13 มี.ค. 2562 นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า บริษัทได้ออกประกาศเชิญชวน เรื่องงานให้สิทธิประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดภาษี (ดิวตี้ฟรี) ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และท่าอากาศยานหาดใหญ่ และประกาศเชิญชวนเรื่องงานให้สิทธิประกอบกิจการเชิงพาณิชย์ ภายในอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยประกาศทั้ง 2 ฉบับ จะคัดเลือกเพียงรายเดียว มีกำหนดให้เข้าบริหารตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน 2563 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2574 หรือ 10 ปี 6 เดือนด้วยวิธีการประมูลเสนอค่าตอบแทน
ทั้งนี้ AOT จะเปิดขายเอกสารประมูลทั้ง 2 ประกาศพร้อมกันในวันที่ 19 มีนาคม 2562 ถึงวันที่ 1 เมษายน 2562 เวลา 09.00-12.00 น. และเวลา 13.00-16.00 น.
พร้อมกำหนดให้ยื่นข้อเสนอการดำเนินงานเพื่อขอรับสิทธิประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดภาษี ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และท่าอากาศยานหาดใหญ่ ในวันที่ 30 เมษายน 2562 เวลา 9.00-11.00 น. และจะประกาศรายชื่อผู้ยื่นข้อเสนอที่มีคุณสมบัติครบถ้วน ตั้งแต่เวลา 11.00 น. จากนั้นกำหนดให้เสนอผลงาน (Presentation) ข้อเสนอด้านเทคนิคผู้ยื่นข้อเสนอการดำเนินงานในวันที่ 2 และ 3 พฤษภาคม 2562 และจะเปิดซองเสนอค่าตอบแทนและประกาศผลคะแนนสูงสุดในวันที่ 10 พฤษภาคม 2562 ตั้งแต่เวลา 9.30 น. เป็นต้นไป
ส่วนงานให้สิทธิประกอบกิจการเชิงพาณิชย์ ภายในอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะให้ยื่นข้อเสนอการดำเนินงานในวันที่ 30 เมษายน 2562 เวลา 13.00-15.00 น. โดยจะประกาศรายชื่อผู้ยื่นข้อเสนอที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตั้งแต่เวลา 15.00 น. และกำหนดเสนอผลงาน (Presentation) ข้อเสนอด้านเทคนิคผู้ยื่นข้อเสนอการดำเนินงานในวันที่ 7 และ 8 พฤษภาคม 2562 และจะเปิดซองเสนอค่าตอบแทนและประกาศผลคะแนนสูงสุดในวันที่ 10 พฤษภาคม 2562 ตั้งแต่เวลา 13.00 น.เป็นต้นไป
นายนิตินัย กล่าวว่า ทั้ง 2 สัญญา จะแข่งขันด้านราคาว่ารายใดจะเสนอค่าตอบแทนขั้นต่ำ (Minimux Guarantee) ที่มีอัตราสูงสุด จะชนะไป และหากดำเนินการแล้ว จะเลือกจ่ายแบบค่าตอบแทนขั้นต่ำ หรือ ส่วนแบ่งรายได้ (Revenue Sharing) แล้วแต่ว่าแบบไหนให้ผลตอบแทนสูงกว่า ซึ่งใช้รูปแบบคัดเลือกคล้ายรายเดิมโดยที่ผ่านมา 7 ปีแรกยอดขายไม่ดีก็จ่ายเป็นค่าตอบแทนขั้นต่ำ แต่ 5 ปีหลังยอดขายเติบโตดีก็จ่ายแบบส่วนแบ่งรายได้
"เราคาดว่าเมื่อเปิดซองราคาและรู้ผลผู้ชนะในวันที่ 10 พฤษภาคม ก็จะนำเรื่องเข้าบอร์ดในเดือนพฤษภาคม เพื่อรับรองผลการประมูล แต่หากมีการร้องเรียนก็อาจจะล่าช้าไม่น่าเกินเดือนมิถุนายน"นายนิตินัย กล่าว
ทั้งนี้ AOT ประเมินสัญญาดิวตี้ฟรีน่าจะมีผู้ประกอบการจากยุโรป และเอเชีย เข้าร่วมประมูลด้วย นอกเหนือเอกชนไทย ส่วนประเด็นที่ไม่เลือกใช้การประมูลแบ่งประเภทสินค้า (Category) เพราะสนามบินไม่เหมือนห้างสรรพสินค้า การเคลื่อนไหวของผู้โดยสารในสนามบินเปลี่ยนไปได้เรื่อย ๆ ตามสถานการณ์และเครื่องบินที่จอดรับ ขณะที่การนำ 4 สนามบินรวมกันเป็นสัญญาเดียว จะน่าจูงใจมากกว่า เพราะสนามบินสุวรรณภูมิมีขนาดใหญ่ที่สุดคิดเป็น 82% ของรายได้ดิวตี้ฟรี ขณะที่สนามบินหาดใหญ่มีขนาดเล็กที่สุด คิดเป็น 0.04% หากเปิดประมูลเดี่ยวคงไม่มีใครสนใจ ส่วนสนามบินภูเก็ตและสนามบินเชียงใหม่ รวมกันคิดเป็น 18% เมื่อรวมกันและให้ผู้ประกอบการที่มีศักยภาพเข้ามาดำเนินธุรกิจจะทำให้ดิวตี้ฟรีของสนามบินสามารถแข่งขันกับประเทศอื่นได้
สำหรับการให้สิทธิในกิจการให้บริการเคาน์เตอร์ส่งมอบสินค้าปลอดอากร (Duty Free Pick-up Counter) นั้น นายนิตินัย กล่าวว่า คณะกรรมการบริษัทได้เห็นชอบหลักการให้เปิดเสรีเรื่องการให้สิทธิดังกล่าว แต่คาดว่าจะดำเนินการได้หลังจากประมูลสิทธิดิวตี้ฟรีและสิทธิประกอบกิจการเชิงพาณิชย์แล้วเสร็จ จึงจะจัดหารูปแบบการให้สิทธิ Duty Free Pick-up Counter ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2562 ซึ่งผู้ประกอบการมีเวลาเตรียมตัว 1 ปี
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |