กกต.ย้ำเทคะแนนผิดมาตรา 73 ชี้รณรงค์โหวตโนทำได้ แต่ต้องไม่หวังผลล้มเลือกตั้ง รอคกก.ไต่สวนพิจารณา "ธนาธร" รอด! หลักฐานไม่พอมัดประธาน สอท.เก๊ "ศรีสุวรรณ" ร้องยุบอนาคตใหม่ หลังยอมรับอดีตผู้สมัคร ทษช.เทเสียงให้
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อวันที่ 14 มีนาคม พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา กกต. กล่าวถึงกรณีที่ กกต.มีมติตั้งคณะกรรมการไต่สวน เพื่อตรวจสอบการที่อดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ประกาศเทคะแนนให้ผู้สมัครรายอื่น และมีการรณรงค์โหวตโนว่า ได้มีการตั้งคณะกรรมการไต่สวนแล้ว ซึ่งการรณรงค์โหวตโน ตามมาตรา 73 สามารถทำได้ แต่คณะกรรมการฯ เห็นว่าเป็นลักษณะที่ทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตเที่ยงธรรม เช่น ไปรณรงค์ให้โหวตโนเพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งไม่ใช่วัตถุประสงค์ของการเลือกตั้งอยู่แล้ว คณะกรรมการฯ จึงต้องพิจารณาว่าจุดมุ่งหมายดังกล่าวทำให้การเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์ยุติธรรมหรือไม่ ซึ่งเรื่องเทคะแนนขณะนี้ยังระบุชัดเจนในฐานความผิดมาตรา 73 จึงมีการตั้งคณะกรรมการฯ ขึ้นมาไต่สวนเพื่อเข้ามาพิจารณาการกระทำดังกล่าว ดังนั้นเป็นดุลพินิจของคณะกรรมการฯ ว่าจะคิดหรือทำอย่างไรในประเด็นทางข้อกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ ยืนยันว่าการรณรงค์โหวตโนสามารถทำได้ แต่ถ้าวัตถุประสงค์หรือวิธีการผิด คณะกรรมการฯ จะพิจารณาต่อไป แต่ยังไม่ขอระบุเรื่องบทลงโทษ เพราะยังไม่ทราบว่าการกระทำจะเข้าข่ายขัดกฎหมายอย่างไร และยังไม่ได้คิดว่าจะเกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองอย่างไร
เมื่อถามว่า ในอดีตที่มีการรณรงค์โหวตโน เหตุใดถึงสามารถทำได้ พ.ต.อ.จรุงวิทย์กล่าวว่า กกต.ดูว่าเป้าหมายว่าทำให้การเลือกตั้งสุจริตและเที่ยงธรรมหรือไม่ หรือทำในลักษณะที่มีเป้าหมายอื่นบางประการ ส่วนที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าขณะนี้ กกต.มุ่งพิจารณา แต่คำร้องของฝ่ายที่ตรงข้ามรัฐบาลนั้น เราไม่ได้มองไปขนาดนั้น อะไรที่ดำเนินการได้ก็รีบทำให้เสร็จ อย่างไรก็ตาม หากเกิดกรณีมีเขตที่คะแนนโหวตโนชนะผู้ที่ได้รับการเลือกตั้ง ซึ่งการจัดการเลือกตั้งใหม่ต้องเกิดขึ้นก่อนการประกาศรับรองผล เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการคิดคำนวณคะแนนปาร์ตี้ลิสต์
สำหรับกรณีที่มีการลงประวัติผู้สมัครผิดพลาดนั้น ในกรณีที่เป็นเอกสารแนะนำตัว ได้ส่งใบแก้ไขไปยังผู้มีสิทธิเลือกตั้งแล้ว แต่ในกรณีของสมาร์ทโหวตมีผิดพลาด 6 ราย ซึ่งได้แจ้งแก้ไขไปเรียบร้อย และขอน้อมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น
พ.ต.อ.จรุงวิทย์เปิดเผยด้วยว่า ในการประชุม กกต. เมื่อวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้พิจารณากรณีมีผู้ร้องเรียนกล่าวหานายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ว่าจะทำการความผิดตามมาตรา 73 (5) ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. เนื่องจากปรากฏข่าวในโซเชียลมีเดียและเว็บไซต์ของพรรคอนาคตใหม่ว่า นายธนาธรเคยดำรงตำแหน่งประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย 2 วาระ ซึ่งตามข้อเท็จจริงนายธนาธรไม่เคยดำรงตำแหน่งดังกล่าวมาก่อน โดย กกต.ไ ด้พิจารณาคำร้องแล้วเห็นว่า พยานหลักฐานยังฟังไม่ได้ว่านายธนาธรได้กระทำความผิดตามมาตรา 73 (5) ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. จึงมีมติให้ยุติเรื่อง
ทางด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่อดีตผู้สมัคร ทษช. ประกาศเทคะแนนของตัวเองให้กับผู้สมัครของพรรคการเมืองอื่นว่า ไม่ทราบ เรื่องอยู่ที่ กกต.แล้ว ขอให้ กกต.เป็นผู้พิจารณาเอง ตนตอบไม่ถูก ส่วนประเด็นรณรงค์ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งโหวตโนในการเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค.นี้นั้น กรณีนี้ไม่ถูก ไม่ได้ บอกให้ประชาชนรู้ได้ว่าโหวตได้ 3 อย่าง แต่จะไปยุว่าอย่าไปโหวตให้คนโน้นคนนี้เลยไม่ได้ กฎหมายเขียนไว้ชัดเลย อย่างนี้ผิดแน่ แต่โทษไม่ได้มากมายอะไร โทษนิดเดียว
นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การทำหน้าที่ของ กกต. นอกจากจะเป็นปัญหาในขณะนี้แล้ว อาจจะเป็นปัญหายืดเยื้อไปในอนาคตหลังการเลือกตั้งด้วย เพราะถ้าพิจารณาข้อกฎหมาย จะเห็นได้ว่าการรณรงค์ไม่เลือกผู้สมัครหรือพรรคใดนั้น ถือว่าเป็นสิทธิ ซึ่งได้มีการบัญญัติไว้เช่นเดียวกับการรณรงค์ให้เลือกใครคนใดคนหนึ่ง โดยมีข้อห้ามในทำนองเดียวกัน คือ ห้ามจูงใจ ห้ามให้ทรัพย์สินหรือห้ามจัดมหรสพ สำหรับดึงคนให้มาเลือกเรา ซึ่งถ้าสังเกตจะเห็นว่ามีช่องไม่ประสงค์จะเลือกผู้สมัครคนใด ที่จะต้องมีการนับคะแนนในการเลือกตั้งด้วย หากคะแนนของผู้สมัครในเขตนั้นน้อยกว่าคะแนนในส่วนนี้ต้องมีการเลือกตั้งใหม่ หาก กกต.วินิจฉัยเช่นนี้ และไปเอาผิด แล้วหลังเลือกตั้งเกิดการโต้แย้งว่าเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ อาจเป็นปัญหาขึ้นในอนาคต
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีอดีตผู้สมัครพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) จ.ฉะเชิงเทรา ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กแฟนเพจ ฐิติมา ฉายแสง เมื่อเช้าวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยเชิญชวนให้ประชาชนเลือกพรรคฝั่งประชาธิปไตย เขต 1 ฉะเชิงเทรา เลือกพรรคอนาคตใหม่ นายกิตติชัย เรืองสวัสดิ์ เบอร์ 10 และต่อมาโฆษกพรรคอนาคตใหม่ได้ให้สัมภาษณ์กล่าวขอบคุณคุณฐิติมา ที่เชิญชวนประชาชนในเขตเลือกตั้งของตนเองให้สนับสนุนพรรคอนาคตใหม่ ความดังทราบแล้วนั้น
กรณีดังกล่าวอาจถือได้ว่าเป็นการกระทำที่เข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรา 28 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ที่บัญญัติว่า “ห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอมหรือกระทําการใดอันทําให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่สมาชิกกระทําการอันเป็นการควบคุม ครอบงํา หรือชี้นํา กิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทําให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม” ซึ่งมีบทลงโทษค่อนข้างแรงตามมาตรา 92(3) ซึ่งอาจนำไปสู่การยุบพรรคอนาคตใหม่ได้ ดังนั้นในวันที่ 15 มี.ค. เวลา 10.00 น. สมาคมฯ จะนำความพร้อมหลักฐานไปยื่นร้องต่อ กกต. เพื่อดำเนินการไต่สวนสอบสวน โดยเฉพาะการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญในการมีคำสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ กรณีกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ยอมรับอดีตผู้สมัครพรรคไทยรักษาชาติเทคะแนนเสียงให้
วันเดียวกัน นายศรีสุวรรณได้เดินทางไปยื่นคำร้องต่อผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เพื่อขอให้ตรวจสอบการใช้จ่ายเงินแผ่นดินของสำนักงาน กกต. ว่ามีการใช้จ่ายเงินในการเตรียมการเลือกตั้งกว่า 10 โครงการ เป็นไปด้วยความคุ้มค่า มีผลสัมฤทธิ์ตามกฎหมายหรือไม่ โดยเฉพาะการใช้กล่องลังทำคูหาเลือกตั้งที่มาเลเซีย และการอ้างไปติดตามการเลือกตั้งนอกประเทศของ 7 กกต.เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หากพบความผิด ให้ดำเนินการเอาผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน 2561 ประกอบพระราชบัญญัติงบประมาณ 2561 และพระราชบัญญัติการเงินการคลังของรัฐ 2561 ต่อไป
ขณะที่นายณพล ชยานนท์ภักดี ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 พรรคเพื่อชาติ เปิดเผยว่า มีกลุ่มบุคคลในพื้นที่ที่ถืออำนาจ ปล่อยข่าวหรือปฏิบัติการไอโอข่มขู่ประชาชนห้ามมาฟังการปราศรัยของพรรคเพื่อชาติ หากมีประชาชนคนใดเดินทางไปฟัง จะถูกทหารตามไปคุยถึงบ้าน และบอกให้ไปสนับสนุนพรรคอื่น หากช่วยจะมีค่าตอบแทนให้ด้วย ซึ่งเรื่องดังกล่าวนี้เกิดขึ้นทั้งกับผู้นำชุมชนผู้ใหญ่บ้าน รวมถึงนายกองค์การบริหารส่วนตำบลทุกแห่งในจังหวัดตาก.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |