พูดคุยคอนเซปต์ "รักคนอ่าน" ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 47 ที่ศูนย์สิริกิติ์
การจัดงาน "สัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 47" และ "สัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 17" ระหว่างวันที่ 28 มีนาคม ถึง 7 เมษายน 2562 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายใต้แนวคิด “รักคนอ่าน” โดยสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) จะจัดงานสัปดาห์หนังสือที่นี่เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ศูนย์ฯ จะปิดปรับปรุงครั้งใหญ่นานถึงสามปี จากนั้นตุลาคมปีเดียวกันค่อยไปเจอกันอีกทีในสถานที่ใหม่กับมหกรรมหนังสือระดับชาติ ที่ อิมแพค เมืองทองธานี
23 ปีแห่งความทรงจำกับงานหนังสือที่ศูนย์ฯ สิริกิติ์ สร้างสังคมระหว่างคนทำหนังสือและคนอ่านหนังสือ เรียกได้ว่าทุกปีนักอ่านจะรอคอยเวลาที่สำนักพิมพ์จะมารวมตัวกันเปิดตัวหนังสือใหม่ๆ ในงาน รวมถึงส่องโปรโมชันลด แลก แจก แถม ขนหนังสือกลับบ้าน และด้วยความผูกพันกับพื้นที่แห่งนี้ ทำให้การจัดงานสัปดาห์หนังสือครั้งที่ 47 ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้มีความพิเศษยิ่งขึ้น
สุชาดา สหัสกุล นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย
สุชาดา สหัสกุล นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) กล่าวว่า แม้ศูนย์ฯ สิริกิติ์จะปิดปรับปรุง แต่ PUBAT เชื่อมั่นว่าสำหรับคนรักหนังสือ ไม่ว่าหนังสืออยู่ที่ไหนพวกเขาก็จะตามไป งานสัปดาห์หนังสือครั้งนี้ไม่ใช่การอำลาอาลัย แต่ชูคอนเซ็ปต์ "รักคนอ่าน" แสดงให้เห็นว่า 47 ปีของงานสัปดาห์หนังสือ และ 23 ปีที่เราจัดงานในศูนย์ฯ สิริกิติ์ พบความสำเร็จคือคนอ่าน ทุกปีจะเห็นบรรยากาศความเนืองแน่นของคนอ่านเป็นเรื่องปกติ เป็นภาพความทรงจำที่ควรเก็บไว้ เป็นความรักระหว่างคนทำหนังสือกับคนอ่านหนังสือ ความรักระหว่างคนอ่านด้วยกัน รวมถึงความรักที่คนอ่านหนังสือมีต่อคนทำหนังสือ งานนี้ใช้พื้นที่ทุกตารางนิ้วในศูนย์ฯ สิริกิติ์อย่างคุ้มค่าและเป็นประโยชน์ที่สุด ภายในงานรวบรวมสำนักพิมพ์กว่า 374 สำนักพิมพ์ โดยมีสำนักพิมพ์ต่างประเทศ 17 สำนักพิมพ์เข้าร่วมงาน มีจำนวนบูธรวม 924 บูธ เป็นบูธจากสำนักพิมพ์ต่างประเทศ 46 บูธ ตลอด 114 วัน จัดกิจกรรมที่น่าสนใจให้ผู้เข้าชมงาน เป็นกิจกรรมแสดงบนเวที 98 รายการ อบรมสัมมนาหัวข้อต่างๆ 30 กิจกรรม นิทรรศการพิเศษ 30 จุด
" งานสัปดาห์หนังสือครั้งนี้มีโซนรักคนอ่าน ประกอบด้วย 9 สิ่งใหม่...เพราะรักจึงจัดให้ คือ 6 ทศวรรษแห่งการเปลี่ยนแปลง จากสนามหลวงถึงศูนย์ฯ สิริกิติ์, 23 ปีแห่งความทรงจำกับงานหนังสือที่ศูนย์ฯ สิริกิติ์ ชวนมาเขียนความประทับใจติดท้ายหกล้อ, Cheer Reader: Book Fair Souvenir จำหน่ายสินค้าที่ระลึก ความพิเศษทุกใบเสร็จซื้อหนังสือ 500 บาทลุ้นรับจับรางวัล นอกจากนี้ มีคลินิกซ่อมหนังสือ, อ่านนอกเส้น: เล่นเส้นเล่นสี และ Book Blind Date นัดบอดกับหนังสือชวนอ่าน, แชะ & แชร์ กับหกล้อ รับโปสต์การ์ดของป๊อด โมเดิร์นด็อก สุดท้ายโซนตุลานี้เจอกันที่เมืองทองฯ อยากให้มีอะไรใหม่ๆ บอกได้เลย….?? เปิดโอกาสให้คนอ่านแนะนำสิ่งที่อยากให้เกิดขึ้นในงานหนังสือใหญ่ที่จะย้ายสถานที่ไปจัดเมืองทองธานี" นายกฯ PUBAT กล่าว และคาดหวังว่าปีนี้จะสามารถเพิ่มยอดขายได้มากกว่า 510 ล้านบาท จากเดิมขายได้กว่า 508 ล้านบาทเมื่อปี 2561
