ในบรรยากาศบ้านเมืองที่กำลังเดินไปสู่เส้นทางการเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคมนี้ วิเคราะห์กันว่าบ้านเมืองมีแนวโน้มกลับไปสู่วังวนเดิม แต่อาจร้ายกว่าเก่า เพราะความแตกแยกจาก 2 ขั้วเดิม ขยายผลไปสู่การเมืองยุค 3 ก๊กเป็นที่เรียบร้อย เพราะ แต่ละฝ่ายต่างมุ่งหน้ารบพุ่งกันทั้งบนดินใต้ดินแย่งชิงอำนาจทางการเมืองหลังเลือกตั้ง โดยไม่เห็นหัวเจ้าของประเทศหรือชาวบ้านตาดำๆ ที่ตกเป็นเหยื่อความเจ็บปวดจากพิษการเมืองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ส่งผลกระทบต่อปัญหาเศรษฐกิจและปากท้องของพวกเขา 

ดังนั้นแนวทางที่จะหยุดสถานการณ์เหล่านี้ได้  ก่อนจะถึงวันเลือกตั้งอีกไม่กี่อึดใจ “นายอนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย อีกหนึ่งพรรคสำคัญของการเมืองไทย ที่ชูแนวทางปฏิเสธความขัดแย้งอย่างสิ้นเชิง และที่ผ่านมาได้อาสาตัวมุ่งทำงานแก้ปัญหาปากท้องให้ประชาชน ได้จุดประเด็นเรียกร้องพร้อมเตือนสติด้วย  “10 ข้อ (คิด) ก่อนใช้สิทธิเลือกตั้ง” เพื่อพาคนไทยทั้งประเทศออกจากวิกฤติความขัดแย้งที่กำลังก่อตัวขึ้นหลังเลือกตั้งให้สำเร็จเป็นความจริง  

ข้อ 1 ประเทศไทย ไม่ใช่สังเวียน หรือ เวที ให้ใครมาต่อสู้กันอีกแล้ว เราบอบช้ำมามากแล้ว

ข้อ 2 ประเทศไทย ไม่ใช่เวทีชำระสะสางความแค้นของใคร ทั้งส่วนตัวและเพื่อส่วนรวม

ข้อ 3 ประเทศไทย ไม่ใช่บริษัทส่วนตัวที่จะให้ใครมาทดลองงาน ฝึกงาน เพราะทุกอย่างเดิมพันด้วยชีวิตประชาชน

ข้อ 4 ประเทศไทย ไม่ใช่บริษัทส่วนตัวที่ใครจะขอมาแก้มืออีกสักครั้ง เพราะครั้งที่แล้วมีโอกาส แต่ "เอาไม่อยู่" ครั้งนี้ มาขอโอกาส "เอาใหม่"

ข้อ 5 ประเทศไทย ไม่ใช่แผ่นดินกว้างใหญ่ และ มั่งคั่ง มากพอที่จะให้ใครๆ มาทำไร่ความฝันเลื่อนลอย ทุกอย่างที่พูดต้องทำได้จริง ทำได้เลย ทำได้ทันที และต้องใช้คนทำงานเป็น มาทำงาน เพราะทุกนาทีที่เสียไป คือความสูญเสียของประชาชน

ข้อ 6 ประเทศไทย ไม่ใช่เวทีโต้วาที หรือ ยอวาที ที่จะตัดสินกันด้วยคำพูด ใครพูดเก่งชนะ ใครพูดไม่เก่งแพ้ แท้จริงแล้วประชาชนต้องการคนพูดเก่ง หรือ คนทำงานเก่ง เข้าไปทำงานกันแน่ ถามใจตัวเองดู

ข้อ 7 ประเทศไทย ไม่ใช่ประเทศร่ำรวย ที่จะมีเงินแจกประชาชนพร่ำเพรื่อ เราเป็นประเทศที่มีทรัพยากรมากมาย เคยได้ยินภาษิต "นักการเมืองให้ปลา พระราชาให้เบ็ด" ไหม ต้องช่วยให้ประชาชนหาปลา ได้ด้วยตนเอง ไม่ต้องเป็นหนี้บุญคุณใคร

ข้อ 8 ประเทศไทย ถึงเวลาต้องเปลี่ยนวิธีคิด ใช้เงินที่มีน้อยให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนสูงสุด ต้องเลือกว่าจะซื้อรถถัง หรือซื้อรถไถแจกชาวไร่ชาวนา ต้องเลือกจะแจกเงินซื้อนมให้เด็ก ไม่กี่ปี หรือสร้างอาชีพที่มั่นคงให้พ่อแม่ มีรายได้เลี้ยงลูกตลอดไป

ข้อ 9 ประเทศไทย จะเข้มแข็งได้ ถ้าประชาชนส่วนใหญ่เข้มแข็ง ประเทศไทยจะรวยได้ ถ้าประชาชนส่วนใหญ่รวย ถ้าประชาชนยากจน ประเทศไทยจะรวย รัฐบาลจะมีเงินมาแจกได้อย่างไร นอกจากกู้เงินมาแจก รัฐบาลมาแล้วก็ไป แต่หนี้ที่กู้มา ประชาชนต้องจ่ายด้วยภาษี ดังนั้น อย่าแปลกใจ ที่เราจะถูกรีดภาษีมากขึ้นทุกปี

ปิดท้ายด้วยข้อ 10 ประเทศไทย ต้องการรัฐบาลที่คิดเป็น ทำงานเป็น หารายได้เข้าประเทศเป็น รัฐบาลที่หาเงินหางาน หาอาชีพให้ประชาชน มีรายได้ เป็นรัฐบาลที่มองปัญหาออก แก้ปัญหาเป็น มีเป้าหมายแก้ปัญหาปากท้องประชาชนเป็นเรื่องแรก ไม่ใช่รัฐบาลที่มีเป้าหมายจะไปล้มใคร ล้างแค้นใคร ปลุกระดมประชาชน ไปฉีกรัฐธรรมนูญ สร้างเงื่อนไขให้เกิดความไม่สงบขึ้นในประเทศไทยอีก

“อ่าน 10 ข้อนี้แล้ว ตัดสินใจได้เลยว่า จะเลือกพรรคไหน? พรรคภูมิใจไทย จะไม่พาพี่น้องไปขัดแย้งกับใคร ไปตีกับใคร จะตั้งหน้าตั้งตาช่วยพ่อแม่พี่น้องทำมาหากิน หาเงินหารายได้เข้าบ้าน เลี้ยงดูลูกหลานสร้างครอบครัวมั่นคง วันที่ 24 มีนาคมนี้ เลือกได้คนเดียว พรรคเดียว ตัดสินใจกันดีๆ ตัดสินใจผิด ชีวิตติดหนี้ ไปอีกนานแสนนาน หากตัดสินใจถูก จะมีงานทำ มีเงินใช้ ตลอดไป” นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ฝาก 10 ข้อคิดต่อการเลือกตั้งครั้งนี้

นี่คืออีกหนึ่งตัวเลือกของประชาชน ที่อาสาตัวพาทุกคนออกจากหลุมดำความขัดแย้ง และความยากจน สู่ท้องฟ้าสีทองแห่งความอยู่ดีกินดีอย่างเท่าเทียมกัน.