แพทริก เมอร์ฟีย์ แถลงข่าวที่กรุงพนมเปญ ภาพ AFP

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐเรียกร้องกัมพูชาทบทวนการดำเนินการทั้งหลายที่ทำให้ประชาธิปไตยถอยหลัง ระบุยังมีเวลาทำให้กระบวนการเลือกตั้งทั่วไปกลางปีหน้าชอบด้วยกฎหมาย

แพทริค เมอร์ฟีย์ รองผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่สุดของสหรัฐที่เดินทางเยือนกัมพูชานับตั้งแต่ศาลสูงสุดของกัมพูชาตัดสินใจยุบพรรคกู้ชาติกัมพูชา (ซีเอ็นอาร์พี) พรรคฝ่ายค้านหลักเพียงพรรคเดียวของประเทศนี้ เมื่อเดือนพฤศจิกายน

ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและกัมพูชาตกต่ำที่สุดในรอบหลายปี ภายหลังทางการกัมพูชาจับกุมแกม สุขะ หัวหน้าพรรคซีเอ็นอาร์พี โดยรัฐบาลของนายกฯ ฮุน เซน กล่าวหาว่าเขาขายชาติ สมคบคิดกับอเมริกาวางแผนโค่นล้มรัฐบาล แล้วต่อมารัฐบาลยังได้ยื่นให้ศาลสั่งยุบพรรคซีเอ็นอาร์พี อันส่งผลให้พรรคถูกยุบและแกนนำพรรคกว่าร้อยคนถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองนาน 5 ปี ทำให้การเลือกตั้งทั่วไปในเดือนกรกฎาคม 2561 จะไม่มีพรรคฝ่ายค้านพรรคนี้ลงชิงชัยท้าทายอำนาจของฮุน เซน

เมอร์ฟีย์แถลงกับผู้สื่อข่าวที่กรุงพนมเปญเมื่อวันพุธที่ 13 ธันวาคม 2560 ว่า สหรัฐแนะนำกัมพูชาว่าควรทบทวนกลับลำการดำเนินการเหล่านี้ซึ่งทำให้ประชาธิปไตยถอยหลัง กัมพูชายังมีเวลาก่อนจะถึงการเลือกตั้ง ที่จะทำให้กระบวนการเลือกตั้งชอบด้วยกฎหมาย

ภายหลังการยุบพรรค รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศตัดความช่วยเหลือในการจัดการเลือกตั้งปีหน้าของกัมพูชา และเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา สหภาพยุโรป (อียู) ก็ใช้มาตรการในแบบเดียวกัน

เมอร์ฟีย์กล่าวด้วยว่า คำกล่าวหาที่ว่าแกม สุขะ วางแผนขายชาติโดยมีสหรัฐให้การสนับสนุนนั้น เป็นคำกล่าวหาที่ปั้นแต่งขึ้น

ระหว่างการมาเยือนกัมพูชาครั้งนี้ เมอร์ฟีย์ได้พบปะกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกัมพูชาหลายคน แต่ไม่มีระดับรัฐมนตรี เขายังได้พบกับกลุ่มประชาสังคมหลายกลุ่มด้วย

อุช บอริช ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ที่ได้พบกับเมอร์ฟีย์เมื่อวันอังคาร กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ทั้งสองฝ่ายสนทนากันเกี่ยวกับการปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ

เจ้าหน้าที่ผู้นี้กล่าวปกป้องการดำเนินการของรัฐบาลด้วยว่า ทำไปตามกรอบของกฎหมาย เพื่อปกป้องเอกราช, สันติสุข และความมั่นคงของกัมพูชา.