เตรียมพบกับคลีนิกซ่อมหนังสือในงานสัปดาห์หนังสือที่ศูนย์สิริกิติ์
ภายในงานสัปดาห์หนังสือครั้งนี้จะมีโครงการสำคัญที่ PUBAT เปิดตัวเป็นปีแรก สุชาดาบอกว่า เป็นโครงการ Read for Thailand อ่านสร้างคน คนสร้างชาติ เกิดจากการร่วมมือของภาคีเครือข่ายรักการอ่านทั่วประเทศ โดยจะนำต้นแบบ อปท. 100 แห่งที่จัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านสำเร็จมาเผยแพร่ มอบรางวัล เพื่อขยายผลสร้างสังคมอุดมด้วยความรู้สู่การพัฒนาชาติยั่งยืน ผู้เข้าชมงานเกือบ 2 ล้านคน จะได้แรงบันดาลใจ นอกจากนี้สมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ จะเขียนนโยบายส่งเสริมการอ่านเพื่อสร้างคุณภาพคน นำเสนอให้รัฐบาลชุดใหม่ในโอกาสต่อไปด้วย เรามีวาทกรรมทศวรรษแห่งการอ่าน, วาระการอ่านแห่งชาติ และแผนแม่บทส่งเสริมการอ่าน ถึงเวลาต้องคิดใหม่ ทำใหม่ เครือข่ายต้องรวมพลังทำให้ได้จริง
ส่วนโซนหนังสือต่างประเทศปีนี้คึกคัก นายกสมาคมฯ เผยว่าร่วมมือกับสมาคมสำนักพิมพ์ไต้หวันพันธมิตรหลักด้วยการเซ็น MOU เผยแพร่ลิขสิทธิ์ซึ่งกันและกัน รวมถึงจัดโซน business matching จับคู่ธุรกิจไทย ไต้หวัน จีน และได้เชิญวิทยากรพิเศษมาประจำบูธทุกวันเพื่อบรรยายเรื่อง "คนเรียงพิมพ์" ที่น่าสนใจนำเครื่องพิมพ์ตัวอักษรแบบโบราณก่อนพัฒนามาเป็นระบบโรงพิมพ์ในปัจจุบันมาจัดแสดงให้ชม และที่พลาดไม่ได้คือจะให้ความรู้การขายหนังสือ ขายลิขสิทธิ์หนังสือไทยไปต่างประเทศ และยังเป็นการเข้าร่วมงานหนังสือครั้งแรกของสมาคมการ์ตูนไต้หวัน คาดว่าจะสามารถขยายช่องทางการเผยแพร่งานกับขยายตลาดไทยในอนาคต
อ่านนอกเส้น: เล่นเส้นเล่นสี 1 ใน 9 สิ่งใหม่ จัดให้เพราะรักคนอ่าน
ด้าน นิดดา หงษ์วิวัฒน์ อดีตนายก PUBAT เล่าถึงการเปลี่ยนแปลงของงานสัปดาห์หนังสือว่า งานหนังสือจัดมา 58 ปี ใน 7 สถานที่ เริ่มจากสังคีตศาลา โรงละครแห่งชาติ, เวทีลีลาศ สวนลุมพินี, หอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, หอวัง จากนั้นมาจัดงานที่คุรุสภา ถนนลูกหลวง ในยุคที่ตนเป็นนายกฯ แม้จะร้อนจนต้องปาดเหงื่อ แต่คนก็มาซื้อหนังสือคึกคัก ต่อมาติดแอร์ในบูธทำให้คนอยู่ในงานนานขึ้น จนกระทั่งย้ายไปจัดงานที่ท้องสนามหลวงภายใต้แนวคิด "มิดไนต์เซลล์" จากยิปซีเร่ร่อนก็เข้ามาสู่กลางเมืองจัดงานมหกรรมหนังสือที่ศูนย์ฯ สิริกิติ์ เมื่อหมดวาระตนส่งไม้ต่อให้นายกฯ คนใหม่ สุวดี จงสถิตย์วัฒนา ให้จัดงานสัปดาห์หนังสือที่ศูนย์ฯ สิริกิติ์ ทำให้มีงานหนังสือใหญ่ระดับชาติปีละ 2 ครั้ง ก็ใช้พื้นที่ศูนย์ฯ สิริกิติ์เรื่อยมา เท่าที่ทราบยอดขายรวมทั้งงานเพิ่มขึ้นทุกปี
นิดดา หงษ์วิวัฒน์ อดีตนายก PUBAT ย้อนวันวานงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ
