ดวงเมืองก่อน-หลังเลือกตั้ง


เพิ่มเพื่อน    

   ภาพดวงเมืองรัตนโกสินทร์และดาวจรที่ทำมุมกับดวงเมืองวันที่ 24 มี.ค.62

      ทักษาเดิมดวงเมืองภูมิอาทิตย์ (๑)-ทักษาจรตกภูมิจันทร์ (๒)

                หลังจากเคยพยากรณ์ไว้ก่อนหน้านี้ถึงการเลือกตั้งทั่วไป (รวมทั้งกระบวนการเลือกตั้งทั้งหมด) ของประเทศรอบนี้ ที่จะมีขึ้นวันที่ 24 มีนาคม 2562 นั้น ผลออกมาจะเกินคาดหมายและแปลกประหลาดพิสดารเกินจะคาดคิด แบบล็อกถล่ม ด้วยมฤตยูจร(0) เจ้าของภัยอาเพศ-เหตุร้าย-เหตุไม่ทันคาดคิด-การผลัดเปลี่ยนทันทีทันใด-การปฏิวัติหรือเปลี่ยนแปลงไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัว ฯลฯ ทับลัคนา-พระอาทิตย์ (๑) ตัวแทนการเมืองและนักการเมือง-และจิตใจของคนในเมือง(พระอาทิตย์-ตนุเศษ) นั้น

                ต่อมาหลายเรื่องที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งออกอาการแปลกประหลาดตามอาการของมฤตยูนำมาแล้ว ที่ผู้เขียนขอบันทึกไว้เป็นปูมโหรที่เกิดขึ้นแล้ว เช่น

                1.จำนวนผู้สมัครและพรรคการเมืองที่ส่งคนลงสมัครรับเลือกตั้งจำนวนมากมายสร้างประวัติศาสตร์ใหม่

                2.เกิดเหตุการณ์วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ตื่นตะลึงงงงวย-เหลือเชื่อกันทั้งเมือง และล็อกก็พลิกกลับในวันเดียว เรียกได้ว่าเหตุการณ์ระหว่างเวลาประมาณ 10.00-23.00 น.นั้น เป็นตัวอย่างมฤตยูของแท้จนนำไปสู่การยุบพรรคไทยรักษาชาติในที่สุด

                3.ขณะที่พรรคการเมืองอื่นๆ สาละวนกับการแย่งเสียงผู้ลงคะแนนในแบบเดิมๆ พรรคที่ดูเหมือนจะขี่มฤตยูที่เป็นสัญลักษณ์ของนักปฏิวัติมาพร้อมกับยุคใหม่ที่ 13 ของกรุงรัตนโกสินทร์ แต่คนที่ยอมรับไม่ได้มองว่าเป็นพวกวิตถาร น่ารังเกียจก็ปรากฏโฉมขึ้นมาเป็นที่สนใจทั้งเมืองคือพรรคอนาคตใหม่

                4.มีการใช้เทคโนโลยีสื่อสารที่ทันสมัยหาเสียงและสู้กันดุเดือดเลือดพล่านในระดับน้องๆ สงครามไซเบอร์กันเลยทีเดียว รวมทั้งสารพัดโพลที่ขัดแย้งกันเองหากคุมสติไม่ดี รับข้อมูลมากๆ อาจจิตตกได้ง่ายๆ

                ทีนี้มาถึงส่วนที่ยากที่สุดคือการเสี่ยงออกทำนายอาการของดวงเมืองในระยะเลือกตั้งและหลังเลือกตั้ง ที่ขอสารภาพว่าคิดจนปวดหัว-นั่งอ่านรหัสดาวจร-ทักษาจร ที่จะมีผลต่อดวงเมืองมาเป็นอาทิตย์แล้ว เพื่อที่จะขยายความให้มากขึ้นจากคำว่า ล็อกถล่ม ด้วยเหตุที่ว่า ยิ่งลงรายละเอียดมากกว่ากรอบยิ่งสุ่มเสี่ยงต่อการผิดพลาดมาก โดยพยายามไม่ให้มีผลของโพลต่างๆ มาย้อมอารมณ์ด้วยอคติก็พอจะมีแนวดังนี้

                1.การเลือกตั้งคราวนี้ต้องมีอะไรที่แปลกประหลาดออกมาเกินคาดคิดให้อ้าปากค้างอีกแน่ๆ ทั้งลีลา-ผลการเลือกตั้ง และการจัดตั้งรัฐบาล เพราะมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ซ่อนอยู่เหนือกว่าโพลทั้งหลายที่ทำกัน ที่ผู้เขียนเชื่อว่าวิธีการสุ่มตัวอย่างอาจจะไม่สะท้อนอารมณ์ของประชาชนได้ครอบคลุมพออธิบายทางโหรคือ

                1.1 การที่มฤตยูจรทับพระอาทิตย์ดวงเดิมดวงเมือง (๑) นั้น นอกจากบ่งบอกถึงเรื่องไม่คาดฝันที่จะเกิดกับการเมือง-นักการเมือง-พรรคการเมืองต่างๆแล้ว พระอาทิตย์นี้ยังเป็นตัวแทนจิตใจของคนของเมืองรัตนโกสินทร์ (ตนุเศษ) ด้วย ฉะนั้นจิตใจของคนในเมืองย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามอาการของมฤตยูด้วย อันจะยังผลให้การเลือกตั้งครั้งนี้มีบรรยากาศของมฤตยูที่ล้ำสมัยอบอวลไปหมด เช่น การสู้กันทางไซเบอร์-โซเชียลฯ เป็นต้น

                1.2 ช่วงเลือกตั้งทักษาจรของเมืองตกภูมิจันทร์(๒) ที่เป็นตัวแทนประชาชนคนไทยในเมือง ซึ่งแล้วตามหลักทักษาบอกว่า เมื่อใดก็ตามทักษาตกภูมินี้หากเป็นคนจะเกิดอาการผันแปร คือ..เป็นชีนึกอยากสึก เป็นคฤหัสถ์นึกอยากบวช ฉะนั้นในช่วงเลือกตั้งจึงคงคาดหมายอารมณ์ของประชาชนได้ยากมาก

                2.เกิดอาการตรึงกันระหว่างหัวหน้าดาวดี-ร้ายในดวงเมือง คือในท่ามกลางสถานการณ์ที่หัวหน้าเทวดาประจำเมืองเดินเข้าราศีธนู ช่วยให้เมืองเข้มแข็งมาตั้งแต่ 3 มีนาคม 2562 นั้น ปรากฏการณ์หนึ่งที่เกิดซ้อนเข้ามาคือการตรึง หรือสมาสัปต์กันระหว่างพฤหัสบดีหัวหน้าดาวดีและพระเสาร์หัวหน้าดาวร้ายในดวงเมือง (ในราศีธนู-พฤหัสบดีจร 5 ทับพระเสาร์ดวงเดิม ๗ ขณะที่พระเสาร์จร 7 ก็ทับพฤหัสบดีดวงเดิม ๕)

                ปรากฏการณ์สมาสัปต์ของหัวหน้าดาวดีและดาวร้ายในดวงชะตาคนนี้คือ หากพบในชะตาคนผู้เขียนจะเตือนก่อนล่วงหน้าเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ที่จะตามมา คือถูกบีบหน้าเขียวหน้าเหลือง ให้เดินในทางแคบๆ ที่ไม่อยากเดิน แต่ทำใจต้องเดินให้ผ่านพ้น เพื่อที่หลังจากปรากฏการณ์สิ้นสุดลงแล้วชีวิตจะพัฒนาไปอีกขั้นหนึ่ง และดีขึ้นกว่าเดิม

                ส่วนสิ่งที่เกิดขึ้นกับเมืองนั้น ก็เป็นมาตั้งแต่วันที่ 3มีนาคม 2562 แล้ว ที่คนทั้งเมืองออกอาการอึดอัดกับการเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่รู้จะออกหัวหรือก้อย และอาการนี้จะเป็นไปถึงหลังเลือกตั้งจนถึงวันที่ 8 เมษายน 2562

                3.ประมาณวันที่ 8 เมษายน 2562 เป็นต้นไปความชัดเจนของสถานการณ์จะเริ่มปรากฏ (พฤหัสบดีจรเริ่มเดินถอยหลังจากการตรึงกับพระเสาร์)

                4.เตรียมใจรับกับกระบวนการหา-โหวตหาตัวนายกรัฐมนตรีไว้ว่าคงมีเรื่องแปลกๆ เกิดขึ้น เช่น งูเห่า-งูเหลือม-เสือ-สิงห์ หรืออื่นๆ เพราะในความเป็นจริง รัฐธรรมนูญให้เอกสิทธิ์การโหวตของ ส.ส.อยู่เหนือมติพรรค

                5.ส่วนคนที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ผู้เขียนเคยทำนายไว้ในหนังสือศาสตร์แห่งโหรปี 2562 ของสำนักพิมพ์มติชนไว้ก่อนแล้ว ที่แม้จะพลาดในเรื่องเวลาไปหลายอย่าง แต่ก็ยืนยันเหมือนที่พูดไว้หลายครั้ง-หลายแห่งคือ นายกรัฐมนตรีจะเป็นคนเก่า (เคยเป็น) ด้วยเกณฑ์ที่พระเสาร์จร (7) ซึ่งเป็นตัวแทนรัฐบาลทับพฤหัสบดีดวงเดิม (๕) ตัวแทนรัฐสภาที่ราศีธนู มีโฉลกว่า ..เสาร์ทับพฤหัสฯ สิริสวัสดิลาภา สิ่งสินและเงินตราจะลุโดยสะดวกดาย ศัตรูจะอัปรา และวัตถาระส่ำระสาย สินทรัพยะสูญหาย ก็จะคืนจะคงเรือน ..แปลง่ายๆ ตรงๆ คือ เสียอะไร-ใครไปก็จะได้กลับมา

                อีกทั้งพระเสาร์จร (7) นี้ก็ทับพระเสาร์ดวงเดิม (๗) บ่งบอกถึงคนเก่า คงต้องกลับมาใช้กรรมเก่าที่ทำไว้ให้จบ

                แต่หากคำทำนายจะพลิก-พลาดได้คนใหม่มาเป็นนายกรัฐมนตรีแบบขี่มฤตยูมาสร้างความแปลก-ประหลาดใจก็คิดเสียว่าโหรถูกมฤตยูน็อกปลายคางแบบการเลือกตั้งมาเลเซียที่น็อกทุกโพลและความคาดหมาย.

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"