บันทึกหน้า4


เพิ่มเพื่อน    

      อิสรภาพแห่งความคิด www.thaipost.net ขึ้นเวทีปราศรัยพรรคพลังประชารัฐไม่ได้ เพราะมีนักสืบตาสับปะรดคอยจ้องจับผิด แต่ไม่มีปัญหา “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หาวิธีอย่างอื่นได้ โดยเฉพาะการลงพื้นที่พบปะประชาชนในฐานะผู้นำรัฐบาล

      โปรแกรมลงพื้นที่โหดกว่าไปปราศรัยบนเวทีพรรคพลังประชารัฐเยอะ เพราะวันก่อนเพิ่งจะลงพื้นที่ จ.ขอนแก่น–นครราชสีมา มาหยกๆ วันเสาร์ที่ 16 มีนาคมนี้ มีคิวขึ้นเหนือสุดแดนสยามไปที่ จ.เชียงราย ควบ จ.แพร่ พัก 2 วัน วันที่ 18 มีนาคม ยกขบวนลงใต้ไปที่ จ.นครศรีธรรมราช เพื่อเยี่ยมเยียนผู้ประสบภัยพายุปาบึก เท่านั้นไม่พอ วันรุ่งขึ้น 19 มีนาคม ยกพลกันไปเหยียบโซนตะวันตกกันที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ร่วมพิธีฉลองการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามแม่น้ำเมย/ตองยิน แห่งที่ 2

      ไม่พักหายใจหายคอ 20 มีนาคม ช่วงเช้า “บิ๊กตู่” อยู่กรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจราชการสวนเบญจกิติ หลังรับประทานมื้อเที่ยงเสร็จ บ่ายคล้อย จะยกคณะไปภาคตะวันออก ตรวจราชการที่ จ.ฉะเชิงเทรา เรียกว่า 5 วัน ชีพจรลงเท้าครบทุกภาค อยากจับผิดกันนัก ก็เอากันแบบนี้เลย …๐

      ว่าแต่ “บิ๊กตู่” คิวแน่นราวกับศิลปิน ปฏิทินปราศรัยของพรรคพลังประชารัฐก็น้อยหน้าที่ไหน 16–22 มีนาคม ขึ้นเวทีกันทุกวัน ชนิดว่าทำคะแนนจนนาทีสุดท้าย หนำซ้ำยังอัดนโยบายล่อใจแบบโครมคราม อย่างการปรับค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 บาท เรียกว่า ทั้ง “แคนดิเดตนายกฯ” และ “พรรคพลังประชารัฐ” อัดแบบไม่มีอะไรจะเสีย …๐

      แต่ไม่น่าแปลกใจ เพราะโจทย์ใหญ่ของพรรคพลังประชารัฐตอนนี้คือ การโกยที่นั่ง ส.ส.ในสภาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ตามคิวที่ “สมศักดิ์ เทพสุทิน” ประธานเฉพาะกิจรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง คำนวณสมการการเมือง พรรคพลังประชารัฐ ต้องได้ที่ 1 หรือ 2 เท่านั้น เพื่อง่ายในการจัดตั้งรัฐบาลตามเป้าหมาย

      โดยเฉพาะเมื่อ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาประกาศไม่สนับสนุน “บิ๊กตู่” ทำให้การจัดตั้งรัฐบาลมี “เงื่อนไข” ทางเดียวที่จะทำให้ทุกอย่างราบรื่นคือ เข้าวินเป็นอันดับที่ 1 หรือ 2 เพื่อให้เหนือกว่าพรรคพระแม่ธรณีบีบมวยผม    

      เพราะถ้าพรรคพลังประชารัฐได้ ส.ส.มากกว่าพรรคประชาธิปัตย์ ความชอบธรรมในการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลจะมีมากขึ้น และเงื่อนไขของพรรคประชาธิปัตย์จะน้อยลง กลับกัน หากเป็นพรรคสีฟ้าที่มีคะแนนมากกว่า คงไม่ยอมให้พรรคพลังประชารัฐที่มีคะแนนน้อยกว่าชู “บิ๊กตู่” ปาดหน้า “อภิสิทธิ์” แน่ ดังนั้น ตอนนี้ลุยปั่นแต้มเพื่อแซงพรรคเก่าแก่คือเป้าหมายหลัก …๐

      พรรคส้มหวาน สบายใจไปอีกคดี! หลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยุติการสอบกรณีพรรคอนาคตใหม่ใส่ประวัติ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” หัวหน้าพรรค ในเว็บไซต์เป็นเท็จ ในประเด็นการดำรงตำแหน่งประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยจนเวลาผ่านล่วงเลยมาหลายเดือน โดยมองเห็นว่า พยานหลักฐานยังฟังไม่ได้ว่า กระทำผิดตามมาตรา 73 (5) ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. อย่างไรก็ดี แม้จะเหลืออีกหลายคดีที่ถูกร้องจนกองเป็นภูเขา แต่ดูแล้วคงไม่มีอะไรให้หวาดระแวง ลากยาวถึง 24 มีนาคมได้ ยกเว้นก็แต่คนในพรรคจะทำตัวเอง จนเป็นเรื่องเป็นราวเหมือนหลายๆ ครั้ง …๐

      ขณะที่ความเคลื่อนไหวใน จ.แพร่ หลัง “วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล” อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคไทยรักษาชาติ เตรียมจะเดินหน้าให้ประชาชน “โหวตโน” เพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ แล้วตัวเองจะกลับมาลงสมัครได้ ชักไม่ราบรื่น หลัง “เนติบริกร” วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ออกมาพูดในโทนเสียงเดียวกับประธาน กกต.ว่า ระวังผิดกฎหมาย แม้เจ้าตัวจะปากกล้าขาสั่น มั่นใจว่าไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ถ้าประเจิดประเจ้อดูแล้วมีเสียว เพราะแม้ไม่ใช่ผู้สมัคร แต่กฎหมายเลือกตั้งก็ครอบคลุมประชาชนคนธรรมดาที่กระทำผิดเหมือนกัน

      อีกอย่างผู้สมัคร ส.ส.พรรคอื่นใน จ.แพร่ คงไม่อยู่นิ่ง ต่อจะให้เป็นพันธมิตรกันก็เถอะ เพราะถ้า “โหวตโน” มีคะแนนมากที่สุด จนต้องจัดการเลือกตั้งใหม่ บรรดาผู้สมัครครั้งนี้จะหมดสิทธิ์ลงอีกโดยอัตโนมัติ ดังนั้น คงไม่มีใครอยากให้ลงเอยอย่างนั้น …๐


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"