ในทัศนะ สุวดี จงสถิตย์วัฒนา อดีตนายก PUBAT และผู้ก่อตั้งบริษัท นานมีบุ๊คส์ จำกัด กล่าวว่า งานหนังสือที่ศูนย์ฯ สิริกิติ์ส่งผลให้มีนักอ่านมาร่วมงานมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ อีกทั้งการจัดสัปดาห์หนังสือนานาชาติควบคู่ไปด้วย ปีนี้เป็นครั้งที่ 17 แต่ละปีมีสมาคมหนังสือต่างประเทศร่วมงาน เปิดโอกาสให้สำนักพิมพ์ในไทยได้เห็นหนังสือของโลก ส่วนสำนักพิมพ์ต่างประเทศได้เห็นตลาดหนังสือไทย ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวซื้อขายลิขสิทธิ์ ธุรกิจหนังสือเติบโต ถือว่าศูนย์ฯ สิริกิติ์มีวิสัยทัศน์ชัดเจนมาร่วมเป็นภาคีสร้างสังคมแห่งการอ่านในประเทศไทย ก็หวังว่าเมื่อปรับปรุงแล้วเสร็จ สร้างอาคารสวยงามใหญ่โตกลับมาเปิดบริการก็จะสนับสนุนงานหนังสือต่อไป
สุวดี จงสถิตย์วัฒนา อดีตนายก PUBAT และผู้ก่อตั้งนานมีบุ๊คส์
ด้าน นิวัต พุทธประสาท นักเขียนและผู้ก่อตั้งสำนักพิมพ์เม่นวรรณกรรม กล่าวว่า ตนทำงานเขียนเรื่องสั้นและนวนิยายส่งผลงานให้สำนักพิมพ์ที่สนใจตีพิมพ์ จนกระทั่งปี 2540 เกิดวิกฤติต้มยำกุ้ง สำนักพิมพ์แจ้งว่าไม่สามารถออกหนังสือจำหน่ายได้ จึงมีแนวคิดเปิดสำนักพิมพ์เม่นวรรณกรรม เคยร่วมบูธงานหนังสือที่คุรุสภา แต่ส่วนใหญ่เป็นหนังสือเก่า ขณะที่หนังสือใหม่หายากมาก จนกระทั่งงานหนังสือย้ายมาจัดที่ศูนย์ฯ สิริกิติ์ ยุคนั้นยังไม่ได้สมัครสมาชิกสมาคมฯ ก็นำหนังสือใหม่ไปร่วมออกบูธกับ a day , open, บูรพาคอมมิคส์, ไบโอสโคป คนอ่านสนใจมาก เป็นงานเขียนแนวอินดี้ ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น สำนักพิมพ์เติบโต และได้สมัครเป็นสมาชิกสมาคมฯ
" งานหนังสือที่ศูนย์ฯ สิริกิติ์จะเปิดตัวหนังสือใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สอดคล้องกับผู้อ่านที่ก้าวเข้ามาในงานมากขึ้น เด็กเยาวชนหันมาสนใจการอ่านมากขึ้น งานหนังสือครั้งที่ 47 นี้ สำนักพิมพ์น้อยใหญ่เข้าร่วมงานจะแสดงให้เห็นว่า สำนักพิมพ์ที่มีคอนเทนต์ที่แข็งแกร่งจะต่อสู้กับความเปลี่ยนแปลงในธุรกิจหนังสือได้" นิวัตกล่าว และฝากท้ายถึงการย้ายสถานที่จัดงานไปยังเมืองทองธานี จำเป็นต้องสื่อสารให้ประชาชนทราบ รวมถึงอำนวยความสะดวกให้สมาชิกออกบูธและผู้เข้าชมงานให้ดีที่สุด
ส่วนเอเซียบุ๊คส ร้านหนังสือภาษาอังกฤษชั้นนำก็จัดแคมเปญ "คนอ่านรัก เราให้รัก" รับงานสัปดาห์หนังสือ โดย เกศริน เอนก กรรมการผู้จัดการบริษัท เอเซียบุ๊คส จำกัด กล่าวว่า งานนี้ยกทัพหนังสือหลายหมวดไปวางจำหน่าย จะจัดโปรโมชันที่บูธเอเซียบุ๊คส ลดสูงสุด 15% พร้อมสมัครสมาชิกฟรีเมื่อซื้อครบ 1,500 บาท หากซื้อหนังสือครบ 4,000 บาท รับส่วนลดมากถึง 30% สำหรับบูธบุ๊คกาซีนพบส่วนลดหนังสือราคาสูงสุด 80% และสินค้า Shock Price ราคา 59 บาท นอกจากนี้ ผู้ถือบัตรเครดิต KTC ซื้อหนังสือในงาน รับคูปองส่วนลด 200 บาทเมื่อซื้อ 1,500 บาทขึ้นไป และแลกรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 18% เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรครบทุก 500 บาท และสามารถผ่อนชำระนาน 3 เดือนเมื่อมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรรวม 3,000 บาทขึ้นไป
ชวนแฟนๆ งานสัปดาห์หนังสือและนักอ่านมาสัมผัสบรรยากาศงานหนังสือที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ มาเป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำร่วมกันได้ระหว่างวันที่ 28 มี.ค.-7 เม.ย.นี้.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |