาคดีอุยกูร์อีก 2 คน ในอนาคตหน่วยดังกล่าวจะเป็นที่ตั้งของหน่วยทหารรักษาพระองค์ระดับกองพัน 2 หน่วยเป็นหมวดหมู่ ไม่กระจัดกระจาย ๐