สถานการณ์ฝุ่นละอองยังไม่กระเตื้อง 9 จังหวัดภาคภาคเหนืออยู่ในระดับสีแดง เชียงใหม่ครองอันดับ 1 มลพิษสูงสุดในโลกเป็นวันที่ 3 ม.เชียงใหม่ประกาศงดการเรียนการสอน 14-15 มี.ค. ขณะที่ภาคกลางสระบุรีที่มีโรงปูนก็ยังคลุ้ง ด้านกรมอุตุฯ เตือนพายุฤดูร้อน กทม.โดนหางเลขด้วย
เมื่อวันที่ 13 มีนาคม นายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล พบว่า มีค่าฝุ่นอยู่ระหว่าง 32-66 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ซึ่งค่ามาตรฐานอยู่ที่ 50 มคก./ลบ.ม. คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับคุณภาพดีมากถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยพื้นที่ที่เกินมาตรฐานคือ บริเวณถนนกาญจนาภิเษก เขตบางขุนเทียน กทม. 66 มคก./ลบ.ม., ต.ทรงคะนอง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ 55 มคก./ลบ.ม., ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร 58 มคก./ลบ.ม., ริมถนนคู่ขนานพระราม 2 อ.เมือง จ.สมุทรสาคร 53 มคก./ลบ.ม.
สำหรับปัญหาหมอกควัน 9 จังหวัดภาคเหนือ เมื่อเวลา 09.00 น. พบว่าค่าฝุ่นละอองเพิ่มขึ้นในทุกพื้นที่ คุณภาพอากาศมีค่าอยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ ฝุ่นละออง PM 2.5 ตรวจพบค่าระหว่าง 68-172 มคก./ลบ.ม. วิกฤติสีแดง คือที่ จ.เชียงราย ได้แก่ ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย 172 มคก./ลบ.ม. ต.เวียง อ.เมือง 91 มคก./ลบ.ม., จ.เชียงใหม่ ได้แก่ ต.ช้างเผือก อ.เมือง 141 มคก./ลบ.ม. ต.ศรีภูมิ อ.เมือง 126 มคก./ลบ.ม., จ.ลำพูน ได้แก่ ต.บ้านกลาง อ.เมือง 129 มคก./ลบ.ม., จ.ลำปาง ได้แก่ ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ 131 มคก./ลบ.ม. ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ 135 มคก./ลบ.ม. ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ 101 มคก./ลบ.ม. ต.พระบาท อ.เมือง 142 มคก./ลบ.ม., จ.แพร่ ได้แก่ ต.นาจักร อ.เมือง 163 มคก./ลบ.ม., จ.น่าน ได้แก่ ต.ในเวียง อ.เมือง 122 มคก./ลบ.ม. ต.ห้วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ 104 มคก./ลบ.ม., จ.พะเยา ได้แก่ ต.บ้านต๋อม อ.เมือง 115 มคก./ลบ.ม., จ.แม่ฮ่องสอน ได้แก่ ต.จองคำ อ.เมือง 94 มคก./ลบ.ม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีพื้นที่ฝุ่น PM 2.5 วิกฤตสีแดง ที่ จ.เลย ได้แก่ ต.นาอาน อ.เมือง 110มคก./ลบ.ม., จ.ขอนแก่น ต.ในเมือง อ.เมือง 108 มคก./ลบ.ม.
ภาคกลาง พื้นที่ฝุ่น PM 2.5 วิกฤติสีแดง ได้แก่ จ.สระบุรี ต.หน้าพระลาน อ.เฉลิมพระเกียรติ 91 มคก./ลบ.ม. อยู่ในระดับสีส้ม ได้แก่ จ.นครสวรรค์ ต.ปากน้ำโพ อ.เมือง 65 มคก./ลบ.ม. จ.พระนครศรีอยุธยา ต.ประตูชัย อ.พระนครศรีอยุธยา 54 มคก./ลบ.ม. จ.ราชบุรี ต.หน้าเมือง อ.เมือง 69 มคก./ลบ.ม. จ.กาญจนบุรี ต.หน้าเมือง อ.เมือง 90 มคก./ลบ.ม.
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดเชียงใหม่ว่า ช่วงวันพุธ ทางจังหวัดร่วมด้วย มทบ.33 กองบิน 41 ส่วนราชการทุกภาคส่วน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดกิจกรรมรณรงค์เพิ่มความชุ่มชื้น ลดค่าฝุ่นละอองในอากาศ บริเวณข่วงประตูท่าแพ และพื้นที่โดยรอบเมือง รวมถึงการฉีดสเปรย์น้ำบนตึกสูงของภาคเอกชนเพื่อลดผลกระทบจากมลพิษทางอากาศขณะนี้ ซึ่งเชียงใหม่และภาคเหนือตอนบนประสบภาวะหมอกควันจากไฟป่าทั้งในและนอกพื้นที่ ทำให้ดัชนีคุณภาพอากาศค่า AQI เกินมาตรฐาน บางช่วงมีค่าสูงสุดของโลกด้วย
เว็บไซต์ airvisual.com เปิดเผยอันดับคุณภาพอากาศ (AQI) เมืองมลพิษ ระบุว่า จ.เชียงใหม่ อยู่ในอันดับ 1 ของโลกเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน ที่มีค่ามลพิษสูงที่สุด
มีรายงานต่อมาว่า มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้ประกาศงดการเรียนการสอนเนื่องจากสถานการณ์หมอกควัน โดยระบุว่า สืบเนื่องจากสถานการณ์หมอกควันที่รุนแรงและส่งผลกระทบต่อสุขภาพ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่จึงให้งดการเรียนการสอนระหว่างวันที่ 14-15 มี.ค.62 กรณีส่วนงานใดที่มีเหตุจำเป็น ไม่สามารถงดการเรียนการสอนหรือการให้บริการได้ ให้อยู่ในดุลพินิจของหัวหน้าส่วนงานนั้น โดยจัดให้มีมาตรการป้องกันสุขภาพแก่นักศึกษาและบุคลากร อีกทั้งมหาวิทยาลัยของดใช้หรือการบริการพื้นที่โล่งแจ้งที่สุ่มเสี่ยงต่อหมอกควัน เช่น สนามกีฬา
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศเรื่อง "พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน" ว่า ในช่วงวันที่ 14-18 มีนาคม 2562 ประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ รวมถึงมีฟ้าผ่า โดยจะเริ่มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกก่อน ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ได้รับผลกระทบในวันถัดไป จึงขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อพืชผลทางการเกษตรไว้ด้วย
สำหรับผลกระทบตามภาคต่างๆ มีดังนี้ ในช่วงวันที่ 14-15 มีนาคม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดบึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์
บุรีรัมย์ และนครราชสีมา, ภาคตะวันออก จังหวัดระยอง จันทบุรี ตราด สระแก้ว นครนายก และปราจีนบุรี
วันที่ 15-16 มีนาคม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดบึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และนครราชสีมา, ภาคกลาง จังหวัดลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล, ภาคตะวันออก จังหวัดระยอง จันทบุรี ตราด สระแก้ว ปราจีนบุรี นครนายก และฉะเชิงเทรา
วันที่ 17-18 มีนาคม ภาคเหนือ จังหวัดลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร เพชรบูรณ์ และตาก, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี ขอนแก่น มหาสารคาม บุรีรัมย์ นครราชสีมา และชัยภูมิ, ภาคกลาง จังหวัดสมุทรสงคราม ราชบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ชัยนาท อุทัยธานี นครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา สิงห์บุรี และอ่างทอง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล, ภาคตะวันออก จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |