นายกฯ บินไปเชียงราย-แพร่ ติดตามการแก้ปัญหาฝุ่นพิษ ไม่เสียเที่ยวแวะพบมวลชน 18 อำเภอ กว่า 2 หมื่นคน กรมควบคุมมลพิษรายงาน 8 จังหวัดค่าฝุ่นอยู่ในโซนสีแดง เชียงใหม่ยังครองอันดับ 1 เมืองท่องเที่ยวที่มีมลพิษสูงสุดในโลก

    เมื่อวันศุกร์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ขณะนี้กำลังติดตามสถานการณ์ปัญหาหมอกควันภาคเหนืออย่างใกล้ชิด พรุ่งนี้จะไปตรวจราชการจังหวัดเชียงรายกับแพร่ ที่ยังพบว่าค่าฝุ่นละอองยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในบางพื้นที่ สั่งกำชับให้ส่วนราชการทุกส่วน ทั้งทหารและพลเรือน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เอกชน จัดรณรงค์เพิ่มความชุ่มชื้นและลดค่าฝุ่นละอองในอากาศ และขอความร่วมมือฉีดสเปรย์น้ำบนตึกสูงของภาคเอกชน เพื่อลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศ
     ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศได้ทางเว็บไซต์ air4thai.pcd.go.th และแอปพลิเคชัน air4thai ครับ
    มีรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์จะเดินทางด้วยเครื่องบินถึงท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงจังหวัดเชียงราย ในเวลา 08.30 น. วันที่ 16 มี.ค. จากนั้นเดินทางไปสักการะอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช ก่อนจะไปพบปะผู้สูงอายุ กลุ่มผู้ใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มหาวิทยาลัยวัยที่ 3 จากนั้นเดินทางต่อไปเป็นประธานเปิดสะพานถนนเลี่ยงเมืองตะวันตกแห่งใหม่ และเดินทางต่อไปยังศาลากลางจังหวัดเชียงราย เพื่อพบมวลชนจาก 18 อำเภอ ซึ่งคาดว่ามีจำนวนกว่า 20,000 คน กระทั่งช่วงบ่ายจึงเดินทางไปยังจังหวัดแพร่
    ด้านสถานการณ์ฝุ่นละอองในภาคเหนือ พบว่ายังอยู่ในภาวะวิกฤติ โดย 9 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบ มี 14 พื้นที่ค่าฝุ่นละออง PM 2.5 เกินมาตรฐานอยู่ในเกณฑ์สีแดง คือ มีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะ ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ค่าฝุ่นพุ่งสูงสุดใน 9 จังหวัดต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 โดยช่วงเช้าวันศุกร์วัดได้ 203 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ทำให้ทั่วทั้งอำเภอแม่สาย ท้องฟ้าเป็นสีเทา เจ้าหน้าที่ระดมรถดับเพลิงฉีดพ่นละอองน้ำวันละ 2 รอบ พร้อมประสานประเทศเพื่อนบ้านร่วมแก้ปัญหา เนื่องจากฝุ่นละอองส่วนหนึ่งเกิดจากไฟไหม้ตามแนวตะเข็บชายแดน
    ส่วนสภาพท้องฟ้าตัวเมืองเชียงใหม่ ยังคงมีหมอกควันปกคลุมหนาแน่นจนมองไม่เห็นดอยสุเทพ ค่า PM 2.5 อยู่ที่ 85-148 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ทั้งนี้ เว็บไซต์ แอร์วิช่วล ได้จัดอันดับดัชนีคุณภาพอากาศตามเมืองท่องเที่ยวทั่วโลกประจำวันที่ 15 มี.ค. เวลา 08.10 น. พบว่าเชียงใหม่ยังติดอยู่ในอันดับ 1 เมืองที่มีมลพิษมากที่สุดติดต่อกันเป็นวันที่ 4 โดยค่า AQI หรือ Air Quality Index อยู่ที่ 250 
    สำหรับการเดินทางด้วยเครื่องบินจากเชียงใหม่ไปแม่ฮ่องสอน ตลอด 4 วันที่ผ่านมา ได้ยกเลิกไปแล้วหลายเที่ยวบิน โดยเฉพาะเที่ยวบินเช้าที่จะยกเลิกไปจนถึงวันที่ 16 มี.ค. เนื่องจากสนามบินแม่ฮ่องสอนมีหมอกควันไฟปกคลุม ส่วนสนามบินเชียงใหม่มีทัศนวิสัยในการมองเห็นของนักบินประมาณ 1,800-2,500 เมตร
    เว็บไซต์กรมควบคุมมลพิษแจ้งว่า ภาคเหนือ 8 จังหวัด อากาศอยู่ในระดับสีแดง มีผลกระทบต่อสุขภาพ ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง อยู่ที่ 71-203 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร คือจังหวัดตาก น่าน พะเยา ลำปาง ลำพูน เชียงราย เชียงใหม่ และแม่ฮ่องสอน
    ที่ลำปาง ไฟไหม้บ่อขยะเอกชน หรือบ่อขยะลุงแก้ว เขตบ้านจำบอน หมู่ 3 ต.ต้นธงชัย อ.เมืองฯ ที่เกิดขึ้นตั้งแต่เย็นวันที่ 14 มี.ค. ยังไม่มีทีท่าจะดับลงได้ ทั้งขยายวง แม้เจ้าหน้าที่จะพยายามฉีดน้ำดับ ทว่าทำได้เพียงด้านบน แต่ข้างใต้ที่มีขยะทับถมจำนวนมาก ไฟยังลามส่งผลให้มีควันโขมงเต็มพื้นที่ ทำให้ประชาชนในย่านนั้นนัดรวมตัวกันไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม.