16 มี.ค.62 - นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความเรื่อง "ประชาธิปไตย กับ เสรีนิยมประชาธิปไตย" ลงบนเฟซบุ๊ก โดยมีเนื้อหาดังนี้
ตั้งหลักกันดีๆนะครับ ประชาธิปไตยมิใช่ความคิด"สุดโต่ง" ที่ให้พี่น้องประชาชน"เลือกข้าง" เพราะประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขอยู่แล้ว มิใช่ว่า หากเลือกฝ่ายนั้นจะเป็นฝ่ายประชาธิปไตย แต่หากเลือกฝ่ายนี้จะเป็นฝ่ายเผด็จการ ลองตอบคำถามง่ายๆดูนะครับ ทำไมฝ่ายที่อ้างตัวเองตัวว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตยจึง"ติดคุก"กันเกือบครึ่งครม.แล้ว และที่หนีอยู่ต่างประเทศก็เป็นร้อย ประชาธิปไตยมิใช่มาจากการเลือกตั้งอย่างเดียว แต่ต้องมีธรรมาภิบาล หรือ มีหลักนิติรัฐด้วย ตามคำกล่าวที่ว่า "ประเทศมิได้ปกครองด้วยรัฐบาล แต่ประเทศปกครองด้วยกฎหมาย" ประเทศไทยจึงมีพรรคการเมือง 2 ฝ่ายที่สู้กันอยู่ในสนามเลือกตั้ง อย่างเข้มข้น คือ
1.ฝ่ายประชาธิปไตย
2.ฝ่ายเสรีนิยมประชาธิปไตย
-เนื่องจากประชาธิปไตยเป็นการปกครองด้วยเสียงข้างมาก ประชาธิปไตยจึงมีแนวโน้มเป็นเผด็จการ ที่เรียกว่า"เผด็จการเสียงข้างมาก" ระบอบประชาธิปไตยจึงพัฒนาตัวเองขึ้นมาอีกขั้นหนึ่ง เพื่อป้องกันเผด็จการเสียงข้างมาก ระบอบที่พัฒนาตัวเองขึ้นมาเรียกว่า"เสรีนิยมประชาธิปไตย" คือมีวิธีการคุ้มครองเสียงข้างน้อยจากเสียงข้างมากมากขึ้น ระบอบเสรีนิยมประชาธิปไตย ในประเทศไทยเริ่มต้นจากรัฐธรรมนูญ ปี 2540 จนถึงปัจจุบัน นับแต่ 2540 เป็นต้นมาเราจึงเห็นฝ่ายเสียงข้างมากที่ไม่มีหลักนิติรัฐหนีออกต่างประเทศ และเดินเข้าคุกกันเป็นแถว เครื่องมือสำคัญของระบอบเสรีนิยมประชาธิปไตยคือ "องค์กรอิสระ" พรรคประชาธิปัตย์ เป็นฝ่าย"เสรีนิยมประชาธิปไตย" มาตั้งแต่ 6 เมษายน 2489 ซึ่งเป็นวันก่อตั้งพรรค เราจึงมิใช่พรรคเฉพาะกิจแต่เป็นพรรคเสรีนิยมประชาธิปไตย ที่เดินเคียงคู่กับประเทศไทยมายาวนาน.